Thaiger Deals

เหงือกร่น รักษา ยังไงให้กลับมายิ้มได้อีกครั้ง

โรคเหงือกเป็นปัญหาใกล้ตัวที่คุณอาจมองข้าม โดยเฉพาะปัญหาเหงือกร่นที่กว่าจะรู้ตัวก็เกือบสูญเสียฟัน วันนี้เราเลยจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับภาวะเหงือกร่น มาดูกันว่า เหงือกร่น รักษา ยังไง รวมถึงเคล็ดลับป้องกันการเกิดภาวะเหงือกร่น เพราะเราอยากให้ทุกคนมีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดี จะได้มีรอยยิ้มที่สวยสดใสกันทุกคนค่า

เหงือกร่นป้องกันได้ รีบพบทันตแพทย์หาสาเหตุและปรับเปลี่ยนพฤติกรรม

เหงือกร่นคืออะไร?

เหงือกร่น หรือ Gingival Recession คือการที่เนื้อเยื่อเหงือกรอบฟันอ่อนแอลง โดยเกิดขึ้นได้หลายสาเหตุ เช่น การนอนกัดฟัน การสูบบุหรี่จัด การแปรงฟันไม่ถูกวิธี รวมถึงปัญหาทางพันธุธรรม ซึ่งภาวะเหงือกร่นจะทำให้เกิดการเสียวฟัน แบคทีเรียเข้าไปสะสมในช่องว่างระหว่างเหงือกและฟัน ส่งผลให้เกิดฟันผุได้ และหากปล่อยทิ้งไว้ก็อาจทำให้สูญเสียฟันได้ในอนาคตค่ะ

หากใครสงสัยว่าตัวเองมีภาวะเหงือกร่นรึเปล่า ลองสังเกตได้จากอาการต่อไปนี้ค่ะ

  • เหงือกหดตัว
  • มีกลิ่นปาก
  • ฟันโยก
  • มีเลือดออกหลังแปรงฟัน
  • มีอาการเสียวฟัน
  • เหงือกบวมแดง
  • ปวดบริเวณเหงือก

หากมีอาการดังกล่าว แสดงว่าเหงือกของคุณเริ่มส่งสัญญาณและต้องการการรักษา อย่าปล่อยทิ้งไว้เพราะจะทำให้เกิดผลเสียตามมาได้ค่ะ

 

เหงือกร่น รักษา

สาเหตุของอาการเหงือกร่น?

สาเหตุของอาการเหงือกร่นเกิดขึ้นได้จากหลายกรณี ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาอื่น ๆ ตามมาจนกลายเป็นเหตุที่ทำให้สูญเสียฟันได้ โดยสาเหตุของการเกิดของภาวะเหงือกร่นมีดังต่อไปนี้

  • โรคปริทันต์อักเสบ หรือเหงือกอักเสบ ทำให้กระดูกรอบรากฟันถูกทำลายจึงส่งผลให้เหงือกร่นตามไปด้วย
  • ใส่อุปกรณ์จัดฟันที่แน่นเกินไป หรือไม่เข้ากับรูปฟัน ซึ่งอาจทำให้เหงือกอ่อนแอและเหงือกร่นลงได้
  • สูบบุหรี่จัด ทำให้คราบพลัคก่อตัวเกิดเป็นหินปูนเกาะบนเนื้อฟันจนทำให้เหงือกร่น
  • แปรงฟันผิดวิธี หรือแปรงแรง ๆ ใช้แปรงสีฟันที่มีขนแปรงแข็งมากเกินไปทำให้เหงือกเสียหายและเกิดภาวะเหงือกร่น
  • เหงือกได้รับบาดเจ็บ เช่น อุบัติเหตุจากการเล่นกีฬา อุบัติเหตุรุนแรงที่ส่งผลกระทบกับเหงือกและฟัน ซึ่งอาจทำให้เนื้อเยื่อเหงือกตายและร่นเข้าไปที่รากฟัน
  • ฮอร์โมนมีการเปลี่ยนแปลง เช่น ในกลุ่มสตรีมีครรภ์ ผู้ที่อยู่ในวัยหมดประจำเดือน หรือผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับฮอร์โมน ซึ่งทำให้เหงือกอ่อนแอและง่ายต่อการอักเสบ
  • พันธุกรรมที่ถ่ายทอดมาจากทางครอบครัว หากในเครือญาติมีผู้ป่วยปัญหาโรคเหงือกก็อาจมีความเสี่ยง
  • การนอนกัดฟัน เคี้ยวฟัน ขณะนอนหลับ ซึ่งส่งผลทำให้เหงือกอ่อนแอลงจนร่นลงไปที่โคนฟันได้

เหงือกร่นแก้ยังไง?

เหงือกร่น รักษา ยังไง อันดับแรกก็ต้องวิเคราะห์ถึงสาเหตุก่อนว่าเกิดจากปัญหาอะไร จะได้แก้ไขอย่างถูกต้อง ทั้งนี้เหงือกที่ร่นไปแล้วจะไม่สามารถฟื้นฟูกลับมาได้อีก สิ่งที่ทำได้คือต้องพบทันตแพทย์เพื่อหาแนวทางในการรักษา เพื่อป้องกันไม่ให้เหงือกร่นมากกว่าเดิม

ทั้งนี้ทันตแพทย์จะแนะนำวิธีการรักษาเหงือกร่นให้ตรงกับปัญหาที่เกิดขึ้นกับผู้ป่วยรายบุคคลดังต่อไปนี้

  • หากมีปัญหาเหงือกร่นในระยะเริ่มต้น ทันตแพทย์จะให้ทำความสะอาดช่องปากและฟันด้วยการขูดหินปูน หรือเกลารากฟัน เพื่อลดโอกาสติดเชื้อจากแบคทีเรีย พร้อมทั้งแนะนำวิธีการดูแลสุขภาพช่องปากและฟันอย่างถูกต้อง เพื่อไม่ให้ปัญหาเหงือกร่นกลับมาเป็นซ้ำอีก
  • หากมีปัญหาเหงือกร่นในระยะรุนแรง มีอาการเสียวฟัน ส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันตามปกติ ทันตแพทย์อาจแนะนำให้ปลูกถ่ายเหงือก ซึ่งจะเป็นการผ่าตัดนำเนื้อเยื่อบริเวณเพดานปากไปปลูกถ่ายทดแทนเหงือกในบริเวณที่ต้องการ ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง

เหงือกร่นรักษากี่บาท

ค่าใช้จ่ายในการรักษาเหงือกร่น หากเป็นระยะเริ่มต้นจะอยู่ที่ 900 – 7,000 บาท ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการ โดยส่วนมากจะเป็นการขูดหินปูน ทำความสะอาดช่องปาก แต่หากมีปัญหาอื่น ๆ ร่วมด้วยก็อาจมีค่าใช้จ่ายสูงขึ้น ขึ้นอยู่กับการประเมินของทันตแพทย์

แต่หากเป็นการปลูกถ่ายเหงือก จะมีราคาเริ่มต้น 5,000 บาท ขึ้นไป ต่อฟันหนึ่งซี่หรือหนึ่งบริเวณ ซึ่งถือว่าค่อนข้างแพง ดังนั้นเริ่มต้นดูแลรักษาช่องปากและฟันตั้งแต่ตอนนี้ จะได้ไม่เสียค่าใช้จ่ายมากเกินความจำเป็นนะคะ

 

ป้องกันเหงือกร่นด้วยวิธีง่าย ๆ ก่อนจะเสียค่ารักษาแพง ๆ

เหงือกร่นสามารถป้องกันได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น

  • พบทันตแพทย์ปีละ 2 ครั้ง หรือทุก ๆ หกเดือนเพื่อขูดหินปูนทำความสะอาดช่องปาก
  • แปรงฟันให้สะอาดอย่างถูกวิธี เลือกใช้แปรงสีฟันที่มีขนอ่อนนุ่ม และใช้ไหมขัดฟันทำความสะอาดซอกฟันเป็นประจำ
  • งดสูบบุหรี่ เพราะอย่างที่เราได้บอกไปว่าการสูบบุหรี่จะทำให้เกิดคราบพลัคสะสม ทำให้เกิดปัญหาเหงือกร่น การงดสูบบุหรี่จึงเป็นการช่วยลดความเสี่ยงลงได้ นอกจากนี้การงดสูบบุหรี่ยังช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งปอดได้อีกด้วย

นอกจากนั้นแล้ว การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ก็ยังช่วยส่งเสริมให้สุขภาพเหงือกและฟันแข็งแรงขึ้น เช่น อาหารที่มีแคลเซียมและฟอสฟอรัสอย่างอาหารทะเล ไข่ นม เต้าหู้ งา ผักใบเขียว หรืออาหารจำพวกแป้งอย่างเช่น ธัญพืชไม่ขัดสี ขนมปังโฮลวีท ผักและผลไม้ เพื่อช่วยลดการเกิดฟันผุและคราบหินปูน และควรดื่มน้ำมาก ๆ ตามปริมาณที่ร่างกายต้องการในแต่ละวันเพื่อช่วยลดการสะสมของแบคทีเรียในช่องปากด้วยค่ะ

และสำหรับใครที่อยากพบทันตแพทย์เพื่อขูดหินปูนหรือตรวจสภาพฟัน ก็สามารถเข้าไปเช็กดีลได้จากเว็บไซต์ Thaiger Deals เว็บไซต์ที่รวบรวมดีลเสริมความงามและทันตกรรมจากคลินิกและโรงพยาบาลชั้นนำทั่วประเทศมาไว้ในที่เดียว รับรองว่าราคาย่อมเยากว่าที่อื่นแน่นอนค่า

 


 

อ่านบทความอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button