นรกส่งมาเกิด ! 2 ผัวเมียพนง.ส่งของ รุมยำสาวพิการ-ถอดขาเทียมทิ้งอ้างกลัวหนี

เกินมนุษย์ พนักงานส่งของบริาัทชื่อดัง รุมทำร้ายสาวพิการ หดหู่ถอดขาเทียมทิ้งสุดสลด อ้างกลัวสาวไม่สมประกอบหนี สังคมไม่ทนจี้บริษัทดังล่าตัวในโฉดลงโทษให้หนักสมความโหดที่ทำคนอื่น
จากกรณีสำนักข่าว “สยามรัฐ” เปิดโปงเคสอุกอาจท้าทายความศักสิทธิ์ของกฎหมายบ้าน กฎหมายเมืองไม่น้อย เมื่อมีรายงานว่า 2 สามีภรรยาอาชีพพนักงานส่งของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ก่อเหตุทำร้ายสาวพิการต้องใส่ขาเทียมยุงเดิน ภายในห้องเช่าร้านเย็บผ้า ม.2 ต.ทุ่งควายกิน อ.แกลงอ.แกลง จ.ระยอง
พ.ต.ต.เจนณรงค์ ละครรัมย์ สว.สส.สภ.แกลง จ.ระยอง เปิดเผยความคืบหน้าหลังรับแจ้งเหตุทำร้ายร่างกายจึงนำกำลังตรวจสอบ พบผู้เสียหายนั่งร้องไห้สภาพช้ำทั้งตัว ตรวจสอบกล้องวงจรปิดร้านมือถือข้างเคียง พบภาพหลักฐานขณะสองผัวเมียพนักงานส่งของบุกเข้าร้านรุมกระชาก น.ส.กฤษฎา ออกมาหน้าร้าน ก่อนผลัดกัน ตบหน้า-ตีท้ายทอยอย่างไม่ยั้งมือ โดยฝ่ายชายถึงขั้น ถอดขาเทียมผู้เสียหายแล้วโยนพ้นตัว พลางพูดว่า “ถอดไว้ เดี๋ยววิ่งหนี”
ต่อมาทราบชื่อผู้ก่อเหตุ น.ส.ปิยนุช และสามี (ยังไม่ระบุชื่อ) ก่อนเกิดเหตุทั้งคู่โทรเรียกตำรวจมาก่อน อ้างว่าผู้เสียหายรับของแล้วไม่โอนเงิน แต่ผู้เสียหายยืนยันอีกอย่างว่า เธอโอนแล้วแต่โอนผิดบัญชีจึงเกิดปากเสียงกระทั่งเกิดเหตุรุมทำร้ายขึ้น
น.ส.กฤษฎา สาวผู้พิการเปิดใจทั้งน้ำตาพยายามอธิบายทุกวิถีทาง แต่อีกฝ่ายไม่สนใจฟังให้เข้ากกหูใดๆ แถมยังถอด “ขาเทียม” ทิ้งทั้งๆ ที่สภาพแบบนี้คงหลบหนีหรือเคลื่อนไหวยังลำบาก เหตุถูกทำร้ายนี้ผู้เสียหายย้ำเสียงสั่นเครือ เธอกลัวมากที่สุดในชีวิต !
“หนูพิการขาขาด วิ่งหนีไม่ได้อยู่แล้วจะถอดขาเทียมหนูไปทำไม หนูแค่พยายามอธิบายว่าโอนผิดบัญชี เขาก็ไม่ฟัง ทำไมต้องทำกับผู้หญิงพิการแบบนี้ หนูกลัวมาก ฝากตำรวจช่วยเอาผิดให้ถึงที่สุดค่ะ”
ขณะที่ นายกำธร วายร้อน อายุ 63 ปี บิดาของผู้เสียหาย กล่าวด้วยอารมณ์โกรธ ระบุ “ผมเคยเป็นนักเลงมาก่อน แต่ไม่เคยแตะต้องผู้หญิง มันเกินไปจริงๆ อย่าให้เจอหน้า!”
