นักธุรกิจมาเลฯ เหยื่อสแกมเมอร์เขมรเผย ถูกทรมาน-ข่มขืน-บังคับกินหมู ชี้ยังมีคนถูกขังอีก 700 คน

นักธุรกิจชาวมาเลเซีย หนึ่งในเหยื่อแก๊งสแกมเมอร์กัมพูชา เผยว่าถูกทรมาน-ข่มขืน และบังคับให้กินหมู ก่อนสุดท้ายหนีตายออกมาได้
มูฮัมหมัด ซยาฟิก ปูบาลัน อับดุลลาห์ (Muhammad Syafiq Pubalan Abdullah) นักธุรกิจชาวมาเลเซีย วัย 40 ปี หนีรอดจากเงื้อมมือของแก๊งหลอกลวงงานในประเทศกัมพูชามาได้ หลังจากภรรยาของเขายื่นรายงานต่อตำรวจและต้องจ่ายค่าไถ่ 6,000 ริงกิต (ประมาณ 46,600 บาท) แต่เขาระบุว่ายังมีชาวมาเลเซียอีกราว 700 คนที่ยังคงถูกกักขังและเผชิญกับการทรมาน
มูฮัมหมัด ซยาฟิก เล่าในการแถลงข่าวที่จัดโดยสมาคมผู้บริโภคชาวมุสลิมมาเลเซีย (PPIM) ที่กัวลาลัมเปอร์ ถึงความโหดร้ายที่เหยื่อวัย 17 ถึง 35 ปี ต้องเผชิญ โดยเขาถูกทุบตีทุกวันในช่วงสัปดาห์แรกที่ไปถึง “พวกเขาจะใช้เข็มขัดตีผู้หญิง ผมได้ยินมาว่ามีเหยื่อหญิงคนหนึ่งถูกข่มขืนโดยคน 11 คน หลังจากแม่ของเธอยื่นรายงานต่อตำรวจ” และเขายังถูกบังคับให้กินเนื้อหมูหลายครั้ง หากปฏิเสธก็จะถูกทำร้าย

เขายังเผยต่อว่า เพื่อนที่รู้จักกันมา 12 ปี ชักชวนให้เขาไปเปิดร้านอาหารมาเลเซียในกัมพูชา โดยอ้างว่าที่นั่นยังไม่มีร้านอาหารมาเลเซียเลย ด้วยความเชื่อใจเขาจึงเดินทางจากเมืองอลอร์ สตาร์ ไปยังกรุงเทพฯ ก่อนจะมีคนขับรถมารับและพาเขาเข้าไปยังกัมพูชา
“พวกเขาหลีกเลี่ยงเส้นทางปกติ เพื่อที่ผมจะไม่รู้ทางกลับ ในกรุงเทพฯ มีตำรวจไทยเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ในพนมเปญ ผมเห็นเมืองเล็กๆ แห่งหนึ่งและคาสิโน และที่ทำงานของผมมีทหารเฝ้าอยู่ พวกเขาบอกให้พวกเราหลอกลวงผู้คนผ่านทางโทรศัพท์”
โดยพวกเขาจะแสร้งทำเป็นเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานความมั่นคงทางไซเบอร์ของสิงคโปร์ และสอบถามผู้คนเกี่ยวกับโฆษณางานปลอมในมาเลเซีย “เพื่อทำรายงานปฏิเสธการแจ้งความ เราจะขอเลขบัตรประชาชนของพวกเขา และด้วยข้อมูลนั้น เราสามารถสืบค้นเกือบทุกอย่างได้”
เขายอมรับว่า ภายใต้การดูแลของเขา มีชาวสิงคโปร์รายหนึ่งถูกหลอกเงินไปถึง 67,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ (ประมาณ 1.6 ล้านบาท)
การหลบหนีของมูฮัมหมัด ซยาฟิก เป็นผลมาจากภรรยาของเขา จามิละห์ อาหมัด วัย 42 ปี ที่เริ่มสังเกตเห็นสิ่งผิดปกติระหว่างการโทรศัพท์ครั้งหนึ่ง
ภรรยาได้โพสต์วิดีโอเกี่ยวกับความทุกข์ทรมานของสามีและเปิดเผยชื่อเพื่อนที่หลอกลวงนั้น “ฉันพยายามโทรหา ‘เพื่อน’ คนนั้นและขอให้เขานำสามีของฉันกลับมา ตอนแรกพวกเขาขอค่าไถ่ 6,000 ริงกิต ซึ่งฉันไม่สามารถจ่ายได้”
“ฉันบอกตัวแทนว่าฉันได้ยื่นรายงานต่อตำรวจครั้งที่สองและระบุชื่อเขา หลังจากนั้นสองวัน พวกเขาก็อนุญาตให้สามีฉันกลับมา” จามิละห์กล่าว โดยเชื่อว่า “เพื่อน” คนนั้นเป็นคนจ่ายค่าไถ่ให้
ทางสมาคม PPIM เรียกร้องให้ทางการเข้าจับกุมตัวแทนคนดังกล่าว และดำเนินการเพื่อช่วยเหลือชาวมาเลเซีย 700 คนที่ยังคงติดอยู่ในศูนย์หลอกลวงงานแห่งนั้นโดยเร็วที่สุด
อ้างอิง : www.scmp.com
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- UN ชี้พิกัด แหล่ง “สแกมเมอร์” ตั้งฐานฟอกเงิน อยู่หลังบ้าน “ฮุน เซน”
- ไทยส่งตัว สแกมเมอร์จีน 1,208 ชีวิต ทำงานที่เคเคปาร์ค กลับประเทศ
ติดตาม The Thaiger บน Google News:





