ข่าวบันเทิง

ประวัตินาธาน โอมาน จากนักร้องดัง สู่มหากาพย์ Prince of red shoes

ประวัตินาธาน โอมาน จากนักร้องดัง สู่มหากาพย์ Prince of red shoes

นาธาน โอร์มาน เป็นบุตรของนายธัญญา และนางอุทัยวรรณ นาธานมีน้องสาวร่วมบิดามารดา 1 คน ชื่อเล่น น็อต นาธานมีชื่อโดยกำเนิดว่า ธัญญวัฒน์ หยุ่นตระกูล

นาธานสำเร็จชั้นประถมศึกษาจากโรงเรียนดรุณศึกษา มัธยมศึกษาตอนต้นที่โรงเรียนทุ่งสง นครศรีธรรมราช เมื่อสำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 นาธานก็ย้ายมากรุงเทพมหานคร ศึกษาที่วิทยาลัยเพาะช่าง 2 ปี แล้วต่อปริญญาตรีศิลปศาสตร์ คณะครุศาสตร์ (เอกศิลปะ) มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา

นาธานเข้าสู่วงการบันเทิง ด้วยการถ่ายแฟชั่นนิตยสารอย่างอิมเมจ ลิปส์ ป๊อบทีน จากนั้นได้มาเป็นศิลปินนักร้องค่ายอาร์เอส มีอัลบั้มแรกในสไตล์ป็อปร็อกที่ชื่อ Nathan ต่อมาเริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้นทั้งจากหนังสือพิมพ์และทางโทรทัศน์ที่เชิญไปสัมภาษณ์เหตุการณ์รอดชีวิตจากภัยพิบัติคลื่นยักษ์สึนามิ

หลังจากนั้น 2 ปีออกผลงานอัลบั้มชุดที่ 2 คือ สิ่งที่เรียกว่าหัวใจ ที่มีแนวดนตรีได้กลิ่นอายของเนปาล รวมถึงในมิวสิกวิดีโอด้วยเช่นกัน จากนั้นได้เปิดบริษัททำทัวร์ไปเที่ยวประเทศเนปาล และออกผลงานเขียนหนังสือเรื่อง ผมมันเด็กหลังเขา (หิมาลัย) และ โลกนี้ไม่เหงาแล้ว (Not A Lonely Planet)

นาธาน โอร์มาน เสียชีวิตในวัย 45 ปี เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2563 เวลา 09.35 น. ที่โรงพยาบาลสมุทรสาคร หลังเข้ารับการรักษาตัวเนื่องจากอาการป่วยด้วยโรคโลหิตจาง ด้วยภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด

นาธาน เคยมีกรณีพิพาทมหากาพย์ “The Prince Of Red Shoe” ซึ่งนาธานได้ให้สัมภาษณ์เมื่อปี 2551 ว่าจะได้โกอินเตอร์ฮอลลีวูด ร่วมงานกับ บรูซ วิลลิส และ คริสติน่า ริชชี่ ก่อนสุดท้ายเรื่องจะเผยว่าโปรเจกภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง นั่นทำให้ชื่อเสียงของนาธานดังสนั่นทั่ววงการบันเทิง นำไปสู่การขุดคุ้ยอดีตที่นาธานเคยสัมภาษณ์ว่า มีเชื้อเนปาล และพูดได้ 5 ภาษา ไม่เป็นความจริงเช่นกัน

ปลายเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2552 ดีเจเจเจ จามจุรี จูลี่ แคสเชอร์ หุ้นส่วนร้าน Jamaree Yak Cafe Gallery แจ้งความนาธานข้อหาฉ้อโกงเงินหุ้นส่วนร้านอาหาร 3 เดือนต่อมา อดีตแม่บ้านของนาธาน พร้อมด้วยอาทิตย์ กุลฝ้าย ลูกชาย ได้เข้าแจ้งความนาธาน ข้อหาฉ้อโกงเงินกว่า 3 แสนบาท ทั้งยังนำตรายาง ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, การท่องเที่ยวเนปาล โรงแรมชื่อดัง รวมถึงบริษัท ทเวนตี้ เซ็นจูรี่ ฟ็อกซ์ ที่เป็นของนาธานเพื่อตรวจสอบและใช้เป็นหลักฐาน

ต่อมา “แหม่ม พิศมัย” แม่บุญธรรม ออกมาปฏิเสธถึงข้อกล่าวหาดังกล่าวผ่านทางรายการ “เรื่องเด่นเย็นนี้” ทั้งนี้ทางรายการยังได้ต่อสายโทรศัพท์ถึงนาธานเพื่อชี้แจงเรื่องต่าง ๆ นาธานปฏิเสธในทุกเรื่อง โดยระบุว่า รู้จักพี่เลี้ยงคนดังกล่าวเพียง 2 ปี ไม่ใช่ 10 ปี ส่วนเรื่องตรายางไม่ใช่ของตน มีเพียงบริษัททัวร์ของนาธานอันเดียว หลังจากนั้นทางฝ่ายอดีตแม่บ้านนาธานเข้าแจ้งความ และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ออกหมายเรียกนายนาธานแต่ไม่สามารถติดต่อได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทราบว่านาธานหลบหนีมาพักอาศัยอยู่ที่ อ.เชียงคาน จ.เลย จึงเข้าจับกุมนายนาธาน แต่นาธานได้รับประกันตัวออกไปในวันรุ่งขึ้น

วันที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2553 ที่ศาลจังหวัดอำนาจเจริญ นางสมาน สุขเสริม อดีตแม่บ้านนาธาน โอมาน กล่าวว่า การไกล่เกลี่ยคดีฉ้อโกงที่นาธานได้นำโฉนดที่ดินของตนไปจำนองได้สิ้นสุดลงแล้ว โดยนาธานได้ชำระหนี้ก้อนแรกเป็นเช็คจำนวน 3.4 แสนบาท ส่วนที่เหลือนาธานได้เจรจาขอลดหย่อน ซึ่งนางสมานยอมลดหนี้จาก 7.4 แสนเหลือแค่ 5.4 แสนบาท แต่นาธานขอต่อรองลดหย่อนอีก จนนางสมานยอมลดให้เหลือ 4.4 แสนบาท โดยที่เหลืออีก 1 แสนยินดีให้เวลานาธาน 1 ปีหามาชดใช้

วันที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553 รายการเรื่องเล่าเสาร์อาทิตย์ ได้นำเสนอกรณีนายนาธาน โอร์มาน ในขณะที่ พิศมัย ศรีกระบุตร หรือ ครูแหม่ม ทำการช่วยเหลือรับอุปการะนาธาน โอร์มาน ว่า นายนาธาน ได้ใช้ความสนิทสนมกับ นางสิทธิพร โคตรอุดมพร หรือ น้ามด ซึ่งมีศักดิ์เป็นน้าสะใภ้ของครูแหม่ม ให้นำที่ดินของน้ามด ไปจำนอง เพื่อให้ได้เงินมาใช้ในการซื้อรถ “เชฟโรเลต แคปติวา” โดยที่นาธานได้อ้างว่าเพื่อซื้อมาขับให้ชินมือ เพราะตนได้รับการคัดเลือกให้เป็นพรีเซนเตอร์ของรถยี่ห้อดังกล่าวด้วยค่าตัวจำนวน 9 แสนบาท และเมื่อได้เงินค่าตัวแล้วจะนำเงินมาใช้คืนให้

นอกจากนี้ นาธาน ยังได้เอาเงินจำนวน 3 หมื่นบาท จากแม่ของครูแหม่ม ด้วยคำอ้างที่ว่าจะใช้เป็นค่าเสื้อผ้าในการเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับงานหนึ่ง โดยให้แม่ของครูแหม่ม นำวัวที่มีทั้งหมดไปขาย แต่ภายหลังทางผู้จัดได้โทรมายกเลิก เนื่องจากเหตุการณ์บ้านเมืองไม่สงบ

วันที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554 ศาลจังหวัดเลยได้พิจารณาคดีของน้ามด โจทก์ คำฟ้องสรุปว่า จำเลยได้หลอกลวงผู้เสียหาย แต่จำเลยได้ปฏิเสธและจะหาทนายเอง ซึ่งศาลได้กำหนดนัดพร้อม ในวันที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2554 เวลา 08.00 นาฬิกา

เบื้องต้นจำเลยประสงค์จะต่อสู้คดี ไม่ประสงค์จะไกล่เกลี่ยกับผู้เสียหาย ศาลเลยนำตัวจำเลยไปควบคุมเพื่อรอการยื่นขอประกันตัว หลังจากนาธานไม่ยอมไกล่เกลี่ยกับน้ามด

ศาลจังหวัดเลยได้ตัดสินให้นาธาน จำคุกเป็นเวลา 2 ปี แต่เจ้าตัวรับสารภาพ จึงลดโทษให้ครึ่งหนึ่ง เป็นจำคุก 1 ปี พร้อมทั้งให้ชดใช้เงินน้ามดทั้งหมด ต่อมาได้รับพระราชทานอภัยโทษ เนื่องในวโรกาสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงเจริญพระชนมพรรษา 7 รอบ จึงพ้นโทษเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2554

หลังจากพ้นมรสุม นาธานกลับมามีชื่อในวงการบันเทิงจากการเป็นผู้นำเทรนด์คิ้วตั้งหลายมิติ

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : วิกิพีเดีย

Aindravudh

นักเล่าเรื่อง จบการศึกษาด้านภาษาและประวัติศาสตร์ ผู้สนใจประเด็นความเคลื่อนไหวทางสังคมและการเมือง ผนวกกับการเริ่มต้นเส้นทางด้วยการเขียนงานวรรณกรรม ก่อนผันตัวมาเจาะประเด็นข่าวทางสังคม ออนไลน์ ด้วยกลวิธีการเล่าเรื่องแบบย่อยง่าย อย่างงานเขียนสร้างสรรค์ สั้น กระชับ จับทุกประเด็น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button