การเงินอีเว้นท์

บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด ต่างกันอย่างไร รู้ก่อนใช้ไม่สร้างหนี้

เคลียร์ให้เข้าใจ จะได้ไม่สร้างหนี้เปล่า บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด ต่างกันอย่างไร ตอบทุกข้อสงสัย ข้อดี ข้อเสีย บัตรเครดิตใช้กดเงินสดได้หรือไม่ เลือกปิดใบไหนก่อนดี เผื่อใช้เป็นแนวทางก่อนเริ่มเข้าทีม #คนมีบัตร รู้ไว้ ใช้เป็น รับรองว่าไม่สร้างหนี้ให้ปวดหัวแน่นอน

บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด ต่างกันอย่างไร

Advertisements

บัตรเครดิต คือ บัตรที่เน้นใช้รูดเพื่อชำระค่าสินค้าและบริการต่าง ๆ มีวงเงินที่จำกัด ผู้ใช้บัตรมักจะได้สิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ตามเงื่อนไขของบัตรแต่ละธนาคารเมื่อมีการใช้งาน เช่น ได้รับเครดิตเงินคืน ได้รับส่วนลด แต้มสะสมจากยอดการใช้งาน การผ่อนชำระ ในปัจจุบันสามารถใช้บัตรเครดิตสินค้าและบริการได้หลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นร้านค้า ร้านอาหาร ระบบขนส่งสาธารณะ เป็นต้น

บัตรกดเงินสด คือ บัตรที่เน้นใช้กดและผ่อน เหมือนกับเรานำเงินในอนาคตมาใช้ก่อน เหมาะสำหรับความต้องการใช้เงินในกรณีฉุกเฉิน เช่น ค่ารักษาพยาบาล ค่าเทอม เป็นต้น

บัตรเครดิต กดเงินสดได้ไหม

บัตรเครดิตสามารถกดเงินสดได้ แต่หากไม่จำเป็น แนะนำว่าไม่ควรใช้บัตรเครดิตกดเงินสดเป็นอันขาด เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่คุณใช้บัตรเครดิตกดเงินสดออกมาใช้ คุณต้องเตรียมใจเสียดอกเบี้ยร้อยละ 3 ของจำนวนเงินที่กดออกมา เหมือนเสียเงินเปล่าไปฟรี ๆ จำนวนหนึ่งเลยล่ะค่ะ

บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด ชำระหนี้ขั้นต่ำต่อเดือนได้เท่าไหร่

Advertisements

สำหรับบัตรเครดิต การชำระหนี้ขั้นต่ำจะอยู่ที่ประมาณร้อยละ 10 ของยอดหนี้ที่ค้างชำระ ส่วนบัตรกดเงินสด การชำระขั้นต่ำจะขึ้นอยู่กับวันที่มีการใช้บัตร อยู่ที่ประมาณร้อยละ 3-5

ข้อดี บัตรกดเงินสด

  • สามารถถอนเงินสดได้ทันทีที่ต้องการใช้งาน โดยไม่ต้องมีหลักประกันใด ๆ
  • ไม่เสียค่าธรรมเนียมในการกดเงินสด
  • พิจารณาวงเงินตามฐานเงินเดือน เครดิตที่ผู้ใช้บัตรมี แต่วงเงินจะสูงกว่าบัตรเครดิต
  • เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการใช้เงินสดแบบฉุกเฉิน
  • เลือกผ่อนชำระขั้นต่ำตามที่แต่ละธนาคารกำหนดได้
  • ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมในการรักษาบัตร แม้ว่าไม่มีการใช้งานบัตรเลยก็ตาม

ข้อเสีย บัตรกดเงินสด

  • ดอกเบี้ยค่อนข้างสูง สูงสุดไม่เกินร้อยละ 28 ต่อปี
  • เหมาะสำหรับผู้ที่มีวินัยในการชำระหนี้
  • ไม่สามารถใช้จ่ายผ่านบัตรได้ทันที ต้องไปกดเงินสดออกจากตู้มาก่อน

ข้อดี บัตรเครดิต

  • ดอกเบี้ยถูกกว่าบัตรกดเงินสด
  • หากชำระเงินในเวลาที่กำหนด จะไม่เสียดอกเบี้ย
  • เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการพกเงินสดจำนวนมาก

ข้อเสีย บัตรเครดิต

  • วงเงินจำกัด ตามฐานเงินเดือน เครดิตที่ผู้ใช้บัตรมี
  • หากชำระหลังเวลาที่กำหนด จะเสียดอกเบี้ยไม่เกินร้อยละ 20 ต่อปี
  • เสียค่าธรรมเนียมในการกดเงินสด

บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด ปิดหนี้ก้อนไหนก่อนดี

อีกคำถามน่าหนักใจสำหรับคนที่มีบัตรหลายใบในมือ ทั้งบัตรกดเงินสดและบัตรเครดิต บางคนอาจจะเลือกปิดจากใบที่มีดอกเบี้ยสูงที่สุดก่อน แต่ก็มีบางคนที่เลือกปิดจากใบที่มีดอกเบี้ยต่ำ เพื่อให้สามารถเคลียร์หนี้ได้อย่างรวดเร็ว พอปิดได้ใบหนึ่งแล้ว เราอาจจะรู้สึกมีกำลังใจในการปิดใบต่อ ๆ ไปก็ได้นะคะ

อีกข้อแนะนำที่อยากฝากถึงคนที่ต้องการจะมีบัตรเครดิตและบัตรกดเงินสดก็คือ การชำระหนี้บัตรไม่ควรผ่อนชำระขั้นต่ำเป็นอันขาด ทั้งนี้เพื่อเป็นการฝึกวินัยการใช้เงินของเราไม่ให้เกินตัว และป้องกันไม่ให้เกิดหนี้สะสมจนเป็นดินพอกหางหมูอีกด้วยค่ะ

บัตรกดเงินสดแคชจอย อีซี่ (Kashjoy easy card)

หากใครอยากมีบัตรกดเงินสดดอกเบี้ยดี วงเงินสูง ผ่อนได้นาน รวมถึงดอกเบี้ยลดต้นลดดอก ซึ่งแตกต่างจากบัตรกดเงินสดทั่วไป ลองตามไปสมัครสินเชื่อ Kashjoy ผ่านออนไลน์ได้ที่เว็บไซต์ ldp.kbjcapital.co.th

บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด ต่างกันอย่างไร
ภาพจาก : ldp.kbjcapital.co.th

สินเชื่อหมุนเวียนส่วนบุคคล บัตรกดเงินสดแคชจอยและสินเชื่ออเนกประสงค์แคชจอย อีซี่ (Kashjoy easy card) จาก เคบี เจ แคปปิตอล ใช้ได้ทั้งเบิกถอนเงินสด และผ่อนชำระค่าสินค้าหรือค่าบริการ

สิทธิประโยชน์บัตรกดเงินสดแคชจอยอีซี่

  • ผ่อนสินค้าด้วยอัตราดอกเบี้ยพิเศษที่ร้านเจมาร์ท ทั่วประเทศ
  • ฟรีค่าธรรมเนียมแรกเข้า และรายปีตลอดชีพ
  • ฟรีค่าธรรมเนียมบริการโทรสั่งเงินโอนเงินเข้าบัญชี
  • ผ่อนคืนสบายชำระขั้นต่ำเพียง 2.5% หรือไม่ต่ำกว่า 200 บาท
  • ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ หรือ บุคคลค้ำประกัน
  • วงเงินอนุมัติสูงสุดไม่เกิน 5 เท่าของรายได้ หรือสูงสุดไม่เกิน 1 ล้านบาท*
  • อัตราดอกเบี้ย ค่าปรับ ค่าบริการ ค่าธรรมเนียมใดๆ สูงสุดไม่เกิน 25% ต่อปี (แบบลดต้นลดดอก)

คุณสมบัติผู้สมัครบัตรกดเงินสด

– สำหรับพนักงานประจำ/รายวัน

  1. อายุ 20-60 ปี บริบูรณ์ ณ วันที่สมัคร
  2. รายได้สุทธิ 7,000 บาทขึ้นไป
  3. มีเบอร์โทรศัพท์ที่ทำงาน ที่สามารถติดต่อได้
  4. อายุงานตั้งแต่ 4 เดือน ขึ้นไป
  5. สัญชาติไทย
  6. รับเงินเดือนโดยโอนผ่านธนาคาร

– สำหรับเจ้าของกิจการ/อาชีพอิสระ

  1. สัญชาติไทย
  2. อายุ 20-65 ปีบริบูรณ์ ณ วันที่สมัคร
  3. รายได้หมุนเวียน ตั้งแต่ 30,000 บาท ขึ้นไป
  4. ดำเนินกิจการมาไม่ต่ำกว่า 6 เดือน

เอกสารประกอบการสมัคร

– สำหรับพนักงานประจำ/รายวัน

  1. บัตรประจำตัวประชาชนตัวจริง (พร้อมสำเนา)
  2. เอกสารแสดงรายได้
    – สำเนาสลิปเงินเดือน หรือสำเนาหนังสือรับรองเงินเดือน (ที่แสดงเงินเดือนล่าสุด หรือออกไม่เกิน 2 เดือน) และสำเนารายการเดินบัญชีธนาคารที่แสดงเงินเดือน ย้อนหลัง 3 เดือนล่าสุดติดต่อกัน
    – ในกรณีที่ไม่มีสลิปเงินเดือน ใช้สำเนารายการเดินบัญชีธนาคารที่แสดงเงินเดือน ย้อนหลัง 6 เดือนล่าสุดติดต่อกัน
  3. สำเนาสมุดบัญชีหน้าแรกของธนาคารที่ต้องการให้โอนเงินสินเชื่อ (ยกเว้น ธ.ออมสิน, ธ.ก.ส., ธอส., ทิสโก้, เกียรตินาคินภัทร)

– สำหรับเจ้าของกิจการ/อาชีพอิสระ

  1. บัตรประจำตัวประชาชนตัวจริง (พร้อมสำเนา)
  2. เอกสารแสดงรายได้
    – สำหรับเจ้าของกิจการ ใช้สำเนาบัญชีธนาคารออมทรัพย์ที่มีเงินหมุนเวียนในบัญชี ย้อนหลัง 6 เดือนล่าสุดติดต่อกัน
    – สำหรับอาชีพอิสระ ใช้สำเนาบัญชีธนาคารออมทรัพย์ที่มีเงินหมุนเวียนในบัญชี ย้อนหลัง 12 เดือนล่าสุดติดต่อกัน
  3. หนังสือจดทะเบียนบริษัท หรือทะเบียนพาณิชย์ (ถ้ามี)
  4. สำเนาสมุดบัญชีหน้าแรกของธนาคารที่ต้องการให้โอนเงินสินเชื่อ (ยกเว้น ธ.ออมสิน, ธ.ก.ส., ธอส., ทิสโก้, เกียรตินาคินภัทร)

เห็นไหมคะว่าความแตกต่างของบัตรเครดิตและบัตรกดเงินสดนั้นเข้าใจได้ไม่ยากเลย ก่อนหน้านี้อาจมีความเข้าใจผิด ๆ ว่าการมีบัตรเครดิตและบัตรกดเงินสดหลายใบในมือเป็นการสร้างหนี้ ทำให้การเงินพัง หมุนเงินไม่ทัน แต่จริง ๆ แล้วมันเป็นเรื่องของวินัยในการใช้เงินมากกว่าค่ะ

เพียงเลือกใช้ให้ถูก ไม่นำบัตรเครดิตไปกดเงินสดโดยไม่จำเป็น ไตร่ตรองก่อนรูดบัตรว่าเราต้องการสิ่งนี้จริงหรือไม่ ถ้ารู้จักใช้ให้พอดีตัว รับรองว่ายังไงก็ไม่มีปัญหาการเงินมาให้ปวดหัวแน่นอน

Lalita C.

นักเขียนคอนเทนต์ SEO แห่งทีมไทยเกอร์ไทย คลุกคลีกับการเขียนตั้งแต่สมัยเรียน ชอบการใช้ความคิดสร้างสรรค์ ติดตามข่าวสารจากโลกออนไลน์ นำมาสรุป เล่าเรื่องให้เข้าใจง่าย ผ่านมุมมองน่าสนใจที่คนมักจะมองข้าม ทั้งข่าวบันเทิง บทความ งานเขียนแนวไลฟ์สไตล์ รวมถึงทุกอย่างที่อยากให้นักอ่านได้รู้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button