ผู้ชายผู้หญิงไลฟ์สไตล์

คําคม ศิลป์ พีระศรี ตำนานไม่จางหาย สอนใจถึงทุกวันนี้

รวม 9 คําคม ศิลป์ พีระศรี ศิลปินที่สร้างตำนานคำคมไว้สอนใจชาวไทยได้ลึกซึ้งถึงใจ นอกจาก “ศิลปะยืนยาว ชีวิตสั้น” มีอะไรอีกบ้าง

คำคมของ ศิลป์ พีระศรี ได้ตราตรึงใจแก่ชาวไทยจนถึงปัจจุบัน แม้จะผ่านไปหลายทศวรรษแล้วก็ตาม เนื่องในวันพฤหัสบดีที่ 15 กันยายน 2565 เป็นวันคล้ายวันเกิดของศิลป์ พีระศรี เป็นศิลปินที่โดดเด่นศิลปะสมัยใหม่ ผู้สร้างคำคมคอยเตือนใจให้แก่ผู้พบเห็นมาหลายต่อหลายครั้ง

ทีมงานเดอะไทยเกอร์จึงขอร่วมรำลึกถึงคุณงามความดีที่อาจารย์ศิลป์ พีระศรีได้มอบแรงกายแรงใจทุ่มเทให้ศิลปะตลอดชีวิตด้วยคำคมสอนใจเด็ด ๆ ดังนี้

คําคม ศิลป์ พีระศรี
ภาพจาก วิกิพีเดีย

คำคมที่อาจารย์ศิลป์ พีระศรีมอบให้แก่ลูกศิษย์

สำหรับคำคมหรือคำสอนของอาจารย์ศิลป์ พีระศรีที่เคยให้โอวาทแก่ลูกศิษย์ทั้งในรั้วศิลปากรที่ตนเองเป็นผู้ก่อตั้งและมอบคำคมให้เพื่อเตือนใจคนอื่นที่เคยร่วมงานกัน มีดังนี้

1. นายไม่อ่านหนังสือ นายจะรู้อะไร

คำคมที่ศิลป์ พีระศรีสอนแก่ลูกศิษท์นิสัยขี้เกียจ ขณะที่ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรีสอนในรั้วมหาวิทยาลัยศิลปากร มักจะเรียกลูกศิษย์ของเขาทุกคนว่า นาย

คำคมดังกล่าวของอาจารย์ศิลป์ พีระศรีที่มอบให้แก่ลูกศิษย์เรียกได้ว่าบ่งบอกตัวตนและนิสัยของท่านได้ดีเป็นอย่างมาก ถึงแม้ศิลป์ พีระศรีจะเป็นศิลปินที่เชี่ยวชาญศิลปะในศาสตร์ต่าง ๆ แต่ก็ยังไม่ลืมที่จะศึกษาหาความรู้จักหนังสืออีกด้วย

2. อย่าถือว่าเราป็นคนเก่ง ต้องศึกษาเล่าเรียนอีกมาก ฉันเองก็ยังศึกษาหาความรู้อยู่ตลอดเวลา

สำหรับคำคมนี้ของศิลป์ พีระศรีมอบให้แก่ สนิท ดิษรพันธ์ ศิษย์เอกที่จบการศึกษาด้านจิตรกรรมคนเดียวภายในปีนั้น ถือว่าเป็นคำสอนที่แสดงลักษณะนิสัยของศิลป์ พีระศรีในฐานะอาจารย์ศิลปะได้ดีเลยทีเดียว เพราะไม่ต้องการให้ศิษย์ยึดตัวเองเป็นศูนย์กลาง และยังใช้คำพูดที่ถ่อมตัว ใครได้ฟังก็เชื่อว่าจะทำตามคำสอนของศิลป์ พีระศรีได้อย่างแน่นอน

3. ในบรรดาศิลปะด้วยกัน ดนตรีเป็นสิ่งเร้าอารมณ์ความรู้สึกของผู้คนได้มากที่สุด เมื่อเรามีนักดนตรีที่มีความสามารถสูงมาบรรเลงในบ้านเรา เราก็ใคร่จะให้ญาติสนิทมิตรสหายได้มาร่วมเสพสุนทรียรสกับเราด้วย