ด้าน นายเอ (นามสมมติ) ชาวบ้านผู้เห็นเหตุการณ์ กล่าวสั้นๆ ไม่น่าทำแบบนี้กับคนพิการแท้ๆ ยังไม่เว้น
ทั้งนี้แม้ก่อนหน้าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตได้ควักเงินจ่ายค่าสินค้าแทน จำนวน 247 บาท แต่ต่อมาได้มีการออกหมายเรียก 2 สามีภรรยามารับทราบข้อหาที่ไปกระทำกับผู้เสียหายที่พิการแล้ว ข้อหา “ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บ” พร้อมพิจารณาแจ้งข้อหาเพิ่มเติมตามพฤติการณ์โหดเหี้ยมจากภาพหลักฐานกล้องวงจรปิดนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ทำไมเรื่องนี้ถึงละเอียดอ่อนกว่าที่คิด แค่สูญเสียขาก็แย่แล้ว ใส่ประกอบอีกครั้งต้องเช็กละเอียด
ขาเทียม คือ อุปกรณ์เทียมชนิดหนึ่งใช้ในผู้ป่วยที่สูญเสียขา เพื่อทดแทนส่วนที่ขาดหายไป และช่วยในการเคลื่อนไหว เช่นการยืนเดินในชีวิตประจำวันเป็นต้น ขาเทียมแบ่งออกได้ปลายประเภทตามระดับของการตัดขา ดังนี้
- ขาเทียมระดับข้อเท้า คือขาเทียมที่ใช้ในผู้ป่วยที่ตัดขาระดับข้อเท้าลงไป
- ขาเทียมระดับใต้เข่าคือขาเทียมที่ใช้ในผู้ป่วยที่ตัดขาระดับใต้เข่าลงไป
- ขาเทียมระดับเข่า คือขาเทียมที่ใช้ในผู้ป่วยที่ตัดขาผ่านหัวเข่า
- ขาเทียมระดับเหนือเข่า คือขาเทียมที่ใช้ในผู้ป่วยที่ตัดขา สูงกว่าหัวเข่าขึ้นไป
- ขาเทียมระดับสะโพก คือขาเทียมที่ใช้ในผู้ป่วยที่ตัดขาผ่านข้อสะโพก หรือสูงกว่าข้อสะโพกขึ้นไป
ส่วนประกอบของขาเทียมแต่ละระดับจะแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับอวัยวะที่ขาดหายไปของผู้ป่วย เช่นในกรณีที่เป็นขาเทียมระดับใต้เข่า ส่วนประกอบที่สำคัญหลักๆได้แก่ เบ้าขาเทียม ระบบยึดระหว่างตอขากับขาเทียม หน้าแข้งเทียม และเท้าเทียม ในกรณีที่ขาเทียมระดับเหนือเข่าจะมีข้อเข่าเทียมเพิ่มขึ้นมาเพื่อทำงานแทนข้อเข่าที่ถูกตัดไปของผู้ป่วย หรือกรณีที่เป็นขาเทียมระดับข้อสะโพกจะมีข้อสะโพกเทียมเพิ่มขึ้นมาเพื่อทำหน้าที่ทดแทนสะโพกที่ถูกตัดไปเป็นต้น
การตรวจสอบด้วยตัวเองหลังจากใส่ขาเทียม
หลังจากถอดขาเทียมแล้วต้องสังเกตดูว่า ตอขามีการเปลี่ยนแปลงไปหรือไม่ หรือมีรอยซ้ำเกิดขึ้นบริเวณใด ถ้ามีแผลเกิดขึ้นควรงดการใส่ขาเทียมชั่วคราว ล้างแผลให้สะอาดใส่ยาฆ่าเชื้อโรค ถ้าแผลหายจึงทดลองใส่อีกครั้ง ถ้ายังเกิดแผลอีกครั้งควรปรึกษาแพทย์หรือเจ้าหน้าที่กายอุปกรณ์เพื่อทำการแก้ไขต่อไป
คำแนะนำและข้อควรระวัง
- ควรเก็บขาเทียมให้ห่างบริเวณที่มีความร้อนสูง
- เมื่อเลิกใช้เก็บให้พ้นมือเด็ก และควรวางเบ้าให้อยู่ในท่านอนเสมอเพื่อกันล้มซึ่งอาจแตกหักได้ถ้าล้ม
- เมื่อตรวจสอบพบว่ามีสิ่งผิดปกติควรรีบปรึกษาแพทย์ หรือเจ้าหน้าที่กายอุปกรณ์เพื่อตรวจสอบความผิดปกติ อย่าดัดแปลงแก้ไขกายอุปกรณ์เทียมเอง
- ผู้ป่วยควรติดตามการรักษาฟื้นฟูจากแพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟูอย่างสม่ำเสมอควรนำขาเทียมกลับมาตรวจเช็คสภาพอย่างน้อยทุกๆ 6 เดือน
- หากมีความจำเป็นต้องหยุดใส่ขาเทียมเป็นเวลานาน ควรพันตอขาด้วยผ้ายืดเพื่อป้องกันการบวมของตอขา
- ไม่ควรใส่ขาเทียมแช่น้ำนานๆ ถ้าจำเป็นควรใช้อุปกรณ์ห่อหุ้มขาเทียมไว้
- ถ้ามีความจำเป็นต้องเปลี่ยนรองเท้าใหม่ให้เลือกรองเท้าที่มีความสูงเท่ารองเท้าคู่เดิม
ตัดภาพมาที่สภาพจิตใจของผู้สูญเสียขาส่วนใหญ่นั้น อ้างอิงข้อมูลจาก “CEPO” หรือศูนย์แห่งความเป็นเลิศด้านกายอุปกรณ์ (Center of Excellence Prosthetics and Orthotics) ของม.มหิดล และบริษัท Scandinavian Orthopaedic Laboratory (SOL) ประเทศสวีเดนระบุ ผลกระทบทางจิตใจของผู้ที่ถูกตัดขาสามารถแบ่งออกเป็นหลายด้าน ด้านแรกคือความรู้สึกสูญเสียและภาวะซึมเศร้า งานวิจัยในกลุ่มผู้พิการพบว่ากว่า 30-50% ของผู้ที่ถูกตัดขามีอาการซึมเศร้าระดับปานกลางถึงรุนแรงในช่วงแรกหลังการผ่าตัด (กรมสุขภาพจิต 2563)
