ข่าวข่าวการเมือง

‘ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ’ ขอยืนข้าง นศ. สู้เพื่อประชาธิปไตย

ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ออกมาประกาศยืนอยู่ข้างนักศึกษา ยืนยันต้องต้านเผด็จการในประเทศไทยและเมียนมา

นาย ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) พร้อมแกนนำของกลุ่มอีกหลายคน ได้ออกมาประกาศว่า ตนและคนเลื้อแดงขออยู่เคียงข้างนักศึกษาที่เคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตย และคนรุ่นพวกตนต้องรับผิดชอบนำเด็กออกมาจากห้องขังและหาแนวทางแก้ไขบ้านเมือง

โดยนายณัฐวุฒิที่เพิ่งได้ถอดกำไลอีเอ็มระบุว่า ตนเคารพนักศึกษาพวกเขาเหล่านี้ในฐานะนักต่อสู้ ซึ่งพวกเขาต้องแลกมาด้วยชีวิต อิสรภาพ และต้องเผขิญกับความท้าทายที่ต้องแบกรับไว้อีกมาก และตนขอย้ำจุดยืนของตนว่า ตนขอยืนยันเคียงข้างกับนิสิต นักศึกษา ประชาชน ไม่มีเปลี่ยนแปลง พวกเราในฐานะคนเสื้อแดงที่ต่อสู้มานับ 10 ปี และทุกวันนี้ก็ยังต่อสู้อยู่

“เด็กพวกนี้พวกเขาต้องอยู่ในห้องเรียนไม่ใข่อยู่ในห้องขัง คนรุ่นเราต่างหากที่ต้องเป็นฝ่ายออกมารับผิดชอบที่เป็นต้นเหตุทำให้พวกเขาต้องออกมาต่อสู้ในวันนี้ ชะตากรรมของเด็กๆที่เกิดขึ้น คนรุ่นเราต้องร่วมกันรับผิดชอบเอาเด็กๆ ออกมาจากห้องขังและมาหาแนวทางแก้ไขเพื่อบ้านเมือง ไม่ใช่เอาเด็กไปขังแล้วบอกเป็นการแก้ปัญหา เราควรดูได้แล้วว่า ตอนนี้เด็กๆ คนรุ่นใหม่ส่งสัญญาณอะไรถึงคนรุ่นเรา

อย่าไปกลัวความเปลี่ยนแปลงเพราะมันคือสัจธรรม ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกล้วนแล้วแต่การเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา อย่าดูถูกดูแคลนคนรุ่นใหม่เหล่านี้ว่าถูกใครล้างสมองมา เพราะตนเชื่อว่าไม่มีใครสามารถไปล้างสมอง จิตวิญญาณของคนหนุ่มสาวเหล่านี้ไปได้ ควรจะยอมรับความจริงในความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นเพื่อไม่ให้บ้านเมืองเสียหายมากไปกว่านี้”

ดังนั้นตนขอประกาศจุดยืนตรงนี้ว่า ในฐานะมนุษย์ด้วยกัน ตนทิ้งพวกเขาไม่ได้ และทุกวันนี้ตนก็ยังคงเป็นคนเสื้อแดงอยู่ ไม่เคยรู้สึกเสียใจใดๆ ที่ได้ต่อสู้ในอุดมการณ์นี้มานับ 10 ปี ตนมีโลกเพียงใบเดียวคือการต่อต้านเผด็จการ ดังนั้นถ้าตนต่อต้านเผด็จการในพม่า ตนก็ต้องต่อต้านเผด็จการในประเทศไทยด้วยเช่นกัน สำหรับการเคลื่อนไหวของกลุ่ม นปช. นั้น ในตอนนี้ยังไม่มีแนวคิดเคลื่อนไหวมวลชนขนาดใหญ่ เพราะยังไม่มีข้อสรุปในที่ประชุมที่ว่างเว้นมานาน 3 ปี ซึ่งต่อมห้มีการประชุมสรุปกันเสียก่อน

แกนนำ นปช. กล่าวอีกว่า ตนเคยเจอกับเพนกวินในเรือนจำ เคยมีโอกาสทักทายพูดคุยกันบ้าง ตนเคยถามเพนกวินว่า เขารู้จักตนได้อย่างไร เพนกวินตอบว่า เขาเห็นตนในทีวีมาตั้งแต่อายุ 11 ขวบ จนมาถึงวันนี้พวกเขากลานมาเป็นแกนนำต่อสู้ฝ่ายประชาธิปไตยแทนแล้ว ซึ่งก็ไม่แน่ว่า อีก 10 ปีข้างหน้าอาจจะมีลูกชายของตนออกไปต่อสู้เรียกร้องแทนพวกตนต่อไป ดังนั้นคนเรารุ่นเราจึงควรออกมารับผิดชอบความขัดแย้งที่เกิดขึ้นทั่งหมด บ้านเมืองมันยังมีทางออกหากร่วมมือกันแก้ไขสุดท้ายนี้ตนขอส่งความปราถนาดีไปยังคนหนุ่มสาว นักต่อสู้ในเวลานี้ว่า ตนยังคงอยู่ตรงนี้ เข้าใจ เห็นใจ และเป็นกำลังใจให้ ไม่ทอดทิ้งกัน

 

โพสต์โดย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เมื่อ วันจันทร์ที่ 29 มีนาคม 2021

Nateetorn S.

ผู้สื่อข่าว ทำงานกับ Thaiger มาตั้งแต่ปี 2020 จบการศึกษาจากคณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสคร์ เคยทำงานกับสถานีโทรทัศน์อันดับ 1 ของประเทศ ทำให้มประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ เจาะประเด็นข่าวการเมืองอาชญากรรม ข่าวแปลกๆ เรื่องน่าสนใจจากต่างประเทศ ช่องทางติดต่อ tee@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button