คำคมนี้เป็นคำพูดของศิลป์ พีระศรีที่กล่าวกับสมเกียรติ หอมเอนก และคนอื่น ๆ ภายในงาน เชื่อว่าใครหลายคนที่ได้อ่านคำคมก็จะรู้สึกไม่เข้าใจในครั้งแรกกันทั้งนั้น

คำคมดังกล่าวของศิลป์ พีระศรีต้องการที่จะสื่อถึง การเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กันระหว่างเพื่อนมนุษย์ เหมือนที่อาจารย์ศิลป์ พีระศรีต้องการให้แขกได้ฟังดนตรีที่ตนเองชอบและคิดว่าดีก็เพื่ออยากจะแบ่งปันสิ่งดี ๆ ให้แก่บุคคลอื่นเท่านั้นเอง เรียกว่าเป็นคำสอนที่เรียบง่ายจริง ๆ

คําคม ศิลป์ พีระศรี
ภาพจาก สำนักวิจัยศิลป์ พีระศรี

4. พวกเธอต้องเรียนรู้ความเป็นมนุษย์ก่อน…แล้วจึงเรียนศิลปะ

ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรีได้กล่าวให้แก่นักเรียนศิลปะ (นักศึกษา) ที่เข้าเรียนมหาวิทยาลัยศิลปากรในวันแรก ถึงแม้ว่าศิลปะจะดูเรียบง่าย แต่แท้จริงยากที่จะเข้าถึงได้อย่างแท้จริง อย่างน้อยจะต้องมีความรู้สึกนึกคิดเหมือนมนุษย์ก่อนจึงจะเข้าใจและสามารถเรียนศิลปะได้

เรียกได้ว่าคำคมของศิลป์ พีระศรีดังกล่าวเป็นสิ่งเตือนใจให้แก่ชาวไทยทุกคนให้ตระหนักถึงคุณค่าของการเป็นมนุษย์ ซึ่งเป็นพื้นฐานที่สำคัญกว่าการเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ในสังคมไทย

5. ทุกคนมีความงาม นายต้องค้นให้พบ…แม้แต่คนที่ขี้ริ้วขี้เหร่ที่สุด ก็อาจจะมีความงามที่แอบซ่อนอยู่ อาจจะเป็นนิ้วมือ นิ้วเท้า หรือฟัน หรือแม้แต่จิตใจที่งดงามก็ตาม นายต้องค้นให้พบ…

คำคมสุดซึ้งกินใจเหมือนหลุดออกมาจากหนังสือคำคมในยุค 2565 เสียอย่างนั้น อาจารย์ศิลป์ พีระศรีได้กล่าวคำคมสอนใจนี้ให้แก่ลูกศิษย์คนหนึ่ง สามารถตีความได้ว่าความงามไม่ได้ขึ้นอยู่กับหน้าตาเพียงเท่านั้น แต่ความสามารถก็เป็นหนึ่งในความงามได้เช่นกัน หรือแม้แต่จิตใจที่งดงาม ซึ่งทุกคนต้องมองให้เห็นถึงคุณค่าเหล่านี้ในตัวเองให้ได้

คำคมสอนใจแก่ชาวไทยของศิลป์ พีระศรี

ถึงแม้ว่าคำคมของศิลป์ พีระศรีส่วนมากจะมอบไว้ในโอกาสต่าง ๆ ที่พูดคุยกับลูกศิษย์ แต่ครั้งหนึ่งเคยพูดคำคมที่เตือนใจให้แก่ชาวไทยในเรื่องคุณค่าของอาชีพชาวนา ดังนี้

6. ชาวนาปลูกข้าวให้เรากิน ทำแผ่นดินให้เป็นประโยชน์ต่อชีวิต ไฉนเล่าเราจึงจะไม่เนรมิตสิ่งซึ่งยกจิตใจให้สูง สมกับที่เราเกิดมาแล้วโดยไม่เปลืองเนื้อที่ของแผ่นดินโลก

