สาวแชร์ประสบการณ์ติด ตม.เกาหลี แม้เคยมาเที่ยวแล้ว 4 ครั้ง โดนเจ้าหน้าที่ถามกลับ ไม่ลองเที่ยวประเทศอื่นดูบ้าง ปักตกเอกสารทุกอย่าง
ขึ้นชื่อว่าประเทศเกาหลี แน่นอนว่าทำเอานักท่องเที่ยวไทยเข็ดขยาดไปตาม ๆ กัน เพราะด่านตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) นั้นโหดหินกว่าทุกปะรเทศในโลกนี้ก็ว่าได้ คนไทยหลายคนถูกส่งตัวกลับประเทศกันเป็ฯว่าเล่นแม้จะมีหลักฐานความน่าเชื่อถือขนาดไหน ลองได้ถูกเจ้าหน้าที่เกาหลีหมายหัวแล้ว ไม่มีทางผ่านเข้าไปในประเทศเขาได้อย่างแน่นอน
เช่นเดียวกับผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่งที่ออกมาเล่าประสบการณ์ติด ตม.เกาหลี ครั้งแรก หลังจากที่ก่อนหน้านี้เคยมาเที่ยวเกาหลีแล้วถึง 4 ครั้ง โดยให้รายละเอียดว่าคนที่จะถูกเรียกเข้าห้องสัมภาษณ์มีตั้งแต่คนแต่งตัวธรรมดาไปจนถึงแต่งตัวดูแพง เรียกได้ว่าไม่เลือกปฏิบัติ แต่ทำเหมือนระบบสุ่มมากกว่า
อย่างไรก็ดี ทางผู้ใช้ทวิตเตอร์รายนี้ก็เตรียมตัวตอบคำถามมาแล้วเป็นอย่างดี มีข้อมูลประกอบการเที่ยวทุกอย่าง ทั้งเอกสาร หลักฐาน และแผนการเดินทาง แต่ไม่วายสุดท้ายแล้วทุกอย่างเตรียมพร้อมมานั้นกลับถูกปัดตกทันที ด้วยเหตุผลที่ว่าเงินที่นะมาเที่ยวเกาหลีในครั้งนี้ดูเยอะกว่าเงินเดือนที่ได้รับ แม้จะอธิบายว่าเป็นเงินเก็บในรอบ 5 ปี ก็ไม่ช่วยอะไร
นอกจากนี้ ผู้ใช้ทวิตเตอร์รายดังกล่าวยังตั้งข้อสังเกตอีกด้วยว่า เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองของเกาหลีนั้น เหมือนถูกฝึกมาให้ไร้จิตวิญญาณ หากคุณเป็นผู้ถูกเลือกให้ติด ตม. แล้วย่อมไม่มีทางได้เข้าประเทศอย่างแน่นอน อีกทั้งการไปเที่ยวเกาหลีครั้งต่อไปจะยากขึ้นด้วย เพราะเคยมีประวัติมาก่อน
ทั้งนี้ หนึ่งในคำถามที่เจ้าหน้าที่ถามกับเจ้าของทวิต ที่แม้แต่ชาวเน็ตผ่านมาเห็นแล้วยังหงุดหงิดแทน คือการถามว่า “ทำไมไม่ไปประเทศอื่นบ้างล่ะ มาเที่ยวแต่เกาหลี 4 ครั้งแล้ว แถมรอบล่าสุด อยู่นานด้วย ยังไม่หนำใจ/ไม่เต็มที่/ไม่พอใจอีกเหรอ” อีกทั้งการถูกเลือกปฏิบัติขณะอยู่ในห้องสัมภาษณ์ ประหนึ่งว่าคนที่ติด ตม.เกาหลี ทุกคนเป็นอาชญากร
หลังจากที่เรื่องราวดังกล่าวถูกแชร์ลงในทวิตเตอร์ ก็มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันอย่างมากมาย บางคนเข้ามาแชร์ประสบการณ์ที่เคยติด ตม.เกาหลี ด้วยเช่นกัน บางคนก็วิพากษ์วิจารณ์ถึงพฤติกรรมไร้มารบาทของเจ้าหน้าที่ ส่งผลให้แฮชแท็ก #ตมเกาหลี พุ่งติดเทรนด์อันดับ 1 บนทวิตเตอร์ในขณะนี้
อย่างไรก็ดี แม้จะมีนักท่องเที่ยวสัญชาติอื่นถูกส่งตัวเข้าห้องสัมภาษณ์ด้วยเช่นกัน ทว่าคนไทยกลับถูกเพ่งเล็งเป็นอันดับแรกในสายตาเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองของประเทศเกาหลีมากที่สุด ซึ่งทำให้หลายคนเสนอแนวคิดว่าหากคนไทยร่วมใจกันไม่เที่ยวเกาหลีอย่างมีนัยสำคัญ เพียงเท่านี้ก็อาจจะเป็นแรงกระเพื่อมที่ส่งไปถึงรัฐบาลเกาหลีใต้ไม่มากก็น้อย