อย่างไรก็ตาม งานวิจัยเดียวกันยังพบว่ามีปัจจัยหลายประการที่ช่วยให้ผู้พิการสามารถฟื้นตัวทางจิตใจและมีความสุขได้เทียบเท่าหรือมากกว่าคนทั่วไป หนึ่งในปัจจัยสำคัญคือการสนับสนุนจากครอบครัวและสังคม ผู้พิการที่ได้รับการสนับสนุนที่ดีจากครอบครัวและเพื่อนมีแนวโน้มที่จะปรับตัวได้เร็วขึ้น และมีระดับความสุขที่สูงขึ้นถึง 70% เมื่อเทียบกับผู้ที่ขาดการสนับสนุน (ณัฐวดี ดวงพรม, 2565) นอกจากนี้ การเห็นคุณค่าในตนเองและการปรับตัวเชิงบวกยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ผู้พิการสามารถก้าวข้ามความท้าทายทางร่างกายและจิตใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การเตรียมความพร้อมทางจิตใจจึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ที่ถูกตัดขา การให้ข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับการใช้ขาเทียม การฟื้นฟูสมรรถภาพ และการสนับสนุนด้านจิตวิทยาสามารถช่วยลดความเครียดและเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้พิการ การเข้าร่วมกลุ่มสนับสนุนหรือการบำบัดทางจิตวิทยา เช่น การให้คำปรึกษาจากนักจิตวิทยาหรือจิตแพทย์ เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ช่วยให้ผู้พิการสามารถปรับตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
สุดท้ายนี้ “แม้การสูญเสียขา” จะเป็นเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อชีวิตของผู้พิการ แต่ด้วยการสนับสนุนที่เหมาะสมและการเตรียมตัวทางจิตใจที่ดี ผู้พิการสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขและมีคุณภาพชีวิตที่ดีเทียบเท่ากับบุคคลทั่วไป งานวิจัยชี้ให้เห็นว่า การมีทัศนคติที่ดี การพึ่งพาการสนับสนุนจากครอบครัว และการพัฒนาทักษะในการ “ปรับตัว” เป็นกุญแจสำคัญที่จะนำไปสู่ความสุขและความสมดุลในชีวิตของผู้พิการหลังจากการสูญเสียขา

เปิดขั้นตอน ขอรับกายอุปกรณ์ตามสิทธิหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า คนถือบัตรผู้พิการต้องรู้ !
สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (#สปสช.) แจ้ง #สิทธิประโยชน์ สำหรับ #ผู้พิการ ที่ถือ #บัตรทอง ท.74 สามารถ #ขอรับกายอุปกรณ์ และ #เครื่องช่วยความพิการ ได้ฟรี ตามความจำเป็นที่แพทย์ประเมิน เช่น #รถเข็น #ไม้เท้าขาว #แขนเทียม #ขาเทียม หรือ #เครื่องช่วยฟัง โดยไม่จำกัดวงเงินและไม่ต้องสำรองจ่ายล่วงหน้า
ประชาชนสามารถเข้ารับบริการได้ที่
- โรงพยาบาลรัฐบาล ทุกแห่ง รวมถึงโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลและศูนย์สุขภาพชุมชน
- ศูนย์บริการคนพิการ ทั่วประเทศ
- ศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพคนพิการ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วน สปสช. 1330 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้ผู้พิการได้รับการช่วยเหลืออย่างครบถ้วนและทันเวลา.

อ่านข่าววันนี้ (19 ต.ค.68) ประเด็นร้อน-ปมข่าวสารน่าสนใจดูทั้งหมดที่นี่
- อนุทิน สั่งสอบปม 7 ชื่อนักการเมืองเอี่ยวสแกมเมอร์ ถ้ามีชื่อดำเนินการแน่นอน
- แห่แชร์ คนไทยในอังกฤษถูกผลักให้รถบัสชน หดหู่โดนทำร้ายซ้ำก่อนได้คนช่วย
- จับได้แล้ว หนุ่มเขมรปล้นร้านทอง เจอตัวที่จันทบุรี กำลังจะหนีออกนอกประเทศ
ติดตาม The Thaiger บน Google News: