สโมสร หงส์แดง ลิเวอร์พูล ได้ทำการประกาศคว้าตัว ทาคูมิ มินามิโนะ มิดฟิลด์ชาวญี่ปุ่น ของทีม เร้ดบลูส์ ซัลซ์บวร์ก เป็นที่เรียบร้อย หลังจากผ่านการตรวจร่างกายฉลุย โดยเจ้าตัวเลือกที่จะสวมเสื้อหมายเลข 18
หลังจากเมื่อวานที่ผ่านมา สกาย สปอร์ต ได้มีการรายงานว่า มินามิโนะ ได้เดินทางมายังเมือง ลิเวอร์พูล ที่สนามซ้อม เมลวู้ด เพื่อทำการตรวจร่างกายและรวมถึงการเปิดตัวต่าง ๆ ซึ่งทุกอย่างเสร็จสิ้นและผ่านไปได้ด้วยดี
โดยจะมาร่วมทัพอย่างเป็นทางการอีกครั้งในวันที่ 1 มกราคม 2563 ที่จะถึงนี้ อีกทั้งสโมสรได้เซ็นสัญญาเป็นเวลา 4 ปีครึ่ง และเขายังเป็นนักเตะเอเชียคนแรกของสโมสร อีกด้วย
ผลงานของ มิดฟิลด์ทีมชาติญี่ปุ่น กับ ซัลซ์บวร์ก ลงเล่นไปแล้ว 199 เกม ทำได้ 64 ประตู และ 44 แอสซิสต์ จากทุกรายการ ได้แชมป์ลีก 5 สมัย ส่วนในรายการ แชมเปี้ยนส์ลีก นั้นเขาทำไป 2 ประตูด้วยกัน ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นการยิงใส่ ลิเวอร์พูล
We can confirm an agreement has been reached with @redbullsalzburg for the transfer of Takumi Minamino 🙌
リヴァプールフットボールクラブは南野拓実選手の移籍についてレッドブル・ザルツブルクと合意に達したことを発表する pic.twitter.com/2yH2N0v3Y1
— Liverpool FC (@LFC) December 19, 2019
มินามิโนะ จะสามารถลงเล่นในรายการ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้ายได้ทันที เนื่องจาก ยูฟ่า ได้มีการเปลี่ยนกฏเรื่องคัพไท คือ อนุญาตให้ผู้เล่นที่ย้ายในช่วงตลาดหน้าหนาว สามารถลงสนามให้กับต้นสังกัดใหม่ แม้ว่าจะเคยลงเล่นให้กับต้นสังกัดเดิมมาแล้วก็ตาม
สำหรับ มิดฟิลด์วัย 24 ปี รายนี้เคยเล่นให่กับ เซเรโซ โอซาก้า มาตั้งแต่ชุดเยาวชน เมื่อปี 2013 จนสามารถพัฒนาฝีเท้าและก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ และได้มาร่วมงานกับทางด้าน เร้ดบลูส์ ซัลซ์บวร์ก ลีกออสเตรีย เมื่อปี 2015
🔴🔴🔴 @takumina0116 🔴🔴🔴 pic.twitter.com/PDlrYPpNLQ
— Liverpool FC (@LFC) December 19, 2019
“มันเป็นเหมือนความฝันเลยล่ะ ผมฝันที่จะได้มาเป็นนักเตะ ลิเวอร์พูล และผมก็รู้สึกตื่นเต้นมาก ๆ ที่โอกาสนั้นมาถึงแล้ว”
“การที่จะได้เล่นในศึก พรีเมียร์ลีก ก็เป็นหนึ่งในเป้าหมาายของผมเหมือนกัน ผมคิดว่า นี่คือลีกหนึ่งที่คนติดตามมากที่สุดในโลก ผมเคยใฝ่ฝันว่าสักวันหนึ่งของการเป็นนักฟุตบอลอาชีพ ผมจะทำตัวเองให้ดีพอเพื่อมาเล่นยัง พรีเมียร์ลีก ให้ได้ ”
“ผมไม่เคยคิดเลยจริง ๆ ว่าผมจะได้มาอยู่ที่นี่กับทีมนี้ ผมรู้สึกมีความสุขมากจริง ๆ ผมรอคอยที่จะได้รวมงานกับทีมไม่ไหวแล้ว” มินามิโนะ ให้สัมภาษณ์
ที่มา: Liverpool FC
