ข่าวต่างประเทศ

เปิดลิสต์ 7 กลิ่น “งู” เกลียดที่สุด วางไว้รอบบ้าน ไม่กล้าเข้าใกล้ คนไทยหาง่าย

คนไทยต้องระวังช่วงฝนตก งูเข้าบ้าน เผยกลิ่นที่งูเกลียด ใช้ของในครัวและของใช้ในบ้านคนไทย ช่วยสร้าง “เกราะป้องกัน” ธรรมชาติ

ในช่วงฤดูฝนหรือช่วงน้ำท่วม งูมักจะหนีออกจากรังเพื่อหาสถานที่แห้งอบอุ่นสำหรับหลบภัย จึงมีข่าวงูเข้าบ้าน บ่อยๆ แต่วันนี้ไยเกอร์ไปเจอเทคนิคป้องกัน ไล่งูออกจากพื้นที่อยู่อาศัยของครอบครัวได้อย่างได้ผล ด้วยการใช้ “กลิ่น” ที่พวกมันทนไม่ได้

1. กลิ่นแอมโมเนีย

กลิ่นฉุนรุนแรงและกลิ่นคายเฉพาะตัวของแอมโมเนีย ทำให้งูรู้สึกอึดอัดและไม่อยากเข้าใกล้

วิธีใช้ จุ่มผ้าขี้ริ้วลงในสารละลายแอมโมเนีย ใส่ในถุงพลาสติก (ไม่ต้องปิดปากถุง) แล้วนำไปวางไว้รอบๆ บริเวณที่ต้องการป้องกัน เช่น รอบสระน้ำ บ่อปลา หรือที่ชื้นแฉะ

คำเตือน สารละลายนี้ระเหยเร็ว ต้องเปลี่ยนผ้าทุกวัน (หรือหลังฝนตก) และควรระมัดระวังไม่ให้สัตว์เลี้ยงหรือเด็กเข้าใกล้ เพราะไอระเหยอาจทำให้เกิดการระคายเคืองได้

กลิ่นแอมโมเนีย

2. กลิ่นแนฟทาลีน หรือ ลูกเหม็น

แนฟทาลีนเป็นส่วนประกอบหลักในยาไล่งูเชิงพาณิชย์หลายชนิด กลิ่นที่รุนแรงของมันไม่เพียงไล่งู แต่ยังไล่แมลงหลายชนิดด้วย วิธีใช้ นำไปวางในบริเวณที่ต้องการ

คำเตือน หน่วยงานด้านสุขภาพ รวมถึงสำนักงานพิทักษ์สิ่งแวดล้อมแห่งสหรัฐอเมริกา (EPA) เตือนว่า การสูดดมแนฟทาลีนเป็นเวลานานอาจทำให้เกิดการระคายเคืองปอด, ดวงตา หรืออาจนำไปสู่ภาวะโลหิตจางได้ ดังนั้น ควรใช้ในพื้นที่เปิดโล่ง อากาศถ่ายเทสะดวก และต้องเก็บให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง

ลูกเหม็น

3. กลิ่นกำมะถัน

ผงกำมะถันเปรียบเหมือนเกราะป้องกัน 2 ชั้น ต่อต้านงู กลิ่นเหม็นเฉพาะตัวของมันจะทำให้งูหนี และผงกำมะถันยังสร้างความระคายเคืองแสบร้อนต่อผิวหนังของงูเมื่อเลื้อยผ่าน วิธีใช้ ให้โรยผงกำมะถันเป็นแนวยาวรอบรั้วบ้าน ฐานบ้าน หรือบริเวณที่เคยพบงู

คำเตือน ควรสวมถุงมือขณะใช้ เพราะกำมะถันอาจทำให้ผิวหนังมนุษย์บางคนเกิดการระคายเคืองเล็กน้อยได้

4. กลิ่นน้ำมันหอมระเหย (กานพลูและอบเชย)

