การเงินเศรษฐกิจ

ฮอนด้า-นิสสัน ควบรวมกิจการ ดีลล่ม แผนเจรจราล้มเหลว

ควบรวมกิจการ “ฮอนด้า-นิสสัน” มูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ ยักษ์ใหญ่ค่ายรถญี่ปุ่นหวังผนึกกำลัง สู้ศึกคู่แข่งจีน แต่สุดท้ายดีลล่มไม่เป็นท่า

วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2568 สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน การเจรจาควบรวมกิจการระหว่าง ฮอนด้า (Honda) และ นิสสัน (Nissan) ล้มเหลว หลังทั้งสองบริษัทไม่สามารถตกลงกันได้ในการรวมธุรกิจมูลค่ามหาศาล

Advertisements

ค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่นทั้ง 2 ราย รวมถึงพันธมิตรรายรองอย่าง มิตซูบิชิ (Mitsubishi) เดิมทีตั้งเป้าที่จะรวมธุรกิจเพื่อรับมือกับการแข่งขันที่รุนแรง โดยเฉพาะจากคู่แข่งในประเทศจีน

ดีลควบรวมกิจการครั้งนี้ หากสำเร็จ จะสร้างกลุ่มบริษัทรถยนต์มูลค่า 6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ก้าวขึ้นเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่อันดับ 4 ของโลกในแง่ของยอดขาย รองจาก โตโยต้า (Toyota), โฟล์คสวาเกน (Volkswagen) และ ฮุนได (Hyundai)

อย่างไรก็ตาม ทั้งสองบริษัทแถลงว่าจะยังคงสานต่อความร่วมมือในด้านรถยนต์ไฟฟ้าต่อไป

คาร์ล บรอเออร์ (Karl Brauer) นักวิเคราะห์จากแพลตฟอร์มวิจัยออนไลน์ iSeeCars.com กล่าวว่า ความล้มเหลวของดีลควบรวมกิจการครั้งนี้ ไม่ใช่เรื่องที่น่าประหลาดใจนัก การควบรวมกิจการในอุตสาหกรรมยานยนต์หลายครั้งก็ไม่ประสบความสำเร็จ และดีลนี้ก็มีโอกาสที่จะนำไปสู่หายนะได้พอๆ กับที่จะช่วยให้ทั้งสองแบรนด์เติบโต

FILE – A Nissan logo is displayed on a Nissan Pathfinder SUV at the Pittsburgh International Auto Show in Pittsburgh, Feb. 15, 2024. (AP Photo/Gene J. Puskar, File)

การรวมธุรกิจที่วางแผนไว้ครั้งนี้ ถูกมองว่าจะเป็นการมอบ “ลมหายใจ” ที่สำคัญให้กับนิสสัน ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นบริษัทรถยนต์ใหญ่อันดับสองของญี่ปุ่น หลังเผชิญกับภาวะยอดขายชะลอตัวและวิกฤตการณ์ภายในองค์กรที่เกี่ยวข้องกับผู้บริหารระดับสูงมานานหลายปี

Advertisements

ในทางตรงกันข้าม ฮอนด้าเข้าสู่การเจรจาในฐานะ “ผู้นำ” เนื่องจากยังคงเป็นแบรนด์ยอดนิยมทั่วโลก สามารถผลิตและจำหน่ายรถยนต์ได้มากกว่านิสสัน

ขณะเดียวกัน นิสสันยังคงดิ้นรนเพื่อฟื้นตัวจากวิกฤตผู้นำองค์กร นับตั้งแต่การจับกุม คาร์ลอส กอส์น (Carlos Ghosn) อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธานบริษัท ในช่วงปลายปี 2018

นายกอส์นถูกปลดออกจากตำแหน่งเนื่องจากข้อกล่าวหาเรื่องการกระทำผิดทางการเงิน ซึ่งเจ้าตัวปฏิเสธ และปัจจุบันใช้ชีวิตในฐานะผู้หลบหนีในประเทศบ้านเกิดคือเลบานอน หลังหลบหนีออกจากญี่ปุ่นอย่างอุกอาจโดยซ่อนตัวในกล่องอุปกรณ์ดนตรี

เมื่อปีที่แล้ว นิสสันประกาศมาตรการลดต้นทุน รวมถึงการปลดพนักงาน 9,000 ตำแหน่งทั่วโลก ลดเงินเดือนประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนปัจจุบันลงครึ่งหนึ่ง

FILE – Nissan Chief Executive Makoto Uchida speaks during a joint news conference in Tokyo, Japan, Monday, Dec. 23, 2024. (AP Photo/Eugene Hoshiko, File)

โทชิฮิโระ มิเบะ (Toshihiro Mibe) ผู้บริหารฮอนด้า เคยกล่าวว่า การควบรวมกิจการใดๆ จะต้อง “ตั้งอยู่บนสมมติฐานที่ว่า นิสสันสามารถดำเนินการฟื้นฟูกิจการได้สำเร็จ”

ในท้ายที่สุด ทั้งสองบริษัทไม่สามารถตกลงกันได้ว่า นิสสันจะมีบทบาทอย่างไรในการควบรวมกิจการครั้งนี้ – ในฐานะ “หุ้นส่วนที่เท่าเทียม” หรือ “บริษัทในเครือ”

เจสเปอร์ คอลล์ (Jesper Koll) จาก Monex Group ซึ่งเป็นผู้ให้บริการแพลตฟอร์มซื้อขายออนไลน์ของญี่ปุ่น กล่าวว่า “แรงกดดันที่จะทำให้ทุกอย่างดูเหมือนเป็นการควบรวมกิจการอย่างเท่าเทียมในญี่ปุ่นนั้นมีสูงมาก”

“การมีใครสักคนเป็นผู้นำในดีลนี้ อาจดูเหมือนเป็นการลบหลู่คู่เจรจาอีกฝ่าย”

นายคอลล์ยังกล่าวเสริมว่า ฮอนด้าอาจเป็นฝ่ายเสียเปรียบมากกว่า โดยให้ความเห็นว่า “คุณกำลังนำบริษัทที่อาจยิ่งใหญ่อยู่แล้ว ไปแบกรับภาระในการกอบกู้ ‘ลูกเป็ดขี้เหร่’ ตัวหนึ่ง”

วิบากกรรมซ้ำสอง ภาษีสหรัฐฯ จ่อคอหอย ทั้งนิสสันและฮอนด้ายังต้องเผชิญกับความเสี่ยงจากมาตรการภาษีในสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นตลาดใหญ่อีกแห่งของทั้งสองบริษัท

ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าที่กำลังเติบโต กำลังถูกครอบงำโดยผู้ผลิตจากจีนมากขึ้นเรื่อยๆ เช่น BYD

การแข่งขันที่รุนแรงขึ้นนี้ ทำให้ผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำของโลกหลายรายต้องดิ้นรนอย่างหนักเพื่อช่วงชิงความเป็นผู้นำ

เมื่อเดือนมีนาคมปีที่แล้ว หลายเดือนก่อนที่จะประกาศแผนการควบรวมกิจการ นิสสันและฮอนด้าตกลงที่จะสำรวจความเป็นไปได้ในการเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ด้านรถยนต์ไฟฟ้า

“การเจรจาเริ่มต้นขึ้นเพราะเราเชื่อว่าเราต้องสร้างขีดความสามารถในการต่อสู้กับพวกเขา รวมถึงกลุ่มผู้เล่นหน้าใหม่ที่กำลังเข้ามาในตลาด ภายในปี 2030” โทชิฮิโระ มิเบะ ผู้บริหารฮอนด้ากล่าวถึงการแข่งขันจากจีน “มิฉะนั้นเราจะถูกพวกเขาสยบ”

FILE – Honda Chief Executive Toshihiro Mibe speaks during a joint news conference with Nissan and Mitsubishi representatives in Tokyo, Japan, Monday, Dec. 23, 2024. (AP Photo/Eugene Hoshiko, File)

ที่มา: BBC

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

Thaiger

The Thaiger นำเสนอข่าวสารล่าสุดและอัปเดตจากทั่วประเทศไทย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button