ฝากเตือนภัย “โฆษณาชวนทำงานง่าย ๆ ในเกาหลี คนมาเที่ยวก็ทำได้” ที่แท้ฝีมือมิจฉาชีพ

Pacharaเผยแพร่: 02 พ.ย. 2566 16:11 น.| อัปเดต: 02 พ.ย. 2566 18:00 น.

123 Less than a minute

เตือนภัย คนไทยในเกาหลี 2566 — ภาพ Facebook @ramaAdd

คนไทยอยู่เกาหลีใต้ 10 ปี เป็นล่ามให้กรมตำรวจแดนโสม เผยผ่านเพจ Drama addict ฝากเตือนภัยแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เวอร์ชั่นต่อสายหา ณ กรุงโซล โฆษณาชวนทำงานง่าย ๆ ในเกาหลี คนมาเที่ยวก็ทำได้

วันที่ 2 พ.ย.2566 เฟซบุ๊กแฟนเพจ Drama-addict ออกมาเปิดเผยข้อมูลจากลูกเพจซึ่งส่งรงมาจากประเทศเกาหลีใต้ โดยเนื้อหาทั้งหมดระบุ ดังนี้ “คนไทยที่อยู่เกาหลีใต้ฝากเตือนภัยมาครับ สวัสดีค่ะ หนูเป็นคนไทยที่มาอยู่เกาหลีตอนนี้อยู่เกาหลีประมาณ 10 ปีแล้วค่ะ เป็นล่ามให้กับกรมตำรวจเกาหลีค่ะ”

“ตอนนี้มีปัญหาอย่างหนึ่งที่กำลังหนักมากคือ ปัญหาแก๊งมิจฉาชีพค่ะ หรือที่ไทยเรียกว่า call center แต่ที่นี่จะมีวิธีที่ต่างออกไป เพราะเขาจะรับเป็นเงินสด แต่ที่หนูติดต่อไปก็คืออยากจะให้ช่วยเป็นกระบอกเสียงให้หน่อยค่ะตอนนี้มีคนไทยตกเป็นเหยื่อเยอะมาก วิธีของพวกนี้คือจะหาคนต่างชาติในเกาหลี และ ไม่จำเป็นต้องได้ภาษาเกาหลีค่ะ จะมีนายหน้าคนไทยหาตามเฟซบุ๊ก (Facebook) ค่ะ จะโฆษณาว่าทำงานง่าย ๆ ในเกาหลี”

“คนที่มาเที่ยวก็สามารถทำได้ โดยเขาจะมีแอพพลิเคชั่นให้มีคนจีนที่พูดไทยได้สั่งงานคนไทยให้นั่งรถแท็กซี่ไปตามจุดเพื่อรับเงินของผู้เสียหาย แล้วไปส่งให้กับคนอีกคนหนึ่ง ซึ่งเป็นงานที่ได้เงินดีมากเลยค่ะครั้งละประมาณ 200,000 วอนหรือ 6,000 บาทไทยซึ่ง คนไทยโดนกันเยอะมาก อารมณ์แบบก็ไม่ได้ยากอะไรแถมยังได้เงินด้วย พวกแก๊งมิจฉาชีพชั้นจะหลอกคนไทย โดยการบอกว่าไม่ใช่งานผิดกฎหมายอะไรแค่ รับเอกสารหรือรับเงินกู้ยืมเอาไปส่งให้กับเจ้าของซึ่งคนไทยหลายก็ไม่ได้เอะใจ แล้วทำกันเยอะมากถือว่าได้ค่าขนมในการเที่ยวเกาหลี วันนี้หนูเพิ่งไปเรือนจำมามีคนนึงทำมาแล้วประมาณ 30 ครั้ง”

“เอาจริงๆ น่าตกใจคือในเรือนจำเกาหลีมีแต่คนไทยค่ะ หนูเลยอยากรบกวนให้เป็นกระบอกเสียงให้หน่อยค่ะ เพราะเชื่อว่าจะมีคนไทยหลายท่านที่จะตกเป็นเหยื่ออีก เพราะที่เกาหลี คดีนี้ถือเป็นคดีร้ายแรง ปวดใจมากเลยค่ะที่คนไทยใส่ชุดนักโทษอยู่เต็มเรือนจำเกาหลี ขอบคุณค่ะ”

ทั้งนี้ โพสต์เตือนภัยดังกล่าวจากล่ามคนไทยที่ทำงานให้กรมตำรวจเกาหลีใต้ ได้รับความสนใจอย่างรวดเร็วจนมีคนเขียนคอมเมนต์เข้ามาเป้นจำนวนมาก บางคนตกใจกับเนื้อหาที่ระบุว่า พบผู้ต้องหารายหนึ่งทำงานรูปแบบดังกล่าวและโดนจับมาแล้วถึง 30 ครั้ง เช่นเดียวกับข้อมูลที่เจ้าของเรื่องระบุว่า “ที่น่าตกใจ ในเรือนจำเกาหลีมีแต่คนไทย” ที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับคดีแก๊งมิจฉาชีพคอลเซ็นเตอร์ดังกล่าว ซึ่งสร้างความตกตะลึงเบา ๆ ผ่านการบอกกล่าวข้อมูลผ่านโลกออนไลน์ในหนล่าสุดนี้อีกด้วย