ดูแลลูก ต้องไม่ลืมเพิ่มภูมิคุ้มกัน SAIJAI พาพ่อแม่เตรียมตัวดู ตารางฉีดวัคซีนทารก – เด็กประถม อัปเดตล่าสุดปี 2566 เสริมสร้างร่างกายลูกน้อยให้แข็งแรง
ลูกวัยเด็ก ตั้งแต่แรกเกิดไปจนถึงวัยประถม นอกจากต้องใส่ใจเป็นพิเศษเรื่องสารอาหารและอนามัยแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ SAIJAI (ใส่ใจ) เห็นว่าสำคัญไม่แพ้กันก็คือ การฉีดวัคซีน เพื่อเสริมภูมิคุ้มกันให้เด็กนั่นเอง สำหรับพ่อแม่มือใหม่หลายคู่ที่อาจไม่รู้ว่าลูกแรกเกิดควรได้รับวัคซีนอะไรบ้าง วันนี้ใส่ใจขอพาคุณไปเตรียมความพร้อมด้วย ตารางฉีดวัคซีนสำหรับลูก ๆ วัยเด็กกันค่ะ
ตารางฉีดวัคซีน สำหรับเด็กแรกเกิดถึงวัยประถม
สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่เห็นจำนวนวัคซีนแล้วรู้สึกคิดไม่ตกกับค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้น ใส่ใจขอบอกเลยค่ะว่า ทางกระทรวงสาธารณสุขมีให้บริการวัคซีนเหล่านี้ เพราะเป็นวัคซีนที่ทางคณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค กระทรวงสาธารณสุข แนะนำว่าเด็ก ๆ ควรได้รับเพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
วัคซีนจะมีด้วยกันทั้งหมด 11 ชนิด ซึ่งวัคซีนแต่ละชนิดจะช่วยป้องกันโรคต่าง ๆ ดังนี้
- BCG : วัคซีนป้องกันวัณโรค
- HB : วัคซีนป้องกันโรคตับอักเสบบี
- DTP-HB-Hib : วัคซีนป้องกันโรคคอตีบ บาดทะยัก ไอกรน ตับอักเสบบี และ ฮิบ
- OPV : วัคซีนป้องกันโรคโปลิโอชนิดรับประทาน
- Rota : วัคซีนโรต้า ป้องกันโรคอุจจาระร่วงจากเชื้อไวรัสโรต้า
- IPV : วัคซีนป้องกันโรคโปลิโอชนิดฉีด
- MMR : วัคซีนรวมป้องกันโรคหัด ป้องกันโรคคางทูม หัด และหัดเยอรมัน
- LAJE : วัคซีนป้องกันโรคไข้สมองอักเสบจีชนิดเชื้อเป็นอ่อนฤทธิ์
- DTP : วัคซีนรวมป้องกันโรคคอตีบ บาดทะยัก ไอกรน
- HPV : วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกจากเชื้อเอชพีวี
- dT : วัคซีนรวมป้องกันโรคคอตีบ และบาดทะยัก
วัคซีนเหล่านี้จะกระจายฉีดไปตามช่วงอายุต่าง ๆ เมื่อเด็กถึงวัยที่ครบกำหนดก็เป็นหน้าที่สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่ควรพาลูกไปฉีด โดยแบ่งเป็น 2 ช่วงวัย คือ วัยเด็กแรกเกิด ถึงอายุ 4 ปี และวัยประถมศึกษา ดังนี้ค่ะ
วัยเด็กแรกเกิด ถึงอายุ 4 ปี
– วัยแรกเกิด ฉีด 2 เข็ม
- วัคซีนป้องกันโรคตับอักเสบบี ครั้งที่ 1 (HB1) : ควรฉีดทันทีภายใน 24 ชั่วโมงแรกหลังคลอด
- วัคซีนป้องกันวัณโรค (BCG) : ควรฉีดก่อนลูกน้อยแรกเกิดจะออกจากโรงพยาบาล
– 1 เดือน ฉีด 1 เข็ม
- วัคซีนป้องกันโรคตับอักเสบบี ครั้งที่ 2 (HB2) : ฉีดเฉพาะเด็กที่คลอดจากมารดาที่เป็นพาหะไวรัสตับอักเสบบี
– 2 เดือน ฉีด 3 เข็ม
- วัคซีนป้องกันโรคคอตีบ บาดทะยัก ไอกรน ตับอักเสบบี และ ฮิบ ครั้งที่ 1 (DTP-HB-Hib1)
- วัคซีนป้องกันโรคโปลิโอชนิดรับประทาน ครั้งที่ 1 (OPV1)
- วัคซีนโรต้า ป้องกันโรคอุจจาระร่วงจากเชื้อไวรัสโรต้า ครั้งที่ 1 (Rota1) : ห้ามฉีดวัคซีนครั้งที่ 1 ในเด็กที่อายุมากกว่า 15 สัปดาห์
– 4 เดือน ฉีด 4 เข็ม
- วัคซีนป้องกันโรคคอตีบ บาดทะยัก ไอกรน ตับอักเสบบี และ ฮิบ ครั้งที่ 2 (DTP-HB-Hib2)
- วัคซีนป้องกันโรคโปลิโอชนิดรับประทาน ครั้งที่ 2 (OPV2)
- วัคซีนป้องกันโรคโปลิโอชนิดฉีด (IPV) : ให้ฉีด 1 เข็มพร้อมกับวัคซีนโปลิโอชนิดรับประทาน 1 ครั้ง
- วัคซีนโรต้า ป้องกันโรคอุจจาระร่วงจากเชื้อไวรัสโรต้า ครั้งที่ 2 (Rota2)
– 6 เดือน ฉีด 3 เข็ม
- วัคซีนป้องกันโรคคอตีบ บาดทะยัก ไอกรน ตับอักเสบบี และ ฮิบ ครั้งที่ 3 (DTP-HB-Hib3)
- วัคซีนป้องกันโรคโปลิโอชนิดรับประทาน ครั้งที่ 3 (OPV3)
- วัคซีนโรต้า ป้องกันโรคอุจจาระร่วงจากเชื้อไวรัสโรต้า ครั้งที่ 3 (Rota3) : หากเด็กได้รับวัคซีน Rotarix มาแล้ว 2 ครั้ง ไม่จำเป็นต้องฉีดโรต้าครั้งที่ 3 และห้ามฉีดวัคซีนโรต้าครั้งสุดท้ายในเด็กที่อายุมากกว่า 32 สัปดาห์
– 9 เดือน ฉีด 1 เข็ม
- วัคซีนรวมป้องกันโรคหัด คางทูม หัดเยอรมัน ครั้งที่ 1 (MMR1)
– 1 ปี ฉีด 1 เข็ม
- วัคซีนป้องกันโรคไข้สมองอักเสบจีชนิดเชื้อเป็นอ่อนฤทธิ์ ครั้งที่ 1 (LAJE1)
– 1 ปี 6 เดือน ฉีด 3 เข็ม
- วัคซีนป้องกันโรคคอตีบ บาดทะยัก ไอกรน ตับอักเสบบี และ ฮิบ ครั้งที่ 4 (DTP-HB-Hib4)
- วัคซีนป้องกันโรคโปลิโอชนิดรับประทาน ครั้งที่ 4 (OPV4)
- วัคซีนรวมป้องกันโรคหัด คางทูม หัดเยอรมัน ครั้งที่ 2 (MMR2)
– 2 ปี 6 เดือน ฉีด 1 เข็ม
- วัคซีนป้องกันโรคไข้สมองอักเสบจีชนิดเชื้อเป็นอ่อนฤทธิ์ ครั้งที่ 2 (LAJE2)
– 4 ปี ฉีด 2 เข็ม
- วัคซีนป้องกันโรคคอตีบ บาดทะยัก ไอกรน ตับอักเสบบี และ ฮิบ ครั้งที่ 5 (DTP-HB-Hib5)
- วัคซีนป้องกันโรคโปลิโอชนิดรับประทาน ครั้งที่ 5 (OPV5)
วัยประถมศึกษาปีที่ 1 – 6
– ประถมศึกษาปีที่ 1 หากไม่ได้รับวัคซีนตามเกณฑ์ ให้ฉีดให้ครบเมื่อถึงวัยประถมศึกษาปีที่ 1 ได้แก่
- วัคซีนรวมป้องกันโรคหัด ป้องกันโรคคางทูม หัด และหัดเยอรมัน (MMR)
- วัคซีนป้องกันโรคตับอักเสบบี (HB)
- วัคซีนป้องกันโรคไข้สมองอักเสบจีชนิดเชื้อเป็นอ่อนฤทธิ์ (LAJE)
- วัคซีนป้องกันโรคโปลิโอชนิดฉีด (IPV)
- วัคซีนรวมป้องกันโรคคอตีบ และบาดทะยัก (dT)
- วัคซีนป้องกันโรคโปลิโอชนิดรับประทาน (OPV)
- วัคซีนป้องกันวัณโรค (BCG) : ให้ฉีดเฉพาะเด็กที่ไม่มีหลักฐานว่าเคยรับวัคซีน หรือไม่มีแผลเป็น แต่ให้ยกเว้นสำหรับเด็กติดเชื้อเอชไอวีที่มีอาการของโรคเอดส์
– ประถมศึกษาปีที่ 5 (นักเรียนหญิง) ควรฉีดขณะที่เด็กมีอายุประมาณ 11-12 ปี โดยให้เว้นระยะห่างอย่างน้อย 6 เดือน
- วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกจากเชื้อเอชพีวี ครั้งที่ 1 (HPV1)
- วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกจากเชื้อเอชพีวี ครั้งที่ 2 (HPV2)
– ประถมศึกษาปีที่ 6
- วัคซีนรวมป้องกันโรคคอตีบ และบาดทะยัก (dT)
อย่าคิดว่าการฉีดวัคซีนไม่สำคัญ เพราะมันจะช่วยป้องกันโรคให้กับเด็กเล็กที่ร่างกายของเขายังไม่แข็งแรง ให้มีภูมิคุ้มกันช่วยต้านเชื้อโรคและไวรัสต่าง ๆ ได้ ดังนั้นตารางการฉีดวัคซีนจึงเป็นสิ่งที่พ่อแม่ควรจดบันทึกและอย่าลืมพาลูก ๆ ไปรับวัคซีนเด็ดขาดนะคะ
หากบ้านไหนไม่มีเวลาดูแลลูก ๆ อย่างเต็มที่ ทาง SAIJAI ก็มีบริการพี่เลี้ยงเด็ก ซึ่งเป็นผู้มีประสบการณ์มาช่วยดูแลลูกน้อยที่คุณรัก ช่วยดูแลอย่างใกล้ชิดในช่วงที่คุณไม่ว่างอีกด้วย รวมไปถึงบริการอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น บริการแม่บ้าน, คนขับรถ, ติวเตอร์, เสริมสวย, คนดูแลผู้สูงอายุ, คนดูแลสัตว์ และ ช่างซ่อมบำรุง เราพร้อมให้บริการคุณผ่านทางแพลตฟอร์มออนไลน์ saijai.io พร้อมดูแลทุกคนในครอบครัวของคุณอย่างรอบด้านและเต็มที่แน่นอน
หากสนใจสามารถเข้าไปสอบถามหรืออ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เพจเฟซบุ๊ก SAIJAI Homecare หรือกดสมัครสมาชิก SAIJAI FAMILY MEMBERSHIP ได้ที่เว็บไซต์ https://pointspot.co/@SAIJAI_Homecare สิทธิพิเศษดี ๆ รอคุณอยู่เพียบ
ทางกระทรวงมีบริการวัคซีนเพื่อเด็ก ทาง SAIJAI ก็ไม่น้อยหน้า เรามีส่วนลดสุดพิเศษมามอบให้คุณแม่เช่นกัน เพียงแอดไลน์ @saijai_care แล้วแจ้งโค้ด SAIJAITHAIGER ในช่องแชต รับไปเลย Voucher มูลค่า 50 บาท สำหรับใช้เป็นส่วนลดค่าบริการเมื่อทำรายการจองบนแพลตฟอร์ม saijai.io เศรษฐกิจยุคนี้ต้องช่วยกัน ให้ใส่ใจร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลคุณและครอบครัวของคุณกันนะคะ
ขอบคุณข้อมูลจาก : ddc.moph.go.th