งานวิจัยหลายชิ้นชี้ว่า ส่วนผสมของน้ำมันกานพลูและน้ำมันอบเชย มีสารประกอบ “ยูจีนอล” (Eugenol) และ “ซินนามาลดีไฮด์” (Cinnamaldehyde) ซึ่งเป็นสองสารประกอบที่งูเกลียดมาก

วิธีทำ ผสมน้ำมันหอมระเหยทั้งสองชนิด (อย่างละ 2-3 หยด) กับน้ำในขวดสเปรย์ เขย่าให้เข้ากัน แล้วนำไปฉีดพ่นตามขอบหน้าต่าง ชายคาบ้าน หรือแนวทางเดินที่งูอาจผ่าน

แม้ว่ากลิ่นนี้ปลอดภัยต่อมนุษย์ แต่ควรหลีกเลี่ยงการฉีดพ่นใกล้ดวงตาและจมูก ทั้งของคนและสัตว์เลี้ยง

กลิ่นน้ำมันหอมระเหย

5. กลิ่นกระเทียมและหัวหอม

กระเทียมและหัวหอมมีกรดซัลโฟนิก (Sulfonic acid) ซึ่งเป็นสารประกอบที่งูเกลียด ให้สับกระเทียมและหัวหอมสดผสมกับเกลือ แล้วนำไปโรยรอบรั้วบ้านหรือสวน หรือนำไปบดขยี้แล้วผสมน้ำเพื่อทำเป็นสเปรย์ฉีดไล่งู วิธีนี้ต้องทำซ้ำบ่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังฝนตก แต่ปลอดภัยมากสำหรับคน

กลิ่นกระเทียมและหัวหอม

6. กลิ่นน้ำส้มสายชูขาว

น้ำส้มสายชูมีกรดอ่อนๆ และมีกลิ่นที่รุนแรง สามารถสร้างความระคายเคืองต่อผิวหนังของงู ทำให้มันหลีกเลี่ยงการสัมผัส วิธีคือ ให้เทน้ำส้มสายชูขาวราดรอบขอบสระน้ำ หรือบ่อน้ำ เพื่อป้องกันไม่ให้งูเลื้อยลงไป

ไทยเกอร์ลองมาแล้ว สังเกตว่า น้ำส้มสายชูระเหยเร็วมาก จึงต้องเติมซ้ำบ่อยๆ หากต้องการให้คงประสิทธิภาพ

7. กลิ่นปูนขาว ผสมพริก หรือ น้ำมันเปปเปอร์มินต์

ส่วนผสมของปูนขาว (ซึ่งมีฤทธิ์เป็นด่าง) กับความเผ็ดร้อนของพริกป่น หรือกลิ่นฉุนเย็นของเปปเปอร์มินต์ (สะระแหน่) สามารถสร้าง “รั้วธรรมชาติ” ที่มีประสิทธิภาพ

ผสมปูนขาวกับพริกป่น หรือหยดน้ำมันเปปเปอร์มินต์ลงไป แล้วนำไปโรยหรือฉีดพ่นรอบบ้าน หรือใช้วิธีโรยปูนขาวอย่างเดียวตามแนวรั้วก็ได้

น้ำมันเปปเปอร์มินต์

สุดท้ายแล้ว ผู้เชี่ยวชาญย้ำว่า การไล่งูให้ได้ผล ไม่ควรพึ่งพาแค่กลิ่นอย่างเดียว แต่ต้องดูแลสภาพแวดล้อมรอบบ้านควบคู่ไปด้วย ควหมั่นตัดหญ้าและพุ่มไม้ให้โล่งเตียน ทำความสะอาดสวนไม่ให้รกทึบ และที่สำคัญที่สุดคือ จำกัดแหล่งที่อยู่อาศัยของหนู ซึ่งเป็นอาหารโปรดของงู

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ติดตาม The Thaiger บน Google News:

Thaiger

The Thaiger นำเสนอข่าวสารล่าสุดและอัปเดตจากทั่วประเทศไทย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button