ท่าเรืออิหร่าน ระเบิดปริศนา ดับ 14 เจ็บ 750 ท่ามกลางถกนิวเคลียร์สหรัฐฯ

ท่าเรือ ชาฮิด ราจาอี ศูนย์กลางการค้าอิหร่านกลายเป็นซาก ปมเหตุยังสับสน เชื้อเพลิงขีปนาวุธหรือสารเคมี? จับตาผลกระทบเจรจาโลก
เช้าวันเสาร์อันเงียบสงบของอิหร่าน ถูกฉีกกระชากด้วยเสียงระเบิดกึกก้องกัมปนาท ณ ท่าเรือชาฮิด ราจาอี (Shahid Rajaee) ประตูการค้าทางทะเลที่สำคัญที่สุดของประเทศ แรงระเบิดมหาศาลไม่เพียงคร่าชีวิตผู้คนไปอย่างน้อย 14 ราย สร้างบาดแผลแก่ผู้คนอีกกว่า 750 ชีวิต แต่ยังทิ้งซากปรักหักพังและความเสียหายเป็นวงกว้าง
แรงสั่นสะเทือนรู้สึกได้ไกลถึง 50 กิโลเมตร อาคารบ้านเรือนสั่นไหว หน้าต่างแตกกระจาย รถยนต์กลายเป็นเศษเหล็ก ภาพจากสื่อระดับโลกอย่างบีบีซียืนยันถึงความโกลาหล ผู้คนวิ่งหนีตาย ร่างผู้บาดเจ็บนอนเกลื่อนกลาดท่ามกลางกลุ่มควันและเศษซาก
ท่าเรือพาณิชย์ที่เคยคึกคัก ใกล้เมืองบันดาร์อับบาส (Bandar Abbas) ทางตอนใต้ กลับกลายเป็นศูนย์กลางของโศกนาฏกรรมและคำถามมากมาย พยานผู้รอดชีวิตเล่าถึงนาทีระทึก “โกดังทั้งหลังเต็มไปด้วยควัน ฝุ่น เถ้าถ่าน…” บ่งบอกถึงความรุนแรงที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน ภาพมุมสูงเผยให้เห็นกลุ่มเพลิงลุกไหม้หลายจุด รัฐมนตรีมหาดไทยอิหร่านยืนยันการลุกลามของไฟจากตู้คอนเทนเนอร์หนึ่งสู่อีกตู้ คำสั่งปิดโรงเรียนและสำนักงานในพื้นที่ถูกประกาศใช้ทันทีในวันอาทิตย์ถัดมา
ต้นตอแห่งหายนะ เชื้อเพลิงขีปนาวุธ หรือ อุบัติเหตุสารเคมี?
ท่ามกลางความสับสน ข้อมูลเกี่ยวกับสาเหตุของเพลิงไหม้และการระเบิดยังคงขัดแย้งกัน บริษัทวิเคราะห์ความเสี่ยงทางทะเลเอกชน แอมเบรย์ อินเทลลิเจนซ์ (Ambrey Intelligence) ออกมาตั้งข้อสังเกตที่น่าตกตะลึง พวกเขาเชื่อว่า ต้นเพลิงอาจมาจากตู้คอนเทนเนอร์ที่บรรจุ “เชื้อเพลิงแข็ง” สำหรับใช้ใน “ขีปนาวุธ” ของอิหร่าน ซึ่งเกิดปัญหาจากการจัดการที่ไม่เหมาะสม
แอมเบรย์ยังเชื่อมโยงไปถึงการขนถ่าย “เชื้อเพลิงจรวดโซเดียมเปอร์คลอเรต” โดยเรือสัญชาติอิหร่านลำหนึ่ง ณ ท่าเรือแห่งนี้ เมื่อเดือนมีนาคม 2568 สอดคล้องกับรายงานก่อนหน้าของหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทมส์ ที่ระบุถึงการขนส่งเชื้อเพลิงจากจีนมายังอิหร่าน
อย่างไรก็ตาม รายงานจากสื่อของรัฐบาลอิหร่านกลับนำเสนออีกมุมมอง อ้างพยานที่เห็นเหตุการณ์ว่า ไฟเริ่มไหม้แล้วลุกลามไปยังตู้คอนเทนเนอร์เก็บ “วัตถุไวไฟ” ที่ไม่ได้ปิดผนึก ขณะที่เจ้าหน้าที่ศุลกากรคาดว่าอาจเกิดจากไฟไหม้ในคลังเก็บวัตถุอันตรายและสารเคมี ข้อมูลล่าสุดจากแอมเบรย์ที่อ้างองค์การบริหารจัดการภัยพิบัติแห่งชาติอิหร่าน ยิ่งเพิ่มน้ำหนักให้กับประเด็นความปลอดภัย เมื่อระบุว่าท่าเรือแห่งนี้เคยได้รับคำเตือนเรื่องการจัดเก็บสารเคมีอย่างปลอดภัยมาก่อนแล้ว

จุดยุทธศาสตร์โลก และ จังหวะเวลาที่เปราะบาง
เหตุการณ์นี้ไม่ได้เกิดขึ้น ณ ท่าเรือธรรมดา เพราะว่าท่าเรือชาฮิด ราจาอี คือศูนย์กลางโลจิสติกส์ที่ใหญ่และทันสมัยที่สุดของอิหร่าน ตั้งอยู่บนช่องแคบฮอร์มุซ เส้นเลือดใหญ่ของการขนส่งน้ำมันโลก และใกล้กับเมืองบันดาร์อับบาส ฐานทัพเรือหลักของอิหร่าน ความเสียหายที่เกิดขึ้นจึงอาจส่งผลกระทบในวงกว้าง แม้บริษัทน้ำมันแห่งชาติจะรีบออกมาปฏิเสธความเชื่อมโยงกับโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานก็ตาม
ยิ่งไปกว่านั้น โศกนาฏกรรมครั้งนี้อุบัติขึ้นในจังหวะเวลาที่ละเอียดอ่อนอย่างยิ่ง ประจวบเหมาะกับการเจรจารอบล่าสุดว่าด้วยโครงการนิวเคลียร์อิหร่าน ระหว่างเจ้าหน้าที่เตหะรานและวอชิงตัน ซึ่งดำเนินไปโดยมีโอมานเป็นคนกลาง การเจรจาที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มุ่งหวังจะจำกัดศักยภาพนิวเคลียร์ของอิหร่าน ถือเป็นการพูดคุยระดับสูงครั้งแรกนับตั้งแต่ทรัมป์นำสหรัฐฯ ถอนตัวจากข้อตกลงเดิมในปี 2561 และรื้อฟื้นมาตรการคว่ำบาตร แม้ทั้งสองฝ่ายจะรายงานความคืบหน้า แต่ช่องว่างยังคงมีอยู่ และการเจรจาจะต้องดำเนินต่อไป
ประธานาธิบดีมาซูด เปเซชเกียน ของอิหร่าน ได้แสดงความเสียใจต่อเหยื่อและครอบครัว พร้อมสั่งการสอบสวนหาสาเหตุอย่างเร่งด่วน โดยส่งรัฐมนตรีมหาดไทยลงพื้นที่ควบคุมสถานการณ์ด้วยตนเอง
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- จีนพัฒนา “ระเบิดไฮโดรเจน” สร้างลูกไฟร้อน 1000 องศา ทำลายล้างนานกว่า TNT 15 เท่า
- เมียนมา หยามไทย ทิ้งระเบิดใกล้เมืองกาญจน์ ชาวบ้านหนีตายข้ามแดนพึ่งใบบุญ
- คู่รักพนักงานจีน เล่นเสวกลางห้องประชุม ลืมปิดกล้อง เห็นกันทั้งบริษัท