การแข่งขันศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดที่ 31 สิงโตน้ำเงินคราม เชลซี เปิดสนาม สแตมฟอร์ด บริดจ์ ต้อนรับการมาเยือนของ เรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ โดยเกมนี้ทีมเยือนของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า โจทย์เดียวคือต้องเอาชนะให้ได้
เจ้าบ้าน สิงห์บลูส์ เชลซี ของ แฟรงก์ แลมพาร์ด ที่กำลังลุ้นท็อปโฟร์ จัดทัพลงสนามมาในระบบ 4-3-3 แนวรุกมี วิลเลี่ยน, โอลิวิเย่ร์ ชีรูด์ และ คริสเตียน พูลีซิช
ทางฝั่ง แมนฯ ซิตี้ ของกุนซือ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า มาในระบบ 4-3-3 เกมนี้ไม่มี เซร์คิโอ อเกวโร่ ที่พักยาวไปแล้ว แนวรุกมี รียาด มาห์เรซ, ราฮีม สเตอร์ลิง และ แบร์นาร์โด้ ซิลวา
นาที 17 แมนฯ ซิตี้ ได้ลุ้นจากจังหวะลูกตั้งเตะของ เดอ บรอยน์ ทางฝั่งซ้ายโยนเข้ามาถึง แฟร์นันดิญโญ่ ได้โฉบมาโขกสะบัดเต็ม ๆ หัว แต่ทาง เกปา ยังไวพอปัดทิ้งออกไปได้
นาที 26 เชลซี ได้ลุ้นบ้างจากจังหวะ พูลิซิช พาบอลลุยมาทางซ้ายก่อนเปิดเลียดยัดเข้าไปตรงกลางติด ลาปอร์ก สกัดไม่ดีมาเข้าทาง รอสส์ บาร์คลีย์ ได้ง้างเท้ายิงแต่ไปติดบล็อก แฟร์นันดินโญ่ ออกหลังไป
นาที 32 เชลซี โถมบุกหนักแลกบ้างและมาได้ลูกเตะมุมก่อนจะได้ลุ้นจาก อันเดรส คริสเตียนเซ่น ได้โอกาสเทคตัวโขกเน้น ๆ แต่ทาง เอแดร์ซอน เซฟเอาไว้ได้
GOAL !!! นาที 36 เชลซี ขึ้นนำจนได้จากจังหวะที่ดูเหมือนไม่มีอะไร แนวรับ แมนฯ ซิตี้ ไปกั๊กกันเองก่อนโดน พูลิซิช แย่งบอลไปได้แล้วติดสปีดควบพาบอลหลุดเดี่ยวแล้วส่งบอลผ่านมือ เอแดร์ซอน ไปแบบสบาย ๆ
นาที 45 ท้ายครึ่งแรก เรือใบสีฟ้า พยายามบุกเข้ใส่แต่เจาะแนวรับเจ้าถิ่นเข้าไปหาช่องทำประตูไม่ได้เลยก่อนพักครึ่งต้องกลับไปให้เป๊ป ติวมาใหม่เพื่อลงสนามมาสู้ต่อในครึ่งหลัง
GOAL !!! นาที 55 เรือใบ ตามตีเสมอจนได้ เป็นฟรีคิกนอกกรอบเขตโทษระยะ 22 หลาเยื้องมาทางซ้าย เดอ บรอยน์ วิ่งเข้ามาปั่นบอลด้วยขวาโค้งข้ามกำแพงก่อนเบียดเสาซ้ายมือเข้าไปเกปาได้แค่ผวามาป้องกันด้วยสายตา
VAR+Red Card !!! นาที 76 เชลซี พลาด ได้ประตูแบบไม่น่าเชื่อจากจังหวะ วิลเลี่ยน กระชากมาทางขวาเปิดบอลจังหวะแรกติดบล็อคแล้วจังหวะต่อมายัดไปให้ แทมมี่ ยิงติดเซฟ เอแดร์ซอน พูลิซิช พยายามตามซ้ำก็โดน เอแดร์ซอน ตามไปปัดแล้ว แทมมี่ ตามมาอัดอีกทีบอลเหมือนโดนแขน แฟร์นานดินโญ่ ที่อยู่บนเส้นหลุดออกมา กรรมการดู VAR พร้อมชี้เป็นจุดโทษแล้วแจกใบแดงให้ดาวเตะแซมบ้าอีกต่างหาก
GOAL !!! นาที 78 เป็นทางวิลเลี่ยน รับหน้าที่สังหาร ขยับเข้ามาหลอกยิงด้วยขวาบอลเสยตาข่ายเข้าไปโดยที่เอแดร์ซอนล้มตัวไปอีกทางทำให้เชลซีขยับนำอีกครั้ง 2-1
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ เปโดร ได้หลุดไปปั่นอย่างสวยแล้วแต่ เอแดร์ซอน บินปัดปลายมือ ก่อนจบเกมเชลซีเก็บเพิ่ม 3 คะแนนไล่หลัง เลสเตอร์ ซิตี้ เหลือแต้มเดียว และพา ลิเวอร์พูล เป็นแชมป์โดยไม่ต้องลงเตะ
Congratulations to @LFC!
Your 2019/20 #PL champions 👏👏👏 pic.twitter.com/7MGQUu6ukG
— Premier League (@premierleague) June 25, 2020
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
เชลซี: เกปา อาร์รีซาบาลาก้า – เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า, อันเดรียส คริสเตนเซ่น, อันโตนิโอ รือดิเกอร์, มาร์กอส อลอนโซ่ – รอสส์ บาร์คลี่ย์, เอ็นโกโล่ ก็องเต้, เมสัน เมาท์ – วิลเลี่ยน, โอลิวิเย่ร์ ชีรูด์, คริสเตียน พูลีซิช
แมนซิตี้: เอแดร์ซอน – ไคล์ วอล์คเกอร์, แฟร์นันดินโญ่, อายเมอริก ลาปอร์ก, แบ็งฌาแม็ง เมนดี้ – อิลคาย กุนโดกัน, โรดรี้ เอร์นานเดซ, เควิน เดอ บรอยน์ – รียาด มาห์เรซ, ราฮีม สเตอร์ลิง, แบร์นาร์โด้ ซิลวา
ไฮไลท์ เชลซี 2-1 แมนซิตี้
