รัฐบาลย้ำ! ซื้อ-ขายสิทธิ “คนละครึ่งพลัส” มีความผิดฐานฉ้อโกง โทษจำคุก 3 ปี

ก่อนเริ่มใช้ คนละครึ่งพลัส วันแรก 29 ต.ค. 68 รัฐบาลย้ำ ผู้ใช้และร้านค้า อย่าซื้อ-ขายสิทธิ หรือทำรายการเทียมเข้าข่ายทุจริต ชี้โทษอาญา จำคุกไม่เกิน 3 ปี และถูกระงับสิทธิจากโครงการรัฐถาวร
รัฐบาลยืนยันว่า ผู้ได้รับสิทธิและร้านค้าที่ซื้อ-ขายสิทธิในโครงการ “คนละครึ่งพลัส” มีความผิดชัดเจน การร่วมกันใช้สิทธิโดยไม่มีการซื้อ-ขายสินค้าจริงก็ถือเป็นความผิดเช่นกัน การกระทำเหล่านี้เข้าข่ายความผิดฐานฉ้อโกงตามกฎหมายอาญา โทษคือจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ผู้กระทำผิดยังถูกตัดสิทธิและถูกเรียกเงินคืนจากรัฐเพิ่มเติมด้วย
การกระทำแบบไหนที่เข้าข่ายทุจริต
หน่วยงานรัฐได้ระบุลักษณะการกระทำที่ถือว่าผิดชัดเจน ดังนี้
1. ขายหรือซื้อสิทธิ ผู้รับสิทธินำสิทธิไปให้ผู้อื่นใช้แทน หรือรับ-แลกวงเงินสิทธิเป็นเงินสด
2. สร้างรายการเทียม ร้านค้าที่ร่วมโครงการ “ถุงเงิน” ร่วมมือกับผู้ใช้ สร้างรายการซื้อ-ขายเท็จ เช่น การยิงบิลลม หรือการแสตมป์ยอดโดยไม่มีการซื้อขายสินค้าจริง
การกระทำทั้งสองลักษณะนี้ถือเป็นการหลอกลวงเพื่อให้รัฐร่วมจ่ายโดยมิชอบตามกฎหมายอาญา รัฐบาลจึงดำเนินการทางกฎหมายฐานฉ้อโกงตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341

มาตรการทางปกครองและกฎหมาย
นอกจากการดำเนินคดีอาญาแล้ว รัฐยังใช้มาตรการทางปกครองควบคู่กันด้วย ดังนี้
- ระงับสิทธิในโครงการทันที
- เรียกเงินที่รัฐร่วมจ่ายคืนทั้งหมด
- กันไม่ให้เข้าร่วมโครงการของรัฐอื่นอีกต่อไป
รัฐบาลยังประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ตรวจสอบเชิงรุก เพื่อป้องกันและปราบปรามการทุจริต
หน่วยงานคุ้มครองผู้บริโภคย้ำเตือนประชาชนว่า ต้องจ่ายตามจริง ห้ามแปลงเป็นเงินสดหรือแลกเงินเด็ดขาด ส่วนร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ “ถุงเงิน” ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขอย่างเคร่งครัด การฝ่าฝืนมีความผิดทั้งทางคดีและทางปกครอง
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- วิธีเติมเงิน G-wallet ใช้จ่ายคนละครึ่งพลัส เริ่ม 29 ต.ค.นี้ 4 ช่องทางง่าย ๆ
- ไขข้อสงสัย ใช้เงิน คนละครึ่งพลัส 200 บาทไม่หมด เก็บไว้ใช้วันถัดไปได้ไหม?
- ธ.กรุงไทย เปิดจุดบริการพิเศษ 25-26 ต.ค.นี้ สำหรับแอปฯ เป๋าตัง-ถุงเงิน ที่เข้าร่วม “คนละครึ่งพลัส”
ประชาชนสามารถสอบถามการใช้งานแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” และรายการรับเงินภาครัฐ โทร. 0-2111-1122 กด 3 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรือแจ้งเบาะแสพฤติการณ์ต้องสงสัยผ่านหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ทันที
ข้อมูลจาก
ติดตาม The Thaiger บน Google News:





