เปิดกฎหมายญี่ปุ่น แจ็กแปปโฮ ปีนรถเต้น Lawson วิวฟูจิ เสี่ยงคุก 3 ปี ปรับ 5 แสนเยน
เพจ JapanSalaryman ชี้ พฤติกรรมปีนหลังคารถ เต้นหน้าร้าน Lawson วิวฟูจิ เข้าข่าย “ทำให้ทรัพย์สินเสียหาย” เสี่ยงจำคุก 3 ปี แถมถูกจับตามองเป็นพิเศษ หลังเทศบาลเพิ่งสร้างกำแพงบังวิว
จากกรณีที่อินฟลูเอนเซอร์ชาวไทย แจ็กแปปโฮ ถอดเสื้อเต้นบนหลังคารถที่ลานจอดรถร้าน Lawson วิวภูเขาไฟฟูจิ ล่าสุดเพจ JapanSalaryman ได้ออกมาวิเคราะห์ข้อกฎหมาย โดยระบุว่า พฤติกรรมนี้ไม่ใช่แค่เรื่องมารยาท แต่เป็นเรื่องกฎหมายที่ “เอาผิดได้จริง”
4 ข้อหา แจ็กแปปโฮ เสี่ยงถูกดำเนินคดี
ร้าน Lawson สาขา Fujikawaguchiko เป็นจุดที่อ่อนไหวที่สุดในญี่ปุ่นตอนนี้ เนื่องจากพื้นที่นี้เคยถูกนักท่องเที่ยวถล่มด้วยพฤติกรรมไม่เหมาะสมมานาน จนเทศบาลต้องตัดสินใจ สร้างกำแพงบังวิวสูง 2.5 เมตร เพื่อจัดการนักท่องเที่ยว
การที่อินฟลูเอนเซอร์มาปีนหลังคารถ-เต้นหน้าร้าน จึงกลายเป็นประเด็นร้อนแรงทันที เพราะพื้นที่นี้อยู่ใน “โหมดเข้มงวดสูงสุด” อยู่แล้ว
เพจ JapanSalaryman ได้วิเคราะห์ความเสี่ยงทางกฎหมายที่อาจเกิดขึ้น โดยระบุว่าพฤติกรรมของ แจ็คแปปโฮ อาจเข้าข่ายความผิดอย่างน้อย 4 ข้อหา ดังนี้

1. ความผิดฐานทำให้ทรัพย์สินเสียหาย (刑法261条)
หากการปีนขึ้นไปบนหลังคารถที่ไม่ใช่ของตัวเอง ทำให้หลังคายุบ หรือเกิดรอยบุบแม้เพียงเล็กน้อย เจ้าของรถมีสิทธิแจ้งความดำเนินคดีอาญาได้ทันที บทลงโทษคือ จำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 เยน (ประมาณ 70,000 บาท)
2. ความผิดฐานขัดขวางการทำธุรกิจ (業務妨害 刑法233・234条 )
เนื่องจากคลิปดังกล่าวถ่ายในจุดใกล้ทางเข้า-ออกร้าน Lawson ซึ่งมีคนพลุกพล่าน หากการเต้น-ถ่ายคลิปทำให้รถลูกค้าเข้าออกลำบาก หรือขัดขวางการทำงานของพนักงานจนทำให้ร้านเสียหาย อาจเข้าข่ายความผิดนี้ ด้วยการได้รับบทลงโทษเป็น จำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 500,000 เยน
3. กฎหมายลหุโทษ (ก่อความเดือดร้อนสาธารณะ)
การทำเสียงดัง สร้างความวุ่นวาย หรือแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมในที่สาธารณะ หากตำรวจมาเจอเหตุการณ์ อาจถูกเชิญตัวไปสถานีตำรวจได้ทันที บทลงโทษ คือ กักตัวไม่เกิน 30 วัน หรือปรับไม่เกิน 10,000 เยน
4. ผิดเทศบัญญัติท้องถิ่น
พื้นที่ Fujikawaguchiko มีมาตรการควบคุมนักท่องเที่ยวอย่างจริงจัง ถ้าฝ่าฝืน ตำรวจท้องถิ่นมีสิทธิ์ออกคำสั่งหรือปรับตามระเบียบได้
เพจ JapanSalaryman ย้ำว่า สังคมญี่ปุ่นเน้นความสงบเรียบร้อยสูงมาก และที่สำคัญ คลิปคือหลักฐานทางกฎหมายโดยสมบูรณ์ ญี่ปุ่นเคยจับกุมคนจากคลิป TikTok/YouTube มาแล้วหลายครั้ง แม้ตัวคนทำจะเดินทางกลับประเทศไปแล้วก็ตาม

เปิดเคสอินฟลูฯ เยอรมัน “ตีลังกากลางชานชาลา” บทเรียนมารยาทญี่ปุ่น
นอกจากนี้ เพจ JapanSalaryman ยังได้ยกตัวอย่างเคสคล้าย ๆ กันกับกรณีของแจ็กแปบโฮ ย้อนไปเมื่อประมาณ 6 เดือนที่ผ่านมา ประเทศญี่ปุ่นเคยมีกรณีดราม่าใหญ่ที่สื่อหลายสำนักต้องรายงาน เมื่ออินฟลูเอนเซอร์ชาวเยอรมันคนหนึ่ง (มีผู้ติดตามกว่า 1 ล้านคน) เดินทางมาทำคอนเทนต์ในโตเกียวด้วยพฤติกรรมสุดป่วน จนถูกชาวญี่ปุ่นวิจารณ์อย่างหนัก
เหตุการณ์นี้ถือเป็นอุทาหรณ์สำคัญที่แสดงให้เห็นว่า คนญี่ปุ่น “ซีเรียส” กับพฤติกรรมก่อกวนของชาวต่างชาติมากแค่ไหน
3 พฤติกรรมที่รบกวนสังคมญี่ปุ่น
1. เปิดลำโพงยักษ์ในรถไฟ
- ผู้ก่อเหตุได้ถือ “ลำโพงแบบกระเป๋าลาก” เปิดเพลงเสียงดังมากบนรถไฟสายยามาโนะเตะ ซึ่งถือเป็นการเสียมารยาทขั้นสูงสุดในสังคมญี่ปุ่น ผู้โดยสารคนอื่นๆ ได้แต่ยืนนิ่งแต่แสดงสีหน้าอึดอัดอย่างเห็นได้ชัด
2. ตีลังกากลางชานชาลา
- เมื่อรถไฟถึงสถานีชิบุยะหรือสถานีเอะบิสุ เขาจะวิ่งออกไปกลางชานชาลาแล้ว ตีลังกา (backflip) ทันที แม้ว่าจุดนั้นจะมีคนเยอะมากและเป็นพื้นที่อันตรายระดับสูง คนญี่ปุ่นมองว่าเป็นการ “ทำร้ายความปลอดภัยสาธารณะชัดเจน” เพราะอาจทำให้คนอื่นตกลงรางรถไฟได้
3. จัดกิจกรรมเสียงดังโดยไม่ขออนุญาต
- เขานัดแฟน ๆ ญี่ปุ่นกว่า 100 คนมารวมตัวกันที่สวนสาธารณะโดยไม่ขออนุญาต ทำให้เกิดความโกลาหล เสียงดัง และปิดทางเดิน จนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยต้องเข้าไปตักเตือนและโทรแจ้งตำรวจในเวลาต่อมา
เมื่อถูกสื่อญี่ปุ่นตามไปสัมภาษณ์ตรงๆ ว่า “รู้ไหมว่าผิดกฎหมายหรือไม่” อินฟลูเอนเซอร์คนดังกล่าวกลับตอบว่า “ผมทำแบบนี้ทั่วโลก ไม่ผิดกฎหมายหรอก ไม่เป็นไรหรอก” คำตอบนี้ทำให้ชาวญี่ปุ่นโกรธหนักขึ้นไปอีก เพราะแปลว่า “ไม่เคารพกฎบ้านเมืองเขาเลย”

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- คลิป แจ็กแปปโฮ ถอดเสื้อเต้นที่ญี่ปุ่นหายจากหน้าเพจ ทำคนสงสัยซ่อนหรือลบ?
- แจ็กแปปโฮ สวนชาวเน็ต หลังถูกเตือนเรื่องมารยาทที่ญี่ปุ่น “โมโหมากๆระวังน้ำตาลขึ้นนะครับ”
- เมียแจ็กแปปโฮโพสต์ชี้แจง ห้ามแล้วไม่ยอมฟัง ปมคลิปเต้นหน้าลอว์สันฟูจิโดนทัวร์ลง
สุดท้าย อินฟลูเอนเซอร์รายนี้ถูกสังคมญี่ปุ่นตำหนิอย่างรุนแรงมาก และต้องรีบออกมาขอโทษว่า “ผมไม่รู้ว่าต้องขออนุญาต ขอโทษครับ” ก่อนจะรีบเดินทางออกจากประเทศญี่ปุ่นไปอย่างรวดเร็ว
ข้อมูลจาก
ติดตาม The Thaiger บน Google News:





