ประวัติ “สว.อังคณา นีละไพจิตร” สตรีนักสู้เพื่อสิทธิฯ เจ้าของรางวัล โนเบลแห่งเอเชีย

เปิดประวัติ “อังคณา นีละไพจิตร” สตรีนักสู้เจ้าของรางวัลแมกไซไซ จากจุดเปลี่ยนของชีวิตหลังการอุ้มหายของสามี สู่การเป็นนักสิทธิมนุษยชนแถวหน้า และบทบาทในฐานะ สว.
นางอังคณา นีละไพจิตร คือหนึ่งในบุคคลที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในฐานะนักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนแถวหน้าของไทย การก้าวเข้าสู่ตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ชุดล่าสุด ในฐานะตัวแทนกลุ่มประชาสังคม ยิ่งทำให้บทบาทของเธอน่าจับตามองมากยิ่งขึ้น
เส้นทางของ “อังคณา” จากพยาบาลและแม่บ้านเต็มตัว สู่การเป็นนักสิทธิมนุษยชนระดับนานาชาติและสมาชิกวุฒิสภา ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ แต่เริ่มต้นจากโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ของครอบครัว ที่ผลักดันให้เธอต้องลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อทวงความยุติธรรมให้สามีและเหยื่อผู้ถูกละเมิดสิทธิคนอื่นๆ

ประวัติส่วนตัวและการศึกษา
อังคณา นีละไพจิตร (สกุลเดิม วงศ์ราเชนทร์) เกิดเมื่อวันที่ 23 มีนาคม พ.ศ.2499 จ.พระนคร (กรุงเทพฯ ปัจจุบัน) ปัจจุบันอายุ 69 ปี สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาจาก โรงเรียนซางตาครู้สคอนแวนท์ และจบการศึกษาระดับปริญญาตรี คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล สมรสกับ นายสมชาย นีละไพจิตร อดีตประธานชมรมนักกฎหมายมุสลิม ซึ่งหายสาบสูญไปเมื่อวันที่ 12 มีนาคม พ.ศ.2547 มีบุตรธิดารวม 5 คน
จุดเปลี่ยนจากแม่บ้านสู่ นักสู้เพื่อสิทธิมนุษยชน
ชีวิตของอังคณาเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาลใน ปี พ.ศ. 2547 เมื่อนายสมชาย นีละไพจิตร สามีซึ่งเป็นทนายความสิทธิมนุษยชนที่ช่วยเหลือผู้ต้องหาในคดีความมั่นคงทางภาคใต้ ได้ถูกบังคับให้สูญหายไปอย่างลึกลับใจกลางกรุงเทพมหานคร
เหตุการณ์ดังกล่าวได้ผลักดันให้อังคณา ซึ่งในขณะนั้นเป็นเพียงพยาบาลและแม่บ้าน ต้องผันตัวเองมาเป็นนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิมนุษยชนอย่างเต็มตัว อังคณาได้ก่อตั้ง “มูลนิธิยุติธรรมเพื่อสันติภาพ” (Justice for Peace Foundation – JPF) และดำรงตำแหน่งประธาน เพื่อติดตามความคืบหน้าของคดีสามี และให้ความช่วยเหลือเหยื่อการทรมานและบังคับสูญหายรายอื่น ๆ โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
เส้นทางการเมืองและบทบาทในปัจจุบัน
ด้วยความมุ่งมั่นในการทำงาน อังคณาจึงได้รับการยอมรับและได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งสำคัญทางการเมืองหลายตำแหน่ง เพื่อขับเคลื่อนประเด็นสิทธิมนุษยชนในระดับนโยบาย
- พ.ศ. 2550: ได้รับแต่งตั้งเป็นสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ
- อดีตกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) โดยดำรงตำแหน่งประธานคณะอนุกรรมการด้านสิทธิสตรี และรองประธานคณะอนุกรรมการด้านสิทธิมนุษยชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
- พ.ศ. 2567: ลงสมัครรับเลือกตั้งวุฒิสภาในกลุ่มประชาสังคม และได้รับเลือกตั้งเป็นลำดับที่ 9 ของกลุ่ม เข้ามาทำหน้าที่ สว. ในปัจจุบัน
ล่าสุดในเดือนตุลาคม 2568 อังคณาได้แสดงความคิดเห็นต่อกรณีความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชา และเรียกร้องให้รัฐบาลทบทวนวิธีการที่อาจส่งผลกระทบต่อพลเรือน ซึ่งนำไปสู่การถกเถียงในวงกว้าง
รางวัลเกียรติยศและเครื่องราชอิสริยาภรณ์
- พ.ศ. 2549 – รางวัลควังจูเพื่อสิทธิมนุษยชน จากประเทศเกาหลีใต้
- พ.ศ. 2562 – รางวัลรามอน แมกไซไซ หรือ “โนเบลแห่งเอเชีย”
- พ.ศ. 2560 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นที่ 1 ประถมาภรณ์มงกุฎไทย (ป.ม.)
- พ.ศ. 2560 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ ชั้นที่ 4 จตุตถดิเรกคุณาภรณ์ (จ.ภ.)
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- สว.อังคณา ยันรักชาติไม่น้อยกว่าใคร ตั้งใจแปลเอกสารกัมพูชาเตือนสติ
- กัน จอมพลัง โต้ ‘อังคณา’ ปมเปิดเสียงผี ลั่น กินเงินเดือนไทย ทำไมปกป้องเขมร
- อังคณา แนะให้ไปศึกษาเพิ่ม อะมัด เสนอไลฟ์สดประหารนักโทษยาเสพติด
ติดตาม The Thaiger บน Google News: