ข่าว

สถานทูตสหรัฐฯย้ำชัด วัคซีนไฟเซอร์ 1.5 ล้านโดส ให้ฟรีไม่มีเงื่อนไข

สถานทูตสหรัฐฯ ออกมายืนยันว่า วัคซีนไฟเซอร์ จำนวน 1.5 ล้านโดส เป็นการบริจาคให้ฟรี โดยไม่มีเงื่อนไขแลกเปลี่ยน

สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำประเทศไทยได้โพสต์ข้อความลงบนเว็บไซต์ถึงกรณีที่ทางการสหรัฐฯได้บริจาควัคซีนไฟเซอร์เป็นจำนวน 1.5 ล้านโดส และเดินทางถึงประเทศไทยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นการขนส่งวัคซีนครั้งประวัติศาสตร์นี้เป็นการเน้นย้ำถึงการสนับสนุนที่สหรัฐฯ มีต่อพันธมิตรที่เก่าแก่ที่สุดของเราในเอเชีย

โดยทางสถานทูตระบุว่า “สหรัฐฯ ได้บริจาควัคซีนโควิด-19 ของไฟเซอร์จำนวน 1,503,450 โดสให้กับประเทศไทย โดยวัคซีนจำนวนดังกล่าวมาถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิในเวลาเช้าวันนี้ การขนส่งวัคซีนครั้งประวัติศาสตร์นี้เป็นการเน้นย้ำถึงการสนับสนุนที่สหรัฐฯ มีต่อพันธมิตรที่เก่าแก่ที่สุดของเราในเอเชีย

เรายังภูมิใจที่ได้ยืนยันว่า สหรัฐฯ จะบริจาควัคซีนให้กับไทยรวมทั้งหมด 2.5 ล้านโดส โดยจะบริจาคเพิ่มเติมอีก 1 ล้านโดสนอกไปจากจำนวนที่มาถึงแล้วในวันนี้

รัฐบาลสหรัฐฯ ยืนเคียงข้างไทย หุ้นส่วนของเรา ในการต่อสู้กับโรคโควิด-19 และเริ่มกระบวนการฟื้นฟูทางเศรษฐกิจ ความร่วมมือกันนี้สะท้อนคำมั่นของประธานาธิบดีไบเดนที่จะมอบวัคซีนที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพให้กับประเทศต่าง ๆ ที่ขาดแคลน

รัฐบาลภายใต้การบริหารของประธานาธิบดีไบเดนและรองประธานาธิบดีแฮร์ริสประกาศว่า สหรัฐฯ จะแบ่งปันวัคซีนจำนวน 80 ล้านโดสในส่วนของสหรัฐฯ เองเพื่อช่วยยุติโรคระบาดใหญ่ในทั่วโลกนี้ และการส่งมอบวัคซีนไฟเซอร์ในครั้งนี้แสดงถึงความสำคัญที่สหรัฐฯ ให้กับความร่วมมือระหว่างเรากับไทย ในแผนการบริจาควัคซีน 80 ล้านโดสของประธานาธิบดีไบเดนนั้น สหรัฐฯ จะมอบวัคซีน 23 ล้านโดสให้กับประเทศต่าง ๆ ในเอเชีย เพื่อที่จะช่วยให้ภูมิภาคนี้รวมถึงประเทศไทยปลอดภัย การบริจาควัคซีนเหล่านี้เป็นความช่วยเหลือนอกเหนือไปจากความช่วยเหลือมูลค่า 4,000 ล้านเหรียญที่สหรัฐฯ ให้ผ่านทางโคแวกซ์ ซึ่งเป็นโครงการจัดสรรวัคซีนโควิด-19 ให้แก่นานาประเทศอย่างเท่าเทียม

การบริจาควัคซีนจำนวน 1.5 ล้านโดสครั้งนี้ รวมถึงวัคซีนหลายล้านโดสที่สหรัฐฯ มอบให้กับประเทศเพื่อนบ้านของไทย จะช่วยให้ไทยและประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคเร่งการฉีดวัคซีนเพื่อให้พลเมืองของตนปลอดภัย ตลอดจนฟื้นฟูเศรษฐกิจได้อย่างรวดเร็ว

วัคซีนของเรานั้นให้เปล่าโดยไม่มีเงื่อนไข สหรัฐฯ ดำเนินการเช่นนี้ด้วยวัตถุประสงค์หนึ่งเดียวเท่านั้น นั่นคือการช่วยชีวิตผู้คน และด้วยความตระหนักอย่างถ่องแท้ว่า ไม่มีใครปลอดภัยจนกว่าทุกคนจะปลอดภัย ดังนั้น เราจึงยินดีที่ได้ทราบว่า รัฐบาลไทยมุ่งมั่นที่จะกระจายวัคซีนเหล่านี้อย่างเป็นธรรมให้ผู้ที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยทุกคน รวมทั้งมุ่งเน้นการจัดสรรวัคซีนให้กับกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงสุด

วัคซีนโควิด-19 ของไฟเซอร์-ไบออนเทค ซึ่ง Pfizer Inc. บริษัทยาของสหรัฐฯ และ BioNTech SE บริษัทไบโอเทคโนโลยีของเยอรมนี ร่วมกันพัฒนาขึ้น เป็นวัคซีนตัวแรกที่ได้รับอนุญาตทะเบียนแบบฉุกเฉินจากองค์การอนามัยโลก และข้อมูลขององค์การอาหารและยาสหรัฐฯ แสดงให้เห็นว่า วัคซีนนี้มีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคโควิด-19 ได้ร้อยละ 95

กว่า 60 ปี สหรัฐฯ และไทยได้ผนึกกำลังรับมือกับปัญหาสำคัญที่ส่งผลต่อสาธารณสุข ความร่วมมือนี้เพิ่มพูนขึ้นนับตั้งแต่เกิดการระบาด โดยสหรัฐฯ ทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับภาคีชาวไทยในการเสริมสร้างความเข้มแข็งเพื่อตอบสนองต่อโรคโควิด-19 ในไทย รวมถึงช่วยให้ไทยเข้าถึงอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่สำคัญได้ จนถึงปัจจุบัน ความช่วยเหลือทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับโรคโควิด-19 จากรัฐบาลสหรัฐฯ ได้ส่งเสริมรัฐบาลไทยในการเตรียมความพร้อมระบบห้องปฏิบัติการ ดำเนินการค้นหาผู้ป่วยและเฝ้าระวังเหตุการณ์สำหรับอาการป่วย สนับสนุนผู้เชี่ยวชาญด้านวิชาการเพื่อการตอบสนองและเตรียมความพร้อมต่อการระบาด เสริมสร้างการสื่อสารความเสี่ยง ป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อในสถานพยาบาล ตลอดจนช่วยเหลือผู้พลัดถิ่นตามแนวชายแดน นอกจากนี้ เรายังได้มอบเครื่องช่วยหายใจ หน้ากากกรองอากาศ ชุดตรวจหาการติดเชื้อ หน้ากากอนามัย แว่นตานิรภัย และอุปกรณ์ป้องกันอื่น ๆ สำหรับบุคลากรทางการแพทย์ พยาบาล และอาสาสมัครสาธารณสุขชาวไทยที่กล้าหาญซึ่งกำลังทำงานเพื่อควบคุมการระบาดด้วย

ความร่วมมือระหว่างสหรัฐฯ และไทยได้ช่วยชีวิตผู้คนนับไม่ถ้วนทั่วโลกผ่านความก้าวหน้าด้านการวิจัย การพัฒนา และการรักษา และเราก็ยังคงทำงานด้วยกันอย่างแข็งขันเพื่อหยุดยั้งโรคโควิด-19 ตั้งแต่การระบาดระลอกแรกเมื่อปีที่แล้ว

นับตั้งแต่ปี 2491 เป็นต้นมา สหรัฐฯ เป็นผู้สนับสนุนรายใหญ่ที่สุดขององค์การอนามัยโลก เราเข้าใจว่าความมั่นคงด้านสุขภาพทั่วโลกขึ้นอยู่กับระบบสาธารณสุขที่ยืดหยุ่นพร้อมฟื้นตัว โปร่งใส และตอบสนองต่อสถานการณ์ได้ดี สหรัฐฯ มุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำในการตอบโต้การระบาดของโรคโควิด-19 ทั่วโลก และเป็นผู้บริจาครายใหญ่ที่สุดในโครงการสนับสนุนด้านการเงิน COVAX Advance Market Commitment เพื่อการเข้าถึงวัคซีนโควิด-19 อย่างเท่าเทียม”

Nateetorn S.

ผู้สื่อข่าว ทำงานกับ Thaiger มาตั้งแต่ปี 2020 จบการศึกษาจากคณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสคร์ เคยทำงานกับสถานีโทรทัศน์อันดับ 1 ของประเทศ ทำให้มประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ เจาะประเด็นข่าวการเมืองอาชญากรรม ข่าวแปลกๆ เรื่องน่าสนใจจากต่างประเทศ ช่องทางติดต่อ tee@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button