ประธานสภาไม่ต้องมาจากพรรคอันดับ 1 ดร.หญิง ลิณธิภรณ์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ชี้เหมาะสมทุกมิติ มองอย่างเป็นมิตร พรรคเพื่อไทยถอยจนสุดแล้ว
เมื่อวันที่ 25 พ.ค.2566 ที่ผ่านมา ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รองเลขาธิการฯ และรักษาการโฆษกพรรคเพื่อไทย ออกมาเคลื่อนไหวถึงประเด็นผู้ที่จะมาดำรงตแหน่งประธานสภาสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร โดยทวิตข้อความระบุว่า
“#ประธานสภา #พรรคเพื่อไทย หากเคารพในหลักการ ประชาธิปไตยกันอย่างแท้จริง เมื่อมีความคิดเห็นไม่ตรงกัน ก็ต้องเข้าไปตัดสินด้วยการโหวตในสภาและเคารพเสียงข้างมากนะคะ
- เพื่อไทยให้เกียรติ พรรคแกนนำมาตลอด ตั้งแต่วันนี้รู้ว่าพรรคเพื่อไทยไม่ได้เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล พรรคเพื่อไทยแสดงสปิริตทางการเมืองทันที ยินดีกับพรรคอันดับ 1 และพร้อมร่วมมือไม่มีการจัดตั้งรัฐบาลแข่งถึงคะแนนจะห่างกันเพียง 10 ที่นั่ง นั่นคือความจริงใจ
- เรื่องบางเรื่องทำไม ไม่นำมาหารือกันในวงประชุมก่อนของทุกพรรคร่วม การประกาศผ่านสื่อ และสร้างความกดดันยิ่งทำให้เกิดความขัดแย้ง
- ตำแหน่งประธานสภา เป็นเรื่องของการคุมเกมส์ในสภา แม่นหลักการและกฎหมายให้เกียรติผู้อื่น และผู้อื่นให้ความเกรงใจ ต้องมีวัยวุฒิ คุณวุฒิ วุฒิภาวะ เพราะในอดีตก็เคยเกิดเหตุวุ่นวายในสภาตอนปี 56 มาแล้วถ้ายังจำกันได้ และตรงนี้ ตำแหน่งประธานสภาบุคคลกรของพรรคเพื่อไทยมีความเหมาะสมในทุกมิติ
- ถ้ามองกันแบบมิตรจริงๆและเชื่อใจกัน ประมุขฝ่ายบริหารเป็นของพรรคแกนนำอันดับ 1 และ ประมุขฝ่ายนิติบัญญัติเป็นของพรรคร่วม ก็ไม่น่ามีความกังวลใจใดถ้ามองอย่างมิตร ยกเว้นว่าคุณไม่เคยมองเราเป็นมิตร
- สุดท้ายหากมีการจัดสรร รมต.ในอนคต ต้องเป็นไปตามความรู้ ความสามารถ ทีมงาน และความถนัดของแต่ละพรรค และเกิดจากการประชุมและตกลงร่วมกัน
การยอมเสียสละก็เพื่อรักษาไว้ซึ่งบางสิ่ง อย่ามองว่าเสียสละกว่าใคร พรรคเพื่อไทยก็ถอยจนสุดแล้วเช่นกัน”
- สรุปดราม่า ประธานสภา ก้าวไกล VS เพื่อไทย
- ประธานสภา มีหน้าที่สำคัญอะไรบ้าง : เลือกตั้ง 2566
- ศิริกัญญา ย้ำ ประธานสภา ต้องเป็นของก้าวไกล.
