ไลฟ์สไตล์

วันคนพิการแห่งชาติ 12 พ.ย. 65 ตระหนักคุณค่าผู้พิการ เช็กสิทธิคนพิการมีอะไรบ้าง

ทำความรู้จัก “วันคนพิการแห่งชาติ” จัดขึ้นทุกวันเสาร์ในสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนพฤศจิกายน ปีนี้ตรงกับวันที่ 12 พฤศจิกายน 2565 เพื่อให้ความสำคัญ ช่วยเหลือ และทำการสนับสนุน ผู้พิการไทยให้มีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น พร้อมตระหนักถึงคุณค่าศักดิ์ศรีของผู้พิการไทย และสิทธิประโยชน์ที่ผู้พิการควรได้รับตาม มาตรา 20

วันคนพิการแห่งชาติปีนี้ตรงกับวันเสาร์ที่ 12 พฤศจิกายน 2565 (หรืออาจจัดงานในวันจันทร์ที่ 14 พฤศจิกายน 2565) มักจะจัดขึ้นในวันเสาร์สัปดาห์ที่ 2 เดือนพฤศจิกายนของทุกปี กำหนดโดยสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อเปิดโอกาสให้คนพิการได้พบปะ สังสรรค์ แสดงความ สามารถในด้านต่างๆ และเรียนรู้วิทยาการใหม่ๆ เกี่ยวกับการบำบัด รักษา การป้องกันและฟื้นฟู สมรรถภาพ รวมทั้งเพื่อให้คนทั่วไป ได้เห็น ถึงศักยภาพ ศักดิ์ศรีและคุณค่าของคนพิการของคนพิการ

วันผู้พิการแห่งชาติมีสัญลักษณ์ประจำวันคือ “ดอกแก้วกัลยา” คือ ชื่อดอกไม้ชนิดหนึ่งซึ่งสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามดอกไม้ประดิษฐ์โดยคนพิการของศูนย์ส่งเสริมอาชีพและพัฒนาคนพิการ ทั้งยั้งทรงพระราชทานพระอนุญาตให้ใช้เป็นดอกไม้สัญลักษณ์ของคนพิการ

ทั้งนี้ผู้พิการในประเทศไทยจะได้รับสิทธิประโยชน์ตามมาตรา 20 แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ.2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2556 หรือ ตามกฎหมายอื่นกำหนด ได้แก่

  1. การฟื้นฟูสมรรถภาพโดยกระบวนการทางการแพทย์
  2. การคุ้มครองสิทธิคนพิการทางการศึกษา
  3. การส่งเสริมอาชีพและคุ้มครองการมีงานทำของคนพิการ
  4. การคุ้มครองสิทธิคนพิการทางสังคมและสวัสดิการ
  5. การจัดให้มีสิ่งอำนวยความสะดวก
  6. บริการให้กู้ยืมเงินทุนประกอบอาชีพ
  7. การปรับสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัยสำหรับคนพิการ
  8. การจัดบริการล่ามภาษามือ
  9. การสนับสนุนผู้ช่วยคนพิการ
  10. การลดหย่อนค่าโดยสารขนส่งสาธารณะสำหรับคนพิการ
งานวันคนพิการครั้งที่ 53 ประจำปี 2565 ในวันเสาร์ที่ 19 พฤศจิกายน 2565 ดอกไม้วันผู้พิการ
วันผู้พิการแห่งชาติมีสัญลักษณ์ประจำวันคือ “ดอกแก้วกัลยา”

สำหรับความหมายของ “คนพิการ” ถูกกำหนดนิยาม ตามประกาศกระทรวงการพัฒนา สังคมและความมั่นคงของมนุษย์ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2546 กำหนดไว้ดังนี้ “คนพิการ” หมายความว่า บุคคลซึ่งมีความสามารถถูกจำกัดให้ปฏิบัติกิจกรรมในชีวิตประจำวัน และการมีส่วนร่วมทางสังคมได้โดยวิธีการทั่วไป เนื่องจากมีความบกพร่องทางการมองเห็น การได้ยิน การเคลื่อนไหว การสื่อสาร จิตใจ อารมณ์ พฤติกรรม สติปัญญาและการเรียนรู้และมีความต้องการจำเป็นพิเศษ ด้านต่างๆ เพื่อให้สามารถดำเนินชีวิตและมีส่วนร่วมในสังคมได้อย่างบุคคลทั่วไป ซึ่งแบ่งประเภทผู้พิการในไทยได้ 6 ลักษณะดังนี้

1. พิการทางการมองเห็น

คนที่มีสายตาข้างที่ดีกว่าเมื่อใช้แว่นสายตาธรรมดา แล้วมองเห็นน้อยกว่า 6/18 หรือ 20/70 จนมองไม่เห็นแม้แต่แสงสว่าง หรือมีเลนส์สายตาแคบกว่า 30 องศา

2. พิการทางการได้ยินและสื่อความหมาย

เด็กอายุน้อยกว่า 7 ปี ลักษณะความพิการ คือ หูตึงปานกลาง หูตึงมาก หูตึงรุนแรง หูหนวก ความดังเฉลี่ยเกิน 40 เดซิเบล จนไม่ได้ยิน ระดับความผิดปกติ 2 ถึง 5 เด็กอายุเกิน 7 ปี ถึงผู้ใหญ่ ลักษณะความพิการ คือ ความผิดปกติ หูตึงมาก หูตึงรุนแรง หูหนวก ความดัง 55 เดซิเบลขึ้นไป ระดับความผิดปกติ 2 ถึง 5 การสื่อสาร

3. พิการทางกาย หรือการเคลื่อนไหว

คนที่มีความผิดปกติหรือความบกพร่องของร่างกายเห็นชัดเจน และคนที่สูญเสียความสามารถในการเคลื่อนไหว ทำให้ไม่สามารถประกอบกิจวัตรในชีวิตประจำวันได้

4. พิการทางจิตใจหรือพฤติกรรม

เป็นคนที่มีความผิดปกติ ความบกพร่องทางจิตใจ หรือสมองในส่วนรับรู้ อารมณ์ ความคิด จนไม่สามารถควบคุมพฤติกรรมที่จำเป็นในการดูแลตนเอง หรืออยู่ร่วมกับผู้อื่น

5. พิการทางสติปัญญาหรือการเรียนรู้

ลักษณะพิการ คือ คนที่มีความผิดปกติ หรือความบกพร่องทางสติปัญญาหรือสมอง จนไม่สามารถเรียนรู้ด้วยวิธีการศึกษาปกติได้

6. พิการซ้ำซ้อน

คือมีความพิการมากกว่า 1 ลักษณะขึ้นไป

รายละเอียดความพิการของผู้พิการแต่ละประเภทมีในกฎกระทรวง ฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2537) ออกตามความในพระราชบัญญัติการฟื้นฟูสมรรถภาพคนพิการ พ.ศ. 2534

ประเภทของผู้พิการในไทย 2565

อ้างอิง : 1 2

Thosapol

นักเขียนบทความที่ Thaiger จบการศึกษาจากคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ เชี่ยวชาญเรื่องบทความท่องเที่ยว บันเทิง ไลฟ์สไตล์ ผ่านการค้นหาข้อมูลโดยละเอียดพร้อมด้วยประสบการณ์ตรงของตัวเอง งานอดิเรกมีความสนใจในกระแสข่าวรอบตัวต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านสุขภาพ สังคม การเมือง และที่สำคัญคือเป็นทาสแมวร้อยเปอร์เซ็นต์ครับ ช่องทางติดต่อ thospol@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button