การเงิน

คลัง ขยายเวลา ส่งเงินอุดหนุน ‘กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ’ เพิ่มอีก 6 เดือน

กระทรวงการคลัง ทำการ ขยายเวลา ในการส่งเงินอุดหนุน กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ สำหรับนายจ้าง และลูกจ้าง เพิ่มอีก 6 เดือน (งวด ม.ค. – มิ.ย. 2565)

ขยายเวลา, กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ – วันนี้ (25 ม.ค. 2565) กระทรวงการคลังมีมาตรการขยายระยะเวลาการช่วยเหลือนายจ้างและลูกจ้างที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของ COVID-19 ให้สามารถหยุดหรือเลื่อนการนำส่งเงินเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพเป็นการชั่วคราว ตั้งแต่งวดนำส่งเดือน ม.ค.2565 จนถึงงวดเดือน มิ.ย.2565

นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังได้มีมาตรการขยายระยะเวลาการช่วยเหลือนายจ้างและลูกจ้างที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) จากเดิมที่ผ่อนผันให้จนถึงงวดนำส่งเงินของเดือนธันวาคม 2564 ให้สามารถหยุดหรือเลื่อนการนำส่งเงินเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (กองทุนฯ) เป็นการชั่วคราว

ตั้งแต่งวดนำส่งเงินของเดือนมกราคม 2565 จนถึงงวดนำส่งเงินของเดือนมิถุนายน 2565 โดยนับอายุการเป็นสมาชิกกองทุนฯ ต่อเนื่อง และคงสมาชิกภาพไว้ ภายใต้หลักการและแนวปฏิบัติเดิม เพื่อบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนของลูกจ้างและนายจ้างที่ยังคงได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของโรค COVID-19 ในปัจจุบัน

โดยมุ่งหวังให้ลูกจ้างที่เป็นแรงงานในระบบยังคงสถานะการเป็นสมาชิกกองทุนฯ และสามารถออมผ่านกองทุนฯ หลังจากที่สถานการณ์การระบาดของโรค COVID-19 ได้คลี่คลาย เพื่อเป็นหลักประกันรายได้และนำไปสู่ความมั่นคงทางการเงินเมื่อเข้าสู่วัยเกษียณ

ทั้งนี้ กระทรวงการคลังได้ออกประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง กำหนดประเภทธุรกิจ ระยะเวลา และเงื่อนไขให้ลูกจ้างหรือนายจ้างหยุดหรือเลื่อนการส่งเงินสะสม หรือเงินสมทบเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพในท้องที่ที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจ สาธารณภัย หรือเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2565 ซึ่งได้ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2565 และมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 22 มกราคม 2565 เป็นต้นไป

 

แหล่งที่มาของข่าว : รัฐบาลไทย / Facebook Page – กวาง ไตรศุลี ไตรสรณกุล

สามารถติดตามข่าวเศรษฐกิจเพิ่มเติมได้ที่นี่ : ข่าวเศรษฐกิจ

 

N. Siripariyasak

นักเขียนคอนเทนต์ จับประเด็นด้านเศรษฐกิจ-การเงิน, เทคโนโลยี, ไอที และเกมส์ อัปเดตข่าวทั้งจากในประเทศไทย และต่างประเทศ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button