คำคมดังกล่าวของศิลป์ พีระศรีนับว่าเป็นการเคลื่อนไหวทางสังคมที่ส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาในด้านเกษตรกรรมของชาวนาได้เลยทีเดียว ความอคติที่มีต่ออาชีพอันเป็นสันหลังของประเทศได้ลดน้อยลงไป ทั้งยังช่วยเพิ่มคุณค่าในตัวเองได้อีกด้วย

คําคม ศิลป์ พีระศรี
ภาพจาก สำนักวิจัยศิลป์ พีระศรี

ศิลป์ พีระศรีกับคำคมระดับตำนานได้ยินจนถึงทุกวันนี้

เดินทางมาถึงส่วนสุดท้ายของคำคมจากอาจารย์ศิลป์ พีระศรีกันแล้ว ซึ่งจะมีทั้งหมด 3 ประโยคด้วยกัน นับว่าเป็นประโยคสุดฮิตที่เคยได้ยินในช่วงเวลาหนึ่งของชาวไทยทุกคนกันอย่างแน่นอน ได้แก่

7. ศิลปะยืนยาว ชีวิตสั้น

ประโยคอมตะสุดคลาสสิกที่เคยได้ยินตามงานเทศกาลศิลปะทั่วประเทศไทย โดยศิลปะยืนยาว ชีวิตสั้นมาจากภาษาละติน Ars Longa vita brevis ต่อมาได้กลายเป็นคำขวัญของมหาวิทยาลัยศิลปากรที่อาจารย์ศิลป์ พีระศรีเป็นผู้ก่อตั้งขึ้น

ความหมายของคำคมดังกล่าวนั้นเรียบง่ายและตรงตัว อยากจะทำอะไรก็ให้รีบทำ เพราะชีวิตนั้นสั้นมาก แต่สิ่งที่ได้ทำไปจะยังคงอยู่ตลอดกาล

8. ศิลปะไม่ได้สอนให้วาดรูปเป็น แต่สอนให้รู้จักการใช้ชีวิต

อาจารย์ศิลป์ พีระศรีเคยสอนว่าศิลปะไม่ใช่แค่การวาดรูป แต่เป็นการรู้จักคิด การมีทัศนคติ และวิสัยทัศน์ที่สามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้ เรียกว่าเป็นการสอนใจให้รู้จักคุณค่าของงานศิลปะมากกว่าการมองว่าเป็นรูปวาดเพียงผิวเผินเท่านั้น

9. พรุ่งนี้ก็สายเสียแล้ว

คำคมเตือนใจของศิลป์ พีระศรี เพราะมีแต่คนที่คิดจะผัดวันประกันพรุ่ง แต่ก็อยากจะได้ดิบได้ดีในความฝันของตนเอง หารู้ไม่ว่ามีอีกหลายร้อยพันคนที่เขาเริ่มลงมือทำความฝันตั้งแต่วันนี้แล้ว

ดังนั้นขอให้ทุกคนรีบทำตามความฝันตั้งแต่วันนี้ ก่อนที่จะต้องอุทานว่า พรุ่งนี้ก็สายเสียแล้ว ตามคำคมของศิลป์ พีระศรี

สุดท้ายนี้ ในวันที่ 15 กันยายน 2565 เชื่อว่า คําคม ศิลป์ พีระศรี ก็ยังคงสะท้อนอยู่ภายในจิตใจของผู้อ่านหลาย ๆ คนอยู่เสมอ และขอให้นำไปปรับใช้กับชีวิตของท่านให้เหมาะสมเหมือนอย่างที่ศิลป์ พีระศรีได้คาดหวังไว้นะครับ.

อ้างอิง : 1 2

คําคมของอาจารย์ศิลป์ พีระศรี
ภาพจาก วิกิคำคม

moo

นักเขียนที่ชื่นชอบสิ่งต่าง ๆ ในสังคมออนไลน์ รวมทั้งหนังสือ ภาพยนตร์ ไลฟ์สไตล์ และแฟชั่น ทั้งที่อยู่ในกระแสหรือนอกกระแส เพื่อนำมาเขียนเรียบเรียงให้ทุกคนได้อ่าน และทำความรู้จักสิ่งเหล่านั้นมากขึ้นผ่านงานเขียนของเรา

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button