การแข่งขันศึกฟุตบอล ยูโร 2020 รอบคัดเลือก ของกลุ่มเอ การพบกันระหว่าง ยูเครน จ่าฝูงของกลุ่ม จะเปิดสนาม เอ็นเอสเค โอลิมปิก รับการมาเยือนของ โปรตุเกส รองจ่าฝูง ที่แข่งน้อยกว่า 1 นัด
GOAL !!! เริ่มเกมมาเพียง 6 นาที ยูเครน ออกนำไปก่อนจากจังหวะเตะมุมเข้ามาจากทางฝั่งขวา คริฟต์ซอฟ ได้ขึ้นโหม่งติดเซฟ ปาทริซิโอ ปัดมาเข้าทาง ยาร์เร็มชุค หน้ากรอบได้ซ้ำเข้าไปง่ายๆ ยูเครนนำ 1-0
นาที 12 โปรตุเกส ได้ฟรีคิก และก็เป็นโรนัลโด้ คนเดิมที่ยิง แต่คราวนี้ไม่ได้ติดบล็อคเพื่อนร่วมทีมเหมือนเดิม แต่ไปติดบล็อกกองหลังเจ้าบ้าน
GOAL !!! นาที 27 ยูเครน ออกนำเป็น 2-0 จากจังหวะที่ มีโคเลนโก้ พาบอลขึ้นมาจากทางฝั่งซ้ายก่อนจะเปิดเลียดๆโค้งมาให้ ยาร์โมเลนโก้ ได้วิ่งมาแประยะ 6 หลาหน้ากรอบ บอลตุงตาข่ายไม่เหลือ ยูเครน นำห่าง 2-0
นาที 44 เจ้าบ้านน่าจะได้อีกประตู จากจังหวะที่ ยาร์โมเลนโก้ ได้บอลจาก ยาร์เร็มชุค หลุดมาทางฝั่งขวาหน้ากรอบ แต่เล่นหลายจังหวะลากเข้าไปแล้วซัดออกข้างไปอย่างน่าเสียดาย และจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้
GOAL UKRAINE 2-0 PORTUGAL (YARMOLENKO)
The ball is whipped into the West Ham man and he is in acres of space inside the box to tap the ball home. Portugal in trouble. pic.twitter.com/C96FRJS9k5— Lilian Chan (@bestgug) October 14, 2019
นาที 46 โปรตุเกส ทีมเยือนตัดสินใจเปลี่ยนตัวตั้งแต่ต้นครึ่งหลังโดยเลือกส่ง เจา เฟลิกซ์ ลงมาแทน กูเอเดส ที่ครึ่งแรกไม่ค่อยมีบทบาทเท่าไร
GOAL !!! นาที 72 โปรตุเกส ตีไข่แตกได้สำเร็จ จากจังหวะที่ สเตปาเนนโก้ ไปล้มตัวขวางลูกยิงของ ดานิโล่ แต่บอลไปโดนแขน เจ้าตัวโดนใบเหลืองสองเป็นใบแดง กรรมการชี้เป็นจุดโทษ แล้วเป็นโรนัลโด้ อาสาซัดไปฝั่งขวาเต็มๆ โปรตุเกส ไล่มา 2-1 และเป็นประตูลูกที่ 700 ในอาชีพการค้าแข้งของเจ้าตัว
โปรตุเกส พยายามบุกหาประตูไล่ตีเสมอ แต่ก็ไม่ทัน สิ้นเสียงนกหวีดยาวเป็นทางด้าน ยูเครน ของ อังเดร เชฟเชนโก้ ที่เอาชนะทีมเยือนไป 2-1 พร้อมกับตีตั๋วเข้าไปเล่นยูโร 2020 เป็นที่เรียบร้อย
Ukraine, coached by @jksheva7 , have qualified for Euro 2020 with a win over Portugal 👏🇺🇦 pic.twitter.com/skv5tlBg02
— 433 (@433) October 14, 2019
ไฮไลท์ ยูเครน 2-1 โปรตุเกส
https://www.youtube.com/watch?v=GVNG_xuETSs
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
ยูเครน : อังเดร เปียตอฟ – เซอร์เก โบลบัต, เซอร์เก คริฟต์ซอฟ, มิโคล่า มัตวิเยนโก้, เอดูอาร์ด โซโบล – ทาราส สเตปาเนนโก้ – อังเดร ยาร์โมเลนโก้, โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้, รุสลัน มาลินอฟสกี้, มาร์ลอส – จูเนียร์ โมราเอส
โปรตุเกส: รุย ปาตริซิโอ – เนลซอน เซเมโด้, เปเป้, รูเบน ดิอาส, ราฟาเอล เกร์เรยโร่ – บรูโน่ แฟร์นานเดส, ดานิโล่ เปเรยร่า, ชูเอา มูตินโญ่ – แบร์นาร์โด้ ซิลวา, คริสเตียโน่ โรนัลโด้, กอนซาโล่ เกเดส
