ข่าวกีฬา

ช็อควงการมวย มะเร็ง คร่าชีวิต นำขบวน หนองกี่พาหุยุทธ

เกิดเรื่องเศร้าขึ้นในวงการหมัดมวยอีกครั้ง เมื่อผู้สื่อข่าวรายงานว่า นำขบวน หนองกี่พาหุยุทธ เจ้าของฉายา “จอมไถนา” ได้เสียชีวิตลงจากโรคมะเร็งปอด ด้วยวัน 48 ปี ที่โรงพยาบาลมหาราช จ.นครราชสีมา

เป็นที่ทราบกันในวงการว่านำขบวน หนองกี่พาหุยุทธ ถูก ตรวจพบเป็นโรคมะเร็งปอดระยะที่ 4 ราวเดือน เดือนมกราคม 2564 ที่ผ่านมา และเข้ารับการรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา หลังจากนั้นได้เข้ารับการรักษาทั้งที่กรุงเทพฯ และจังหวัดนครราชสีมา ต่อมามะเร็งได้ลุกลามขึ้นไปถึงสมอง จนกระทั่งได้เสียชีวิตลงที่โรงพยาบาลมหาราช เมื่อเวลา 22.00น. วันที่ 7 เมษายน 2564 ซึ่งสร้างความเศร้าโศกเสียใจให้กับญาติผู้ใกล้ชิด และผู้ที่อยู่ในวงการมวย

ช็อควงการมวย มะเร็ง คร่าชีวิต นำขบวน หนองกี่พาหุยุทธ

โดย เมื่อวันที่ 8 เม.ย.ที่ผ่านมา ที่โรงเรียนศิลปะไทยหนองกี่พาหุยุทธ อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ มีการจัดเตรียมสถานที่รอรับศพ ของ นำขบวน และบรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า โดยเฉพาะนายปราโมทย์ หอยมุกข์ ครูมวยและเจ้าของค่ายมวยพาหุยุทธ ที่หลั่งน้ำตาอาลัยกับการเสียนักมวยและลูกศิษย์รัก

ทีมงาน The Thaiger ขอพาเพื่อนๆไปรู้จักกับ ประวัติของนำขบวน หนองกี่พาหุยุทธ อีกหนึ่งตำนานมวยไทยผู้ล่วงลับกันครับ

ช็อควงการมวย มะเร็ง คร่าชีวิต นำขบวน หนองกี่พาหุยุทธ

  • นำขบวน หนองกี่พาหุยุทธ มีชื่อจริงว่า คำเพียว ศรีจันทึก ชื่อเล่นเพียว เกิดเมื่อปี พ.ศ.2516 ที่ ต.ทุ่งกระดานพัฒนา อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ ปัจจุบันอยู่ที่ จ.นครราชสีมา เป็นน้องชายของ นำพล หนองกี่พาหุยุทธ อดีตนักมวยไทยชื่อดัง (เสียชีวิต)
  • นำขบวน เริ่มอาชีพการชกมวย ด้วยการชกตาม นำพล ผู้เป็นพี่ชาย เคยแพ้น็อกยกแรก ในเวลาเพียง 33 วินาทีให้แก่ วังจั่นน้อย ส.พลังชัย แต่ในปี 2534 ที่นำพลแขวนนวมไปเนื่องจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ นำขบวนได้พัฒนาฝีมือขึ้นมาจนเป็นยอดมวยที่ชกได้สวยงาม กลายเป็นมวยเอกภายในระยะเวลาไม่นาน โดยมีท่าไม้ตายทีเด็ดคือไถนา คือการจับขาของคู่ชกแล้วไถดันไปข้างหลังให้เสียหลัก จึงได้รับฉายาว่า “จอมไถนา”
  • จากการที่นำขบวนชอบใช้ลูกไถนานี้ จึงได้มีการประชุมกติกาและตกลงกันใหม่ว่า ห้ามนักมวยไทยใช้ลูกไถนานี้อีก เนื่องจากเป็นการเอาเปรียบคู่ต่อสู้ ซึ่งยังใช้เป็นกติกามาจนปัจจุบัน
  • นำขบวนเคยสร้างประวัติศาสตร์โดยเป็นแชมป์รุ่นจูเนียร์ไลต์เวต (130 ปอนด์) ของเวทีลุมพินียาวนานถึง 6 ปี โดยไม่มีใครสามารถชิงแชมป์ได้ จนต้องสละตำแหน่งไป และเคยเป็นแชมป์ของสภามวยไทยโลกด้วย โดยมีค่าตัวการชกสูงสุดถึง 260,000 บาท
  • หลังจากเลิกชกมวย นำขบวน ได้มาเปิดร้านขายหมูกระทะอยู่บริเวณถนนสืบศิริ อ.เมือง จ.นครราชสีมา และไปสอนมวยไทยอยู่ที่ไทเกอร์มวยไทย ยิมมวยที่ จ.ภูเก็ต แต่ภายหลังจากที่ไวรัสโควิด-19 ระบาดในระลอกที่ 2 ก็ได้กลับมาช่วยภรรยาขายหมูกระทะเหมือนเดิม จนกระทั่งเมื่อวันที่ 20 มกราคม 2564 ได้ตรวจพบว่าเป็นโรคมะเร็งปอดระยะที่ 4 จึงได้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา จนกระทั่งมะเร็งได้ลุกลามขึ้นสมอง และเสียชีวิตอย่างสงบ

 

Fame United

นักเขียนข่าวกีฬา เชี่ยวชาญข่าวฟุตบอลต่างประเทศ ผลบอล พรีวิวก่อนเกมไฮไลท์ฟุตบอล ข้อมูลเชิงลึก ข่าวการซื้อขาย รวมทั้งกีฬาต่าง ๆ ที่น่าสนใจทั่วทุกมุมโลก ด้วยประสบการณ์ทำงานกับสำนักข่าวกีฬาอันดับ 1 มาหลายปี ข้อมูลและข่าวด่วนต่างๆ จึงนำเสนอได้อย่างกระชับและรวดเร็วทันท่วงที ช่องทางติดต่อ fame_wasa@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button