ข่าวเศรษฐกิจ

ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ ดิ่งแรง 1,500 จุด ก่อนพลิกนรก ปิดตัวบวก 0.15%

ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ ดีชดีดิ่งแรง 1,500 จุด ถือเป็นครั้งในสองปีก ก่อนที่จะมีการพลิกนรก และปิดตัวเช้าในช่วงบ่ายด้วยการบวก 0.15

ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ ดัชนีดิ่งหลุด 1,500 จุด ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปี ก่อนจะมีแรงซื้อขายกลับมาในช่วงสาย ดันดัชนีพลิกบวก 0.15% มูลค่าซื้อขาย 31,594 ล้านบาท ท่ามกลางความกังวลต่างชาติถล่มขาย และนักลงทุนจับตาการจัดตั้งรัฐบาลใหม่

ขณะที่ตลาดหุ้นไทย หรือ SET เช้านี้เปิดตลาดร่วงแรงมากถึง 23.77 จุด แตะระดับต่ำสุด 1,491.12 จุด ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปี ก่อนจะมีแรงซื้อกลับมาช่วงสาย จนกระทั่งปิดตลาดภาคเช้าอยู่ในแดนบวกที่ 1,517.17 จุด หรือ เพิ่มขึ้น 0.15% มูลค่าซื้อขายรวม 31,594 ล้านบาท

ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นไทย อยู่ในความผันผวนทิศทางขาลง หลังจากที่พรรคก้าวไกลชนะการเลือกตั้ง และยังได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลแบบเหนือความคาดหมาย ส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติเทขายหุ้นไทย

นายวทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บล.พาย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยต้นภาคเช้าร่วงลงแรงสวนทางตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย เนื่องจากนักลงทุนยังคงกังวลการจัดตั้งรัฐบาลที่พรรคก้าวไกลในฐานะแกนนำรวมเสียงได้ 313 เสียง ยังขาดอีก 63 เสียงจึงจะสอบผ่าน 376 เสียงตั้งนายกรัฐมนตรี

ประกอบกับนโยบายของพรรคก้าวไกลที่หาเสียงไว้มุ่งเน้นขจัดทุนใหญ่ผูกขาดและให้สวัสดิการประชาชน เช่น ขวัญแรกเกิด 3,000 บาท, เรียนฟรี อาหารฟรี มีรถรับส่ง, ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 450 บาท, ช่วย SME 6 เดือนแรก แหล่งรายได้ของรัฐบาลคาดว่าจะมาจากการเก็บภาษีกลุ่มทุนขนาดใหญ่ ทำให้มีความกังวลว่าจะกระทบกับค่าใช้จ่ายของบริษัทจดทะเบียน

อย่างไรก็ตาม เมื่อ SET ปรับตัวลงมาต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อนไปค่อนข้างมากแล้ว นักลงทุนบางส่วนมองเป็นจังหวะน่าเข้าสะสม จาก Valuation มาอยู่ในระดับที่เริ่มน่าสนใจ ทำให้มีแรงซื้อกลับผลักดัน SET พลิกกลับมาอยู่ในแดนบวกได้

แนวโน้มการลงทุนช่วงบ่าย คาดตลาดยังแกว่งในกรอบ ให้แนวรับไว้ที่ 1,505 จุด และแนวต้าน 1,525 จุด

Nateetorn S.

ผู้สื่อข่าว ทำงานกับ Thaiger มาตั้งแต่ปี 2020 จบการศึกษาจากคณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสคร์ เคยทำงานกับสถานีโทรทัศน์อันดับ 1 ของประเทศ ทำให้มประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ เจาะประเด็นข่าวการเมืองอาชญากรรม ข่าวแปลกๆ เรื่องน่าสนใจจากต่างประเทศ ช่องทางติดต่อ tee@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button