ข่าวภูมิภาค

ไม่รอด รวบหนุ่มภูเก็ต ร่วมกับพี่เขยก่อเหตุขโมยโทรศัพท์มือถือ

เมื่อเวลา 12.30 น. วันนี้ (18เม.ย.) ที่ห้องสืบสวน ชั้น 3 สภ.เมืองภูเก็ต พล.ต.ต.ธีระพล ทิพย์เจริญ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พร้อมด้วย พ.ต.อ.สมพงษ์ ทิพย์อาภากุล ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต พ.ต.ท.รุ่งฤทธิ์ รัตนภักดี รองผกก.สภ.เมืองภูเก็ต พ.ต.ท.ปองภพ ประสบพิชัย รองผกก.จร.สภ.เมืองภูเก็ต พ.ต.ท.ปฏิพัทธ์ ถาวรประพัฒน์ สว.สส.สภ.เมืองภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองภูเก็ต ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาที่ร่วมกันลักทรัพย์โทรศัพท์มือถือภายในร้านโทรศัพท์มือถือชื่อ NO.1 เลขที่ 68/297 ซอยเคหะรัษฎา ม.7 ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 10 เม.ย.61 ที่ผ่านมา ได้โทรศัพท์มือถือกว่า 60 เครื่อง คือ นายโชคอนันต์ ชัยสงคราม อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2/42 ถ.ศรีสุทัศน์ ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต พร้อมด้วยของกลาง โทรศัพท์มือถือทั้งเครื่องใหม่และเครื่องเก่า ประมาณ 31 เครื่อง บัตรเติมอีก 12 ใบ และอุปกรณ์อื่นๆ อีกจำนวนหนึ่ง โดยสามารถจับกุมได้ที่บริเวณ บ้านเลขที่ 2/42 ถ.ศรีสุทัศน์ ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต

พล.ต.ต.ธีระพล ทิพย์เจริญ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต กล่าวถึงการจับกุมว่า เมื่อวันที่ 10 เม.ย.61 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองภูเก็ต ได้รับแจ้งจาก นายจันทร์คำ มิตรสามารถ เจ้าของร้านโทรศัพท์มือถือ “นัมเบอร์วัน” ว่า มีคนร้ายเข้าไปลักทรัพย์โทรศัพท์มือถือ ไปประมาณ 60 -70 เครื่อง ทั้งเป็นเครื่องใหม่และเครื่องที่ลูกค้านำมาจำนำไว้ และจากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบว่าคนร้ายได้เข้ามาทางฝ้าหลังคา ก่อนเข้ามาถอดเซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิดไปแต่ยังมีวงจรปิดอีกชุดสามารถบันทึกภาพไว้ได้ พบว่า คนร้ายได้เข้ามาลักทรัพย์ในเวลาประมาณ 01.39 น.ของวันที่ 10 เม.ย.61 ซึ่งคนร้ายทั้งสองคนได้สวมหมวกไหมพรหมปกปิดใบหน้า สวมถุงมือ เมื่อลักทรัพย์เสร็จก็ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปทางถนนอนุภาษภูเก็ตการ

ซึ่งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตลอดเส้นทางคนร้ายหลบหนี จนกระทั่งเมื่อวันที่ 17 เม.ย.61 ได้รับแจ้งจากสายลับว่า ผู้ต้องสงสัย นายโชคอนันต์ ชัยสงคราม โดยพักอาศัยอยู่ในบริเวณใกล้เคียงที่เกิดเหตุ จากนั้นในช่วงเช้าของวันนี้ (18เม.ย.) ชุดสืบสวนเข้าตรวจสอบที่บ้านพักหลังดังกล่าว และพบตัว นายโชคอนันต์ และของกลางโทรศัพท์มือถือ 19 เครื่อง และเอกสารสัญญาขายฝากของร้าน 3 ร้าน รวม 6 ใบ จึงนำตัวมาสอบสวนที่สภ.เมืองภูเก็ต

จากการสอบสวน นายโชคอนันต์ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุมี นายเล่ง เพิ่มทอง ซึ่งเป็นพี่เขย เป็นผู้ชักชวนให้ก่อเหตุอยู่ระหว่างหลบหนี โดยนายเล่ง ได้นำรถยนต์ไปเข้าไฟแนนซ์ และต้องการนำเงินมาไถ่ถอน จึงชักชวนให้ก่อเหตุในครั้งนี้ ซึ่งนายโชคอนันต์ ระบุว่า เพิ่งทำเป็นครั้งแรก

อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันลักทรัพย์ในเคหะสถานในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ หรือโดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นเข้าไปด้วยประการใดๆ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด หรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับ และนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button