ครอบครัวที่สมบูรณ์ หลายคนอาจหมายถึงบ้านที่มีทั้งพ่อแม่และลูก แต่หลายบ้านที่ทำอย่างไรก็ไม่สามารถให้กำเนิดเจ้าตัวน้อยได้สักที อาจจะเลือกรับเด็กมาดูแลแทน ลูกบุญธรรม รับอย่างไร มีสิทธิรับมรดกไหม The Thaiger มาสรุปข้อสงสัยให้แล้วตรงนี้
ลูกบุญธรรม บุตรบุญธรรม คืออะไร
ลูกบุญธรรม หรือภาษาพูดจะเรียกกันว่า ลูกนอกไส้ คือบุตรที่บิดามารดาไม่ได้ให้กำเนิดขึ้นมาเอง แต่ก็ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในผู้สืบสันดานที่มีฐานะเป็นทายาทโดยชอบธรรม ซึ่งมีสิทธิรับมรดกของเจ้าของมรดกได้หากมีการรับรองตามกฎหมาย
โดยผู้สืบสันดานที่มีฐานะเป็นทายาทมีด้วยกันทั้งหมด 3 ประเภท ได้แก่ บุตรโดยชอบด้วยกฎหมาย บุตรนอกกฎหมายที่บิดารับเอง และบุตรบุญธรรมนั่นเองค่ะ
ลูกบุญธรรม ได้มรดกไหม
ตามกฎหมายแล้วลูกบุญธรรมสามารถรับมรดกได้ มีเงื่อนไขดังนี้
- ผู้รับเลี้ยงมีอายุไม่ต่ำกว่า 25 ปี
- ผู้รับเลี้ยงต้องมีอายุมากกว่าลูกบุญธรรม 15 ปี
- มีการจดทะเบียนรับลูกบุญธรรมตามกฎหมาย
- หากผู้รับเลี้ยงมีคู่สมรส จะต้องจดทะเบียนรับเป็นบุตรบุญธรรมทั้ง 2 ฝ่ายเท่านั้น หากรับเพียงฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งก็จะถือว่ามีฐานะเป็นลูกบุญธรรมที่ไม่สมบูรณ์ตามกฎหมาย
หากทำตามเงื่อนไขครบทุกข้อ กฎหมายก็จะถือว่าลูกบุญธรรมมีฐานะเท่าเทียมกับลูกที่ชอบด้วยกฎหมาย และมีสิทธิในการรับมรดกเช่นกัน
ลูกบุญธรรม รับอย่างไร เงื่อนไขและคุณสมบัติ
สำหรับครอบครัวใดที่ต้องการรับเลี้ยงลูกบุญธรรม ผู้ขอรับจะต้องมีคุณสมบัติตามกฎหมายและสังคมดังนี้
- ผู้รับเลี้ยงมีอายุไม่ต่ำกว่า 25 ปี
- ผู้รับเลี้ยงต้องมีอายุมากกว่าลูกบุญธรรม 15 ปี
- ผู้รับเลี้ยงไม่เป็นผู้ต้องคดี ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย ไม่เป็นคนไร้ความสามารถหรือเสมือนไร้ความสามารถตามคำสั่งของศาล
- ความสัมพันธ์ในครอบครัวผู้รับเลี้ยงมีความสมบูรณ์ อบอุ่น
- ผู้รับเลี้ยงมีเวลาเลี้ยงดู เอาใจใส่ และดูแลลูกบุญธรรมอย่างใกล้ชิด
- ผู้รับเลี้ยงมีสุขภาพที่สมบูรณ์ทั้งร่างกาย จิตใจ
- ผู้รับเลี้ยงมีความพร้อมด้านที่อยู่อาศัย อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดี
- ผู้รับเลี้ยงมีรายได้ที่แน่นอน มีอาชีพที่มั่นคง รวมถึงมีความพร้อมในการเลี้ยงดูและสนับสนุนทางการศึกษาให้แก่ลูกบุญธรรมได้
- ผู้รับเลี้ยงไม่มีประวัติการทำผิดกฎหมาย หรือมีพฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรง ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อเด็กที่รับเป็นลูกบุญธรรม
- ผู้รับเลี้ยงมีเหตุผลในการรับที่เหมาะสม ไม่ได้ทำไปเพราะความเชื่อโชคลาง รวมถึงมีวุฒิภาวะที่เหมาะสมด้วย
ขั้นตอนการขอรับบุตรบุญธรรม
ผู้ขอรับเลี้ยงลูกบุญธรรมรวมถึงคู่สมรส (ถ้ามี) จะต้องเตรียมเอกสาร ดังนี้
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือสำเนาบัตรข้าราชการ
- สำเนาทะเบียนบ้าน
- สำเนาทะเบียนสมรส หรือสำเนาทะเบียนการหย่า หรือสำเนาใบมรณะบัตร (กรณีคู่สมรสเสียชีวิต)
- หลักฐานการเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล (ถ้ามี)
- ใบรับรองแพทย์ เพื่อใช้รับรองว่ามีร่างกายและจิตใจที่สมบูรณ์ (ไม่เกิน 6 เดือน)
- รูปถ่ายหน้าตรง 2 นิ้ว (ไม่เกิน 6 เดือน)
- หากผู้ขอรับเลี้ยงมีบุตรที่มีอายุ 15 ขึ้นไป บุตรจะต้องลงนามยินยอมการรับลูกบุญธรรมของบิดามารดาต่อหน้าเจ้าหน้าที่ด้วย
- หากคู่สมรสไม่ประสงค์รับลูกบุญธรรมด้วย คู่สมรสจะต้องลงนามยินยอมให้ผู้ขอรับเลี้ยงรับลูกบุญธรรมฝ่ายเดียวต่อหน้าเจ้าหน้าที่ด้วย
เด็กที่จะเป็นลูกบุญธรรม จะต้องเตรียมเอกสาร ดังนี้
- สำเนาสูติบัตร
- สำเนาทะเบียนบ้าน
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
- หลักฐานการเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล (ถ้ามี)
- รูปถ่ายหน้าตรง 2 นิ้ว (ไม่เกิน 6 เดือน)
- หากเด็กมีอายุ 15 ปีขึ้นไป จะต้องลงนามยินยอมเป็นลูกบุญธรรมต่อหน้าเจ้าหน้าที่ด้วย
- หากเด็กมีอายุ 12 ปีขึ้นไป ให้เขียนบันทึกเหตุผลที่ยินยอมเป็นลูกบุญธรรมมาด้วย
นอกจากนี้ยังต้องมีเอกสารของพ่อแม่เด็ก ดังนี้
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือสำเนาบัตรข้าราชการ
- สำเนาทะเบียนบ้าน
- สำเนาทะเบียนสมรส หรือสำเนาทะเบียนการหย่า หรือสำเนาใบมรณะบัตร (กรณีคู่สมรสเสียชีวิต)
- หลักฐานการเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล (ถ้ามี)
- โดยพ่อแม่ของเด็กจะต้องมาลงนามแสดงความยินยอมมอบเด็กเป็นลูกบุญธรรมต่อหน้าเจ้าหน้าที่ แม้จะไม่ได้จดทะเบียนสมรสก็ตาม
ซึ่งอย่าลืมเตรียมเอกสารของผู้รับรองจำนวน 2 คน ได้แก่ สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนหรือสำเนาบัตรข้าราชการ และสำเนาทะเบียนบ้าน โดยผู้รับรองจะต้องรู้จักกับผู้ขอรับเลี้ยงเด็กด้วยค่ะ
การขอรับลูกบุญธรรมจะเสร็จสมบูรณ์ก็ต่อเมื่อทำเรื่องจดทะเบียน ณ ที่ว่าการอำเภอแล้ว เมื่อทำเรื่องขอรับลูกบุญธรรมเรียบร้อย ลูกบุญธรรมก็จะมีฐานะตามกฎหมายและสิทธิรับมรดกเช่นเดียวกับลูกแท้ ๆ แต่พ่อแม่บุญธรรมจะไม่สามารถรับมรดกของลูกบุญธรรมได้ ส่วนพ่อแม่แท้ ๆ จะหมดอำนาจในการปกครองค่ะ
- ชุดบอดี้สูทคืออะไร แหวกฉี่ได้จริงไหม
- งานเอน คืออะไร รู้จักอีกหนึ่งอาชีพ ‘เอนเตอร์เทนเนอร์’ และศัพท์เฉพาะ
- เสื้อชูชีพ เสื้อพยุงตัว ต่างกันยังไง ดูให้ดีว่าใช่ชูชีพหรือไม่!
? ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน The Thaiger