เงินกลุ่มเปราะบาง กุมภาพันธ์ 2566 โอนเข้าบัญชี 3 กลุ่ม เช็กกำหนดการที่นี่
เช็กปฏิทินโครงการัฐบาล “เงินเยียวยากลุ่มเปราะบางกุมภาพันธ์ 2566” เริ่มโอนเข้าบัญชีวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2566 ตรวจสอบรายละเอียดเงินเยียวยา อุดหนุนบุตร เบี้ยความพิการ และเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ มีเงื่อนไขอะไรบ้าง
อัปเดตความคืบหน้า “เงินเยียวยากลุ่มเปราะบางประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2566″ ทั้งหมด 3 กลุ่ม โอนเข้าบัญชีในวันศุกร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2566 ได้แก่เงินอุดหนุ่นบุตร จำนวน 600 บาท เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ จำนวน 600 , 700 , 800 , 1,000 บาท และเบี้ยความพิการ จำนวน 800 และ 1,000 บาท พร้อมตรวจสอบเงื่อนไขการโอนเงินเยียวยาเข้าบัญชีกลุ่มเปราะบาง ต้องมีคุณสมบัติอย่างไร ได้รับเงินจำนวนเท่าไหร่บ้าง สามารถเช็กรายละเอียดได้เลยที่นี่
เงินเยียวยาเงินอุดหนุนบุตร
กลุ่มเปราะบางรับเงินอุดหนุนบุตร จำนวน 600 บาทต่อเดือน สำหรับผู้ที่มีรายได้เฉลี่ยต่อครอบครัวไม่เกิน 1 แสนบาทต่อปีและมีลูกในวัยแรกเกิดไปจนถึงอายุ 6 ขวบ สามารถลงทะเบียนได้ตามพิกัดดังต่อไปนี้
- สำนักงานเขตกรุงเทพมหานคร
- ศาลาว่าการเมืองพัทยา
- องค์กรบริหารส่วนตำบล หรือเทศบาล
เงื่อนไขเด็กแรกเกิดรับสิทธิเงินอุดหนุนบุตร
- เป็นเด็กแรกเกิดจนถึงอายุครบ 6 ปี
- เด็กแรกเกิดต้องอาศัยอยู่กับผู้ปกครองที่อยู่ในครัวเรือนที่มีรายได้น้อย
- ไม่อยู่ในสถานสงเคราะห์ของหน่วยงานของรัฐหรือเอกชน
เงื่อนไขผู้ปกครองรับเงินอุดหนุนบุตร
- เป็นบิดา-มารดาหรือบุคคลอื่นที่เป็นผู้เลี้ยงดูเด็กแรกเกิด
- เด็กแรกเกิดต้องอาศัยรวมอยู่ด้วย
- สมาชิกในครัวเรือนมีรายได้เฉลี่ยไม่เกิน 100,000 บาทต่อคนต่อปี
- ผู้ปกครองรับเงินผ่านบัญชีที่ผูกบริการพร้อมเพย์ด้วยเลขบัตรประจำตัวประชาชน
วิธีตรวจสอบสถานะผู้รับสิทธิเงินอุดหนุนบุตร
- ผ่านเว็บลิงค์ เว็บไซต์กรมกิจการเด็กและเยาวชน
- ผ่านแอปพลิเคชัน “เงินเด็ก” ได้ที่ AppStore และ PlayStore
ขั้นตอนตรวจสอบ เช็คเงินอุดหนุนบุตร 2565
- เข้าไปที่แอปพลิเคชัน “เงินเด็ก”
- ระบุเลขประจำตัวประชาชนผู้ลงทะเบียน
- ระบุเลขประจำตัวประชาชนเด็กแรกเกิด
- ระบุรหัสยืนยันรูปภาพ
- กดค้นหาข้อมูล
เบี้ยความพิการสำหรับผู้พิการ
ในกรณีของผู้พิการที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี จะได้รับเบี้ยความพิการ 1,000 บาทต่อเดือน ส่วนผู้พิการที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ได้รับเบี้ยความพิการเดือนละ 800 บาท
คุณสมบัติผู้ได้รับเงินผู้พิการ
- มีสัญชาติไทยและมีภูมิลำเนาอยู่ตามทะเบียนบ้าน
- มีบัตรประจำตัวผู้พิการ
- ไม่เป็นบุคคลซึ่งอยู่ในความอุปการะของสถานสงเคราะห์ของรัฐหรือ สถานสงเคราะห์ของเอกชนที่ได้รับเงินอุดหนุนส่วนใหญ่ของรัฐ หรือ ถูกขังในเรือนจำตามหมายจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก และให้ความหมายรวมถึงบุคคลซึ่งถูกขังไว้ตามคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมายให้ลงโทษด้วย
ทั้งนี้ ผู้พิการอายุ 18 ปีขึ้นไป รับเบี้ยความพิการ จำนวน 800 บาท ส่วนผู้พิการอายุต่ำกว่า 18 ปี รับเบี้ยความพิการ จำนวน 1,000 บาท เงินผู้พิการยังได้เพิ่มเติมอีกก้อนจากบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โอนเงินเข้าทุกวันที่ 22 ของเดือน 200 บาทต่อเดือน ถอนเป็นเงินสดได้ สะสมในเดือนถัดไปได้
การลงทะเบียนคนพิการ 2566
คนพิการทุกคนที่ไม่เคยขึ้นทะเบียนและรับเงินเบี้ยความพิการมาก่อน มีสิทธิ์ลงทะเบียนขอรับ “เบี้ยความพิการ” ที่สำนักงานเขตที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน ส่วนต่างจังหวัดยื่นเรื่องได้ที่สำนักงานเทศบาล หรือองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.)
กลุ่มเปราะบางรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ
สุดท้ายคือกลุ่มเปราะบางรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุสูงสุด ที่มีอายุตั้งแต่ 60 จนถึงผู้ที่มีอายุเกิน 90 ปี แบ่งตามเกณฑ์ออกทั้งหมด 4 กลุ่มใหญ่ ได้แก่
- อายุ 60 -69 ปี รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 600 บาทต่อเดือน
- อายุ 70 -79 ปี รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 700 บาทต่อเดือน
- อายุ 80 -89 ปี รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 800 บาทต่อเดือน
- อายุ 90 ปีขึ้นไป รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 1,000 บาทต่อเดือน
หลักฐานลงทะเบียนรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ
1. บัตรประจำตัวประชาชน หรือบัตรอื่นที่ออกโดยหน่วยงานของรัฐที่มีรูปถ่าย
2. ทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้าน
3. สมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร ประเภทออมทรัพย์
4. หนังสือมอบอำนาจ และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้มอบอำนาจและผู้รับมอบอำนาจพร้อมรับรองสำเนา (ในกรณีผู้สูงอายุไม่สามารถมาลงทะเบียนได้ด้วยตนเอง)
เงื่อนไขการรับสิทธิเบี้ยผู้สูงอายุ
- มีสัญชาติไทย และมีภูมิลำเนาอยู่ในเขตองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตามทะเบียนบ้าน
- มีอายุ 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ที่ยังไม่เคยลงทะเบียนรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ หรือถ้าเคยลงทะเบียนมาก่อนแต่ย้ายภูมิลำเนาใหม่ จะต้องมาลงทะเบียนใหม่ที่สำนักงานเขตตามทะเบียนบ้านใหม่
- ผู้สูงอายุที่มีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ในปีงบประมาณ พ.ศ.2567 (เกิดก่อนวันที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2507)
- ไม่เป็นผู้ได้รับสวัสดิการหรือสิทธิประโยชน์อื่นใดจากหน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้แก่ ผู้รับบำนาญ เบี้ยหวัด บำนาญพิเศษ หรือเงินอื่นใดในลักษณะเดียวกัน ผู้สูงอายุที่อยู่ในสถานสงเคราะห์ของรัฐหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้ที่ได้รับเงินเดือน ค่าตอบแทน รายได้ประจำ หรือผลประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นที่รัฐ หรือ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดให้เป็นประจำ ยกเว้นผู้พิการและผู้ป่วยเอดส์ ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยและระเบียบกรุงเทพมหานคร
อย่างไรก็ตาม ประชาชนสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับเงินเยียวยากลุ่มเปราะบางไม่ว่าจะเป็นเงินอุดหนุนบุตร เบียยังชีพผู้สูงอายุ และเบี้ยความพิการ ผ่านหน่วยงานภาครัฐตามข้อมูลการติดต่อที่ให้ไว้ได้เลยครับ
เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ – ติดต่อได้ที่เบอร์โทร 0 2642 4336-9 หรือกรมกิจการผู้สูงอายุ อาคารมหานครยิบซั่ม ชั้น 20 โซน B
เงินอุดหนุนบุตร – สามารถโทร. 0 2651 6534, 0 2651 6902, 0 2651 6920 หรือ 0 2255 5850-7 ต่อ 121, 122, 123, 133, 147, 152, 231 หรือเดินทางไปยังกรมกิจการเด็กและเยาวชน ศูนย์ปฏิบัติการโครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด (ศดร.)
เบี้ยความพิการ – สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ เลขที่ 255 อาคาร 60 ปี กรมประชาสงเคราะห์ หรือโทรศัพท์ 1479 หรือ โทร. 0 2354 3388 ต่อ 311 หรือ 313
นอกจากนี้ยังสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเงินเยียวยากลุ่มเปราะบางทั้ง 3 กลุ่มผ่านเบอร์โทรสายด่วน พม. 1300 ได้ตลอดทั้งวันครับ