รู้จัก DeepSeek ระบบ AI จากจีน ปัญญาประดิษฐ์ตัวใหม่เขย่าวงการเทคโนโลยีโลก พร้อมท้าชน OpenAI หรือ ChatGPT
นับตั้งแต่บริษัทเอไอ สัญชาติจีนอย่าง ดีปซีค (DeepSeek) ปล่อยโมเดล AI เชิงอนุมาน หรือ reasoning model เวอร์ชันโอเพ่นซอร์ส ชื่อว่า อาร์วัน (R1) ออกมาเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา วงการเทคโนโลยีก็เต็มไปด้วยเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงความสำเร็จครั้งนี้ และนัยยะสำคัญต่อวงการ AI ที่เริ่มตื่นตัวอีกครั้ง
หนึ่งในเสียงตอบรับที่สร้างความฮือฮาคือความเห็นจาก มาร์ค แอนเดรส์เซ่น (Marc Andreessen) นักลงทุนชื่อดังด้าน Venture Capital ที่กล่าวผ่านโซเชียลมีเดียว่า โมเดลดังกล่าวถือเป็น “หนึ่งในความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่น่าทึ่งและน่าประทับใจที่สุดเท่าที่เขาเคยพบเห็น”
DeepSeek Ai เกิดมาได้อย่างไร
ณ เวลานี้ ชื่อของ DeepSeek AI กำลังสั่นสะเทือนวงการปัญญาประดิษฐ์ หลังปล่อยโมเดลใหม่ล่าสุด DeepSeek-V3 และ DeepSeek-R1 ที่อัดแน่นด้วยประสิทธิภาพ ท้าชนคู่แข่งระดับโลก แถมยังใช้ทรัพยากรน้อยกว่าอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะ DeepSeek-R1 ที่เปิดตัวในเดือนมกราคม 2025 นั้น เน้นความสามารถด้านการให้เหตุผล (Reasoning Tasks) จนถูกจับตามองว่า เป็นคู่แข่งสำคัญของโมเดล o1 จาก OpenAI
ก่อนหน้านี้ไม่นาน DeepSeek เพิ่งสร้างปรากฏการณ์ DeepSeek-Coder-V2 โมเดลล้ำสมัย ที่ออกแบบมาเพื่อแก้โจทย์การเขียนโค้ดสุดหิน รองรับความยาวบริบทถึง 128,000 โทเคน แถมยังเปิดให้ใช้งานผ่าน API ในราคาที่เข้าถึงได้ เพียง 0.14 ดอลลาร์สหรัฐต่อโทเคนสำหรับข้อมูลนำเข้า และ 0.28 ดอลลาร์สหรัฐต่อโทเคนสำหรับข้อมูลผลลัพธ์
ความแรงของ DeepSeek-V2 ที่เปิดตัวไปก่อนหน้าในเดือนพฤษภาคม 2024 ถึงขั้น จุดชนวนสงครามราคา ในตลาดโมเดล AI ของจีน บีบให้ ByteDance, Tencent, Baidu และ Alibaba ต้องหั่นราคาโมเดล AI ของตนเองเพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขัน
ความสามารถของ DeepSeek Ai
จากข้อมูลของเว็บไซต์ TechCrucnch เปิดเผยว่า reasoning model เวอร์ชันโอเพ่นซอร์สที่ชื่อว่า อาร์วัน จะมีความสามารถเทียบเท่า หรือ “เหนือกว่า” โมเดล o1 ของ OpenAI ในบางเกณฑ์การทดสอบ AI
อีกทั้งบริษัทยังอ้างว่า หนึ่งในโมเดลของพวกเขามีต้นทุนการฝึกฝนเพียง 5.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เทียบกับบริษัทชั้นนำของอเมริกาที่ต้องจ่ายเงินหลายร้อยล้านดอลลาร์เพื่อฝึกฝนโมเดลของตน
ยิ่งไปกว่านั้น ดูเหมือนว่า DeepSeek จะประสบความสำเร็จ ทั้ง ๆ ที่เผชิญกับมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐอเมริกา ที่ห้ามการขายชิปประมวลผลขั้นสูงให้กับบริษัทจีน
โดย MIT Technology Review ระบุว่า ความสำเร็จของบริษัท แสดงให้เห็นว่าการคว่ำบาตร “กำลังผลักดันให้สตาร์ทอัพอย่าง DeepSeek สร้างสรรค์นวัตกรรมที่เน้นประสิทธิภาพ การระดมทรัพยากร และความร่วมมือ”
อย่างไรก็ตาม Wall Street Journal รายงานว่า เหลียงเหวินเฟิง (Liang Wenfeng) จาก DeepSeek เพิ่งบอกกับนายกรัฐมนตรีของจีนว่า ข้อจำกัดการส่งออกของอเมริกายังคงเป็นอุปสรรคสำคัญ
นีล โคสลา (Neal Khosla) ซีอีโอของ คูไร (Curai) กลับมีคำอธิบายที่ง่ายกว่านั้น โดยอ้างว่าบริษัทนี้เป็น “ปฏิบัติการจิตวิทยามวลชนของรัฐบาลจีน” ที่ “แกล้งทำเป็นว่าต้นทุนต่ำเพื่ออ้างความชอบธรรมในการตั้งราคาต่ำ และหวังว่าทุกคนจะเปลี่ยนไปใช้มัน [เพื่อ] ทำลายความสามารถในการแข่งขันด้าน AI ในสหรัฐฯ”
อย่างไรก็ตาม มี Community Note แนบมากับโพสต์ของเขา ชี้ว่า โคสลา ไม่มีหลักฐานสนับสนุนคำกล่าวอ้างนี้ และวินอด (Vinod) พ่อของเขา เป็นนักลงทุนใน OpenAI
Ai ตัวใหม่จากจีน อาจเป็นภัยคุกคามสังคม?
ขณะเดียวกัน โฮลเกอร์ ซชาเอพิตซ์ (Holger Zschaepitz) นักข่าวสายเศรษฐกิจ ได้แสดงความเห็นว่า DeepSeek “อาจเป็นภัยคุกคามที่ใหญ่ที่สุดต่อตลาดหุ้นสหรัฐฯ”
หากบริษัทจีนสามารถสร้างโมเดลล้ำสมัยในราคาประหยัด โดยไม่ต้องพึ่งพาชิปขั้นสูง มันจะทำให้เกิดคำถามถึง “ประโยชน์ของการทุ่มเงินหลายแสนล้านไปกับอุตสาหกรรมนี้”
ทางด้านของ แกรี่ แทน (Garry Tan) ซีอีโอของ วาย คอมบิเนเตอร์ (Y Combinator) แย้งว่า ความสำเร็จของ DeepSeek จะเป็นผลดีต่อคู่แข่งในอเมริกา “หากการฝึกฝนโมเดลถูกลง เร็วขึ้น และง่ายขึ้น” เขาเขียนบน X “ความต้องการ inference (การใช้งาน AI จริงในโลก) จะเพิ่มขึ้นและเร่งตัวเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งจะทำให้มั่นใจได้ว่า จะมีอุปทานการประมวลผลถูกใช้งาน”
การใช้งาน Deepseek Ai เบื้องต้น
1. เข้าไปที่เว็บไซต์ http://chat.deepseek.com
2. เลือกสมัครสมาชิก หรือจะล็อกอินผ่านอีเมลที่มีอยู่แล้วก็ได้
3. เข้าใช้งานได้ทันที โดยหน้าตาของ Deepseek Ai จะมีลักษณะคล้ายกับเจ้าอื่น ๆ อย่าง Gemini, ChatGPT, Claude ฯลฯ
4. พิมพ์คำสั่งลงในช่องการสนทนา
สรุปสาระสำคัญข่าวการเปิดตัว Deepseek Ai
– DeepSeek AI บริษัท AI จากจีน ปล่อยโมเดล AI โอเพ่นซอร์ส “R1” ที่มีประสิทธิภาพสูง ในราคาที่ถูกกว่าคู่แข่งอย่าง OpenAI อย่างมาก โดยอ้างว่าโมเดลหนึ่งใช้ต้นทุนฝึกฝนเพียง 5.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
– ความสามารถของโมเดล “R1” เทียบเท่าหรือเหนือกว่า o1 ของ OpenAI ในบางด้าน และยังทำงานได้ดีแม้จีนจะถูกสหรัฐฯ คว่ำบาตร ห้ามเข้าถึงชิปประมวลผลขั้นสูง
– มีการตั้งข้อสังเกตและข้อกล่าวหาว่า DeepSeek AI อาจเป็นเครื่องมือของรัฐบาลจีน (ปฏิบัติการ “PsyOp”) ในการแข่งขันกับสหรัฐฯ ด้าน AI แต่ก็มีผู้เชี่ยวชาญออกมาโต้แย้ง และมองว่า DeepSeek ได้ประโยชน์และต่อยอดจากงานวิจัยแบบเปิด รวมถึงโอเพ่นซอร์ส (เช่น PyTorch และ Llama จาก Meta)
– ผู้เชี่ยวชาญในวงการ AI และเทคโนโลยี มีความเห็นที่หลากหลาย บางคนมองว่า DeepSeek AI เป็นภัยคุกคามต่อบริษัทเทคโนโลยีและตลาดหุ้นสหรัฐฯ ขณะที่บางคนมองว่าเป็นผลดีต่อการแข่งขัน และเร่งการพัฒนา AI
– จากกระแสข่าวดังกล่าว ส่งผลให้แอปผู้ช่วย AI ของ DeepSeek ขึ้นแท่นอันดับ 1 แอปฟรียอดนิยมบน App Store แซงหน้า ChatGPT สะท้อนถึงความสนใจของผู้บริโภคที่อยากทดลองใช้
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ข่าวล่าสุด
