ข่าวการเมือง

สะพัด ย้าย ‘อานนท์ นำภา’ ไปคุกบางขวาง ทั้งที่ยังสู้คดีไม่จบ

สะพัด ย้าย อานนท์ นำภา ไปเรือนจำกลางบางขวาง ตั้งคำถาม เพราะอะไร ทั้งที่ยังสู้คดีไม่จบและไม่ได้ประกันตัว

ผู้สื่อข่าวรายงาน เฟซบุ๊ก อานนท์ นำภา ได้โพสต์ตั้งคำถามถึงนายทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ถึงกรณีย้ายทนาย อานนท์ นำภา นักโทษการเมือง ไปขังที่เรือนจำบางขวาง ทั้งที่ยังสู้คดีอยู่และไม่ได้รับการประกันตัวว่า

“ได้ทราบข่าวว่า อานนท์ นำภา มีชื่อย้ายไปเรือนจำบางขวาง อานนท์จึงฝากถาม Tawee Sodsong – พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง ในฐานะประชาชนคนหนึ่งที่ยังสู้คดีอยู่และไม่ได้รับการประกันตัว ว่ามีเหตุผลอะไรที่จะต้องย้ายเขาไปที่นั่น ที่สำคัญบางขวางไม่มีโดมีเมลเสียด้วย”

“เพื่อนๆผู้ต้องขังทางการเมืองที่ถูกย้ายไปก่อนหน้านี้ 6 คน 5 คน มีโทษเพียงแค่ 1-3 ปีเท่านั้น แต่ย้ายไปขังรวมกับคนที่โทษตลอดชีวิต/ประหารชีวิต ที่พูดนี่ไม่ได้เรียกร้องให้อานนท์คนเดียว แต่ทุกคนที่ถูกย้ายไปก่อนหน้านี้ด้วย มีสื่อทำเรื่องเรือนจำบาฃขวางไว้ มาอ่านกันว่าทำไมการย้ายไปบางขวางถึงต้องถูกตั้งคำถาม”

ทั้งนี้ Domi mail (โดมิเมล) คือโครงการนำร่องส่งจดหมายออนไลน์ ที่รับ-ส่งจดหมายได้รวดเร็วเพียงแค่ 1 -2 วัน แทนที่จะรับ-ส่ง เป็นเดือน กว่าจะได้รับ ช่องทางการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพของเรือนจำบางแห่ง

ต่อมามีผู้เข้ามาคอมเมนต์ถามว่า “คุกบางขวาง เป็นที่คุมขัง. นักโทษเด็ดขาด. ไม่ใช่เหรอคะ. คหสต ทำไมถึงย้ายนักโทษทางการเมือง ไปอยู่???”

เฟซบุ๊กอานนท์ นำภา เข้ามาตอบว่า “ได้ยินว่าจะมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบของเรือนจำ แม้จะมียังสู้คดีแต่ถ้ามีคดีที่ตัดสินแล้วจะก็อาจถูกย้ายออกไปหมด ถึงจะบอกว่าปรับเปลี่ยนรูปแบบการคุมขังเพื่อกระจายความแออัดของเรือนจำเดิม แต่เรือนจำใหม่ที่อาจต้องย้ายไปก็ยังมีกฎที่เคร่งครัดมากอยู่ดี(มีคนถูกย้ายไปที่นั่นแล้ว 6 คน โดย 5 คน โทษต่ำมากๆ 1-3 ปีเท่านั้น)”

เปิดข้อมูล เรือนจำบางขวาง ที่ขังนักโทษ

เรือนจำกลางบางขวาง หลายครั้งถูกเรียกในชื่อ “เรือนจำมหันตโทษ” เป็นเรือนจำที่มีชื่อเสียงโด่งดังในประเทศไทย ด้วยชื่อเสียงในด้านการคุมขังนักโทษคดีอุกฉกรรจ์ที่มีโทษจำคุกตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป จนถึงโทษประหารชีวิต

เรือนจำแห่งนี้ตั้งอยู่เลขที่ 117 หมู่ 3 ถนนนนทบุรี 1 ตำบลสวนใหญ่ อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี ใกล้กับวัดบางแพรกใต้

ย้อนกลับไปในสมัยรัชกาลที่ 5 พระองค์ทรงมีพระราชดำริให้ย้ายเรือนจำกองมหันตโทษออกจากพระนคร เนื่องจากบ้านเมืองกำลังเจริญรุ่งเรือง จึงมีการจัดซื้อที่ดินฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา ณ ตำบลบางขวาง อำเภอตลาดขวัญ จังหวัดนนทบุรี เป็นเนื้อที่ 60,776 ตารางวา

ต่อมา กรมราชทัณฑ์ได้ดำเนินการก่อสร้างเรือนจำกลางบางขวางขึ้นบนที่ดินผืนนี้ และเปิดใช้งานในปี พ.ศ. 2476 เดิมทีเรือนจำแห่งนี้มีชื่อว่า “เรือนจำกองมหันตโทษ” แต่ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น “เรือนจำกลางบางขวาง” เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2484

วัตถุประสงค์หลักในการก่อตั้งเรือนจำแห่งนี้คือการย้ายผู้ต้องขังที่มีโทษสูงจากกองมหันตโทษมาคุมขัง บุคคลสำคัญที่เกี่ยวข้องกับเรือนจำบางขวางมีมากมาย อาทิเช่น อำมาตย์เอก พระยาอาชญาจักร์ (บุญมา โรจนวิภาต) พลตรี ขุนจำนงภูมิเวท (จำนง ศิวแพทย์) และ พลตำรวจตรี ขุนศรีศรากร (ชลอ ศรีศรากร) ซึ่งล้วนเคยดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการเรือนจำกลางบางขวาง

นอกจากนี้ ยังมีนักโทษชื่อดังหลายคนที่ถูกคุมขังอยู่ที่นี่ เช่น กังวาน วีระนนท์ หรือ “เจ้าพ่อบางนกแขวก” และ พล.อ. ฉลาด หิรัญศิริ ผู้นำการก่อการกบฏ 26 มีนาคม พ.ศ. 2520

เรือนจำกลางบางขวางถูกออกแบบให้เป็นเรือนจำที่มีความมั่นคงสูงสุด โดยนำแบบก่อสร้างจากเรือนจำต่างๆ ในยุโรปและสหรัฐอเมริกามาประยุกต์ใช้ ตัวเรือนจำตั้งอยู่บนเนื้อที่ 136 ไร่ ล้อมรอบด้วยกำแพงคอนกรีตเสริมเหล็กสูง 6 เมตร ยาว 2,406 เมตร มีรั้วไฟฟ้าแรงสูงบนสันกำแพง มีป้อมรักษาการณ์โดยรอบ 20 ป้อม

ภายในเรือนจำแบ่งพื้นที่ออกเป็น 14 แดน โดยแต่ละแดนมีกำแพงกั้นแยกจากกัน ราวกับเป็นเรือนจำขนาดเล็ก อาคารนอนของผู้ต้องขังเป็นตึกสองชั้น พื้นคอนกรีต แบ่งเป็นห้องขังสองฝั่ง มีทางเดินกลาง และมีลูกกรงเหล็กปิดกั้นหัวท้าย

แดน รายละเอียด ใครโดนขัง
แดน 1 อยู่ระหว่างปิดปรับปรุง
แดน 2 แดนควบคุมผู้ต้องขังเข้าใหม่ และควบคุมนักโทษเด็ดขาดซึ่งมีกำหนดโทษสูง ตั้งแต่ 50 ปี ถึงตลอดชีวิต และคุมขังนักโทษประหารชีวิต ผู้ต้องขังเข้าใหม่, นักโทษเด็ดขาดโทษ 50 ปีถึงตลอดชีวิต, นักโทษประหารชีวิต
แดน 4 แดนควบคุมนักโทษเด็ดขาดที่มีโทษตั้งแต่ 50ปี ลงมา นักโทษเด็ดขาดโทษต่ำกว่า 50 ปี
แดน 5 แดนควบคุมผู้ซึ่งมีโทษประหารชีวิต ทั้งที่คดีเสร็จเด็ดขาดแล้ว และคดีอยู่ระหว่างอุทธรณ์-ฎีกา นักโทษประหารชีวิต
แดน 6 แดนควบคุมเฉพาะผู้ต้องขังคดีผิด พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ ซึ่งมีโทษจำคุกตั้งแต่ตลอดชีวิตลงมา ผู้ต้องขังคดียาเสพติด
แดน 7 มอบพื้นที่ให้เรือนจำจังหวัดนนทบุรี
แดน 10 แดนความมั่นคงสูง สำหรับลงโทษผู้กระทำผิดวินัยของเรือนจำ และควบคุมความประพฤติผู้ต้องขังที่มีปัญหาด้านความประพฤติกระทำผิดวินัยหลายๆครั้ง อยู่ร่วมกับผู้ต้องขังทั่วไปไม่ได้ ผู้ต้องขังที่กระทำผิดวินัย
แดน 11 สถานที่สำหรับประหารชีวิตโดยเฉพาะ ไม่มีตึกนอนของผู้ต้องขัง และเมื่อมีการดำเนินการประหารชีวิต จึงจะนำตัวนักโทษมาดำเนินการ

เรือนจำกลางบางขวางมีระบบการบริหารจัดการที่เข้มงวด เพื่อควบคุมดูแลผู้ต้องขังจำนวนมาก โดยในปี พ.ศ. 2563 มีผู้ต้องขังประมาณ 5,770 คน ในจำนวนนี้เป็นนักโทษประหารชีวิต 182 คน ส่วนข้อมูลในปี พ.ศ. 2561 ระบุว่ามีผู้ต้องขังระหว่างอุทธรณ์-ฎีกา จำนวน 321 คน

มีการล้อมรั้วไฟฟ้าแรงสูง มีป้อมรักษาการณ์ และมีเจ้าหน้าที่คอยตรวจตราตลอด 24 ชั่วโมง เรือนจำกลางบางขวางพยายามดำเนินงานตามข้อกำหนดแมนเดลา (Mandela Rules) ของสหประชาชาติ เพื่อให้การปฏิบัติต่อผู้ต้องขังเป็นไปตามมาตรฐานสากล

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลเกี่ยวกับจำนวนเจ้าหน้าที่ในเรือนจำบางขวางไม่ปรากฏแน่ชัด แต่มีข้อมูลจากกรมราชทัณฑ์ระบุจำนวนเจ้าหน้าที่ทั้งหมด 714 คน ซึ่งน่าจะรวมถึงเจ้าหน้าที่ในเรือนจำกลางบางขวางด้วย

กฎระเบียบของเรือนจำกลางบางขวางเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยภายในเรือนจำ ตัวอย่างเช่น ผู้เข้าเยี่ยมต้องแสดงบัตรประจำตัวประชาชน แต่งกายสุภาพ และปฏิบัติตามวันเวลาที่เรือนจำกำหนด ห้ามผู้มีอาการมึนเมา ผู้ต้องสงสัยว่าจะก่อความไม่สงบ หรือผู้มีพฤติการณ์ที่อาจกระทบต่อความมั่นคงของเรือนจำเข้าเยี่ยม นอกจากนี้ ยังมีกฎระเบียบเกี่ยวกับการตรวจค้น การจัดเก็บสิ่งของ และการปฏิบัติตัวของผู้ต้องขัง

ชีวิตความเป็นอยู่ของผู้ต้องขัง

ชีวิตความเป็นอยู่ของผู้ต้องขังในเรือนจำกลางบางขวางเป็นไปอย่างมีระเบียบแบบแผน ภายใต้การควบคุมดูแลของเจ้าหน้าที่ ผู้ต้องขังต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด และมีกิจวัตรประจำวันที่แน่นอน เช่น ตื่นนอน สวดมนต์ ฝึกกายบริหาร รับประทานอาหาร ทำงาน และเข้านอน ผู้ต้องขังต้องสวมใส่ตรวนที่ข้อเท้า ซึ่งทำให้การใช้ชีวิตประจำวันเป็นไปอย่างยากลำบาก เช่น การเดิน การนั่ง การนอน และการแต่งกาย หากไม่ดูแลรักษาตรวนให้ดี อาจทำให้เกิดบาดแผลที่ข้อเท้าได้

ก่อนรับประทานอาหาร ผู้ต้องขังจะต้องกล่าวคำปฏิญาณตน และในตอนเช้า ผู้ต้องขังจะต้องออกกำลังกายด้วยท่า “10 ท่าพญายม” ซึ่งประกอบด้วยท่า เศียรสะบัด หมัดคู่ ชูเข่า เกาตาตุ่ม จุ่มให้ลึก ศึกข้ามเศียร เวียนรอบตัว ทัวร์ข้างหลัง ตั้งยุบข้อ และต่อปรบมือ

ผู้ต้องขังยังสามารถซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคผ่านระบบออนไลน์ของเรือนจำได้ ซึ่งเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00 น. ถึง 15.00 น. อย่างไรก็ตาม บริการ Domy-mail ซึ่งเป็นบริการรับ-ส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ มีให้บริการอย่างจำกัดในเรือนจำกลางบางขวาง

เรือนจำกลางบางขวางมีบทบาทสำคัญในระบบยุติธรรมไทย โดยทำหน้าที่ควบคุม ลงโทษ และฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ต้องขัง เรือนจำแห่งนี้เป็นที่รู้จักกันในนาม “Bangkok Hilton” ในหมู่ชาวต่างชาติ

กระบวนการรับ-ปล่อยตัวผู้ต้องขัง

เรือนจำกลางบางขวางมีกระบวนการรับ-ปล่อยตัวผู้ต้องขังที่เป็นมาตรฐาน มีการตรวจสอบประวัติ ตรวจค้นร่างกายและสิ่งของ จัดทำบันทึกต่างๆ ก่อนปล่อยตัว ผู้ต้องขังจะได้รับการเตรียมความพร้อม เช่น การฝึกทักษะอาชีพ การให้คำปรึกษา และการประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ รวมถึงการเตรียมความพร้อมชุมชน โดยการประสานความร่วมมือกับผู้นำชุมชน ผู้นำศาสนา บริษัทเอกชน และหน่วยงานต่างๆ เพื่อให้ผู้ต้องขังสามารถกลับคืนสู่สังคมได้อย่างราบรื่น นอกจากนี้ ยังมีการช่วยเหลือผู้ต้องขังหลังการปล่อยตัว เช่น การจัดหาที่พักอาศัย การหางาน และการให้คำปรึกษา

มาตรการการลงโทษนักโทษที่ทำผิดกฎ

เรือนจำกลางบางขวางมีระบบการลงโทษผู้ต้องขังที่กระทำผิดวินัย เช่น การตักเตือน การตัดคะแนน การขังเดี่ยว และการย้ายแดน โดยการลงโทษจะพิจารณาตามความร้ายแรงของความผิด

เรือนจำกลางบางขวางเป็นที่ตั้งของแดนประหาร ซึ่งเป็นสถานที่สำหรับประหารชีวิตนักโทษ เดิมที การประหารชีวิตในประเทศไทยใช้วิธีการยิงเป้า แต่ปัจจุบันได้เปลี่ยนมาใช้วิธีการฉีดยาพิษเข้าสู่ร่างกาย ตามพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา ห้องประหารชีวิตในเรือนจำกลางบางขวาง มีเตียงประหาร 2 เตียง หลังจากการประหารชีวิต ศพของนักโทษจะถูกนำออกจากเรือนจำ ผ่าน “ประตูแดง” หรือ “ประตูผี” ของวัดบางแพรกใต้ การมีอยู่ของแดนประหาร และการประหารชีวิต เป็นประเด็นที่ก่อให้เกิดการถกเถียง

เรือนจำกลางบางขวางมีการดำเนินงานเพื่อฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ต้องขัง เช่น การจัดอบรม การฝึกอาชีพ และการให้คำปรึกษา โดยมีการจัดโปรแกรมเตรียมความพร้อมก่อนปล่อยตัว ซึ่งมีการอบรมให้คำแนะนำจากเจ้าหน้าที่เรือนจำ และหน่วยงานต่างๆ เช่น สำนักจัดหางาน และพนักงานคุมประพฤติ นอกจากนี้ ยังมีการส่งเสริมพัฒนาทักษะฝีมือในการประกอบอาชีพดูแลผู้สูงอายุ เพื่อให้ผู้ต้องขังสามารถนำความรู้ และทักษะที่ได้รับไปใช้ในการดูแลตนเอง และประกอบอาชีพหลังพ้นโทษ

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

Aindravudh

นักเขียนประจำ Thaiger มีประสบการณ์เขียนข่าวมากกว่า 5 ปี จบการศึกษาด้านภาษาและประวัติศาสตร์ จากคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีความสนใจ ประเด็นความเคลื่อนไหวทางสังคมและการเมือง เจาะประเด็นข่าวทางสังคม ด้วยกลวิธีการเล่าเรื่องแบบย่อยง่าย อย่างงานเขียนสร้างสรรค์ สั้น กระชับ จับทุกประเด็น หัวข้อที่เชียวชาญคือเรื่องไลฟ์สไตล์ เลขเด็ด หวยรัฐบาลไทย หวยลาว ช่องทางติดต่อ vajara@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button