ลูกน้องสุดรัก “บิ๊กโจ๊ก” พลิกลิ้น กลับลำเป็นพยาน แฉคลิปเด็ด สินบนทองคำ ป.ป.ช.

เจาะลึกปมฉาว “บิ๊กโจ๊ก” สั่งมอบทอง 15 ล้าน ติดสินบน ป.ป.ช. หวังหลุดคดี เกมพลิกเพราะลูกน้องคนสนิท “พ.ต.อ.ภาคภูมิ” กลับใจแฉคลิปลับมัดตัว
กรณีมีการกล่าวหา พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล หรือ “บิ๊กโจ๊ก” อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ว่ามีส่วนพัวพันกับการให้สินