หุ้น STARK ลดฮวบ 92% ทำมูลค่าบริษัทหายไปกว่า 2.86 หมื่นล้านบาท
ช็อก! นักลงทุนหนีตาย หุ้น STARK ลดฮวบ 92% หลังกลับมาเปิดให้ซื้อขายในรอบ 3 เดือน ด้าน ตลท. เตือนประชาชนให้ระวังการซื้อขายแล้ว
นักลงทุนแห่เทขายหุ้น STARK ของบริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ทำมูลค่าบริษัทลดฮวบจาก 31,000 ล้านบาท เหลือเพียง 2,400 ล้าน หรือราว -92.44% หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้ถูกพักการซื้อขายไป เพราะไม่ส่งงบการเงินปี 2565 เบื้องต้น ตลท. แจ้งข่าว มีมติเรียกเงินต้นคืน 2.2 พันล้านบาทพร้อมดอกเบี้ย
ย้อนกลับไปเมื่อ 3 เดือนก่อน ได้มีคำสั่งพักการซื้อขายหุ้นที่มีชื่อว่า STARK เนื่องจากทางบริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ไม่ได้ส่งงบการเงินปี 2565 ตามข้อบังคับ โดยในราคาปิดสุดท้ายของหุ้น STARK ค้างอยู่ที่ 2.38 บาทต่อหุ้น
กระทั่งล่าสุดในช่วงเช้าของวันที่ 1 มิถุนายน 2566 ได้มีการเปิดให้ซื้อขายหุ้นอีกครั้ง พบว่าภายในช่วง 5 นาทีแรกหลังการเปิดตลาดซื้อขาย หุ้น STARK ได้มีการซื้อขายสูงกว่า 300 ล้านบาท ซึ่งแปลได้ว่ามีการซื้อและขายหุ้นมากถึง 10% จากจำนวนหุ้นทั้งหมดที่มีอยู่
ทั้งนี้ในการซื้อขายช่วงเช้านี้ ได้มีการเทขายอย่างต่อเนื่อง จนดันราคาให้ตกลงไปที่ 0.26 บาทต่อหุ้น หรือราว -89% กระทั่งปิดตลาดช่วงเช้าไปที่ 0.18 บาทต่อหุ้น ซึ่งลดลงจากเมื่อ 3 เดือนก่อนถึง 92.44% เลยทีเดียว
ทำให้ในปัจจุบันมูลค่าของบริษัท STARK ลดลงจาก 31,000 ล้านบาท เหลือเพียง 2,400 ล้านบาท หรือราว 1 ใน 10 ของมูลค่าเดิม ด้านตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้เปิดเผยว่ามีมติเรียกคืนเงินต้นกว่า 2.2 พันล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย และระบุอีกว่า การผิดนัดชำระหุ้นกู้ครั้งนี้ ทำให้หุ้นกู้อีก 3 ชุดที่เหลือ ซึ่งประกอบไปด้วย STARK245A STARK255A และ STARK242A มูลค่า 5.6 พันล้านบาท ได้ผิดนัดชำระไปเช่นกัน พร้อมเตือนนักลงทุนให้ระวังการซื้อขายหุ้นในตอนนี้.