ข่าว

“สลาก L6 แบบใบ” ต่างจาก “สลากดิจิทัล” ยังไงบ้าง เช็กวิธีขึ้นรางวัลที่นี่

คอหวยต้องรู้! ความแตกต่างระหว่าง สลาก L6 แบบใบ และสลากดิจิทัล หลังเริ่มวางขายตั้งแต่ 17 กันยายน 2566 พร้อมแนะวิธีขึ้นเงินรางวัล ต้องทำยังไงบ้าง

พ.ท.หนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ได้ยืนยันอย่างเป็นทางการแล้วว่า ทางสำนักงานสลากฯ พร้อมเปิดจำหน่ายสลาก L6 หรือสลากกินแบ่งรัฐบาลหกหลัก โดยจะออกรางวัลงวดแรก 1 ตุลาคม 2566 ซึ่งมีทั้งสลากแบบใบและสลากแบบดิจิทัลผ่านแอปพลิเคชั่นเป๋าตัง โดยมียอดรวม 101 ล้านฉบับ โดยสลากทั้ง 2 ประเภท จะมีความแตกต่างในเรื่องของการวางขายและวิธีการขึ้นเงินที่ต่างกันออกไป

ความแตกต่าง สลาก L6 แบบใบ – สลากดิจิทัล

สลากกินแบ่งรัฐบาลแอล 6 ยังคงรูปแบบเหมือนกับสลากที่วางขายทั่วไปในไทย โดยจะมีสัญลักษณ์ L6 พิมพ์ไว้บนกระดาษ ส่วนในเรื่องของลายน้ำ เส้นไหม และเนื้อกระดาษ ยังคงมีความเหมือนเดิมเพื่อป้องกันการปลอมแปลง

ในขณะที่สลากแบบดิจิทัล จะอยู่ภายในระบบดิจิทัลและไม่ได้พิมพ์มาเป็นใบให้จับต้องได้ แต่ก็จะมีข้อความ L6 ปรากฏบนหน้าสลากให้ได้เห็นเช่นกัน ซึ่งสามารถเข้าไปซื้อขายได้ที่แอปพลิเคชั่นเป๋าตัง

ความแตกต่าง สลาก L6 แบบใบ - สลากดิจิทัล

วิธีขึ้นเงินรางวัล สลาก L6 และ สลากดิจิทัล

การขึ้นเงินรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล L6 แบบใบ ผู้ที่ถูกรางวัลสามารถเดินทางไปขึ้นเงินได้ที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล, ธนาคารกรุงไทย, ธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร โดยจะต้องนำบัตรประจำตัวประชาชน ไปรับเงินพร้อมกับสลากที่ถูกรางวัลด้วย

สำหรับสลากดิจิทัล L6 ท่านจะทราบผลรางวัลผ่านระบบดิจิทัล ซึ่งจะมีการตรวจสอบให้โดยอัตโนมัติ ซึ่งหากถูกรางวัลก็จะได้รับเงินผ่านช่องทางธนาคารกรุงไทย หรือ G-wallet ภายใน 2 ชั่วโมงหลังทราบผล

สลาก L6 แบบใบ สลากดิจิทัล วิธีขึ้นเงิน

ในปัจจุบันสลากกินแบ่งรัฐบาล ได้มีการกำหนดเพดานราคาไว้ที่ 80 บาทต่อใบ โดยผู้ที่สนใจสามารถลงทะเบียนเป็นตัวแทนจำหน่ายสลากดิจิทัล แอล 6 ได้ ผ่านเว็บไซต์ www.glo.or.th

Eye Chanoknun

นักเขียนประจำ Thaiger จบจากคณะการสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มีประสบการณ์เขียนงานผ่านเว็บไซต์ด้านความงามและแฟชั่นชื่อดังของไทยมากกว่า 3 ปี ปัจจุบันชื่นชอบการเขียนข่าวบันเทิง ภาพยนตร์ ซีรีส์ k-pop และไลฟ์สไตล์ เพื่อนำมาบอกเล่าผ่านตัวอักษร ด้วยมุมมองใหม่ ๆ ที่น่าสนใจ ชวนให้ติดตาม ช่องทางติดต่อ eye@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button