วิธีคำนวณหนี้ กยศ. ตาม พ.ร.บ.ฉบับใหม่ จ่ายถูกลง บางคนไม่ต้องจ่ายเลย
ลูกหนี้ กองทุนให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา มารวมกันตรงนี้ เปิดตัวอย่างคำนวณวิธีคิดเงินต้น ดอกเบี้ยไปจนเบี้ยปรับตามกฎหมายใหม่ หลัง กิตติรัตน์ ณ ระนอง บอกหลายคนอาจไม่เหลือหนี้คนชำระแล้วอาจได้เงินคืนอีกด้วย
ประเด็นแก้หนี้ กองทุนให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา หรือ กยศ. ถูกนำมาพูดถึงในรายละเอียดเชิงลึกอีกครั้ง หลังจากไม่นานนี้ กิตติรัตน์ ณ ระนอง ประธานที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ออกมาระบุถึงผลการหารือล่าสุดว่า ลูกหนี้กยศ. ทั่วประเทศประมาณ 3.8 ล้านคน มูลหนี้ประมาณ 1 ล้านล้านบาท หากบังคับใช้กฎหมายใหม่ ตาม พ.ร.บ.กองทุน กยศ. จะทำให้ลูกหนี้ กยศ.หลายคนไม่เหลือหนี้อยู่ หรือคนที่ชำระหนี้ไปแล้วหลายคนอาจได้เงินคืน
สำหรับการแก้หนี้ กยศ. เที่ยวล่าสุดนี้จะดำเนินการตาม พระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2566 ที่เพิ่งมีผลบังคับใช้ไปเมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2566 ที่ผ่านมา ซึ่งในรายละเอียดเบื้องต้นมีการกำหนดอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าเดิม และยังจะคำนวณภาระหนี้สินย้อนหลังด้วย โดยหนี้สิน กยศ. หากนำมาคำนวณใหม่มูลหนี้ที่เหลือค้างใน กยศ. จะเหลือประมาณ 50% เท่านั้น
สาระสำคัญของพ.ร.บ. กยศ. ฉบับใหม่ จะช่วยเหลือผู้กู้ โดยปรับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เป็นไม่เกิน 1% ต่อปี ส่วนเบี้ยปรับจะลดเหลือ 0.5% ต่อปี จากเดิมที่กำหนดให้เก็บดอกเบี้ยไม่เกิน 7.5% ต่อปี และไม่ต้องมีผู้ค้ำประกัน
ตัวอย่างวิธีการคำนวณหนี้ การชำระเงินคืนตามสัญญากู้ยืมปีการศึกษา 2566
อ้างอิงข้อมูลจากเว็บไซต์ กยศ. สัญญากู้ยืมเงินกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา ที่กองทุนฯ เริ่มใช้ในปีการศึกษา 2566 เพื่อให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา พ.ศ. 2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2566
กองทุนฯ ได้ดำเนินการปรับปรุงเนื้อหาในสัญญากู้ยืมเงินให้มีหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการให้เงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาและการชำระเงินคืนกองทุนตามพระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา พ.ศ. 2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2566 รายละเอียดการผ่อนชำระเงินคืนในแต่ละแบบ มีดังนี้
แบบที่ 1
- รายเดือน ชำระต้นเงินในจำนวนเท่ากันทุกเดือน
แบบที่ 2
- รายไตรมาส (3 เดือน) ชำระต้นเงินในจำนวนเท่ากันทุกไตรมาส
แบบที่ 3
- รายปี ชำระต้นเงินในจำนวนเท่ากันทุกปี
แบบที่ 4
- รายปี ชำระต้นเงินในจำนวนที่เพิ่มขึ้นทุกปี (Step Up)
ทั้งนี้ ในกรณีผ่อนชำระหากผู้กู้ยืมเงินไม่เลือกวิธีการผ่อนชำระวิธีใดวิธีหนึ่งข้างต้น ผู้ให้กู้ยืม จะถือว่าผู้กู้ยืมเงินประสงค์จะผ่อนชำระเงินคืนเป็นรายปี โดยชำระต้นเงินในจำนวนที่เพิ่มขึ้นทุกปี (Step Up)
นอกจากนี้ในการผ่อนชำระเงินคืนผู้กู้ยืมเงินจะต้องผ่อนชำระเงินคืนให้เสร็จสิ้นภายในระยะเวลาไม่เกิน 15 ปี นับแต่วันที่ครบกำหนดระยะเวลา 2 ปี ดังกล่าว โดยมีรายละเอียดการผ่อนชำระเงินคืนดังต่อไปนี้
ตัวอย่าง จำนวนต้นเงินที่ต้องชำระในแต่ละงวด ต้องไม่ต่ำกว่าอัตราที่กำหนดไว้ ดังนี้
แบบที่ 1 รายเดือน ชำระต้นเงินในจำนวนเท่ากันทุกเดือน
ยอดหนี้เงินกู้ยืม | อัตราผ่อนชำระ 15 ปี ต้นเงินพร้อมดอกเบี้ย ร้อยละ 1 ต่อปี |
100,000 บาท | ไม่น้อยกว่า 600 บาทต่อเดือน |
200,000 บาท | ไม่น้อยกว่า 1,200 บาทต่อเดือน |
300,000 บาท | ไม่น้อยกว่า 1,800 บาทต่อเดือน |
400,000 บาท | ไม่น้อยกว่า 2,400 บาทต่อเดือน |
500,000 บาท | ไม่น้อยกว่า 3,000 บาทต่อเดือน |
แบบที่ 2 รายไตรมาส (3 เดือน) ชำระต้นเงินในจำนวนเท่ากันทุกไตรมาส
ยอดหนี้กู้ยืม | อัตราผ่อนชำระ 15 ปี ต้นเงินพร้อมดอกเบี้ย ร้อยละ 1 ต่อปี |
100,000 บาท | ไม่น้อยกว่า 1,800 บาทต่อไตรมาส |
200,000 บาท | ไม่น้อยกว่า 3,600 บาทต่อไตรมาส |
300,000 บาท | ไม่น้อยกว่า 5,400 บาทต่อไตรมาส |
400,000 บาท | ไม่น้อยกว่า 7,190 บาทต่อไตรมาส |
500,000 บาท | ไม่น้อยกว่า 8,990 บาทต่อไตรมาส |
แบบที่ 3 รายปี ชำระต้นเงินในจำนวนเท่ากันทุกปี
ยอดหนี้เงินกู้ยืม | อัตราผ่อนชำระ 15 ปี ต้นเงินพร้อมดอกเบี้ย ร้อยละ 1 ต่อปี |
(บาท) | รายปี |
100,000 บาท | ไม่น้อยกว่า 7,220 บาทต่อปี |
200,000 บาท | ไม่น้อยกว่า 14,430 บาทต่อปี |
300,000 บาท | ไม่น้อยกว่า 21,640 บาทต่อปี |
400,000 บาท | ไม่น้อยกว่า 28,850 บาทต่อปี |
500,000 บาท | ไม่น้อยกว่า 36,070 บาทต่อปี |
แบบที่ 4 รายปี ชำระต้นเงินในจำนวนที่เพิ่มขึ้นทุกปี (Step Up)
งวดที่ต้องชำระ | ร้อยละของต้นเงินที่ต้องชำระ |
1 | 1.5 |
2 | 2.5 |
3 | 3.0 |
4 | 3.5 |
5 | 4.0 |
6 | 4.5 |
7 | 5.0 |
8 | 6.0 |
9 | 7.0 |
10 | 8.0 |
11 | 9.0 |
12 | 10.0 |
13 | 1 1.0 |
14 | 12.0 |
15 | 13.0 |
สำหรับใครที่ต้องการเข้าไปเช็กรายละเอียดตัวอย่างการคำนวน หนี้กยศ. เพิ่มเติม คลิกที่นี่.
ขอบคุณข้อมูล : กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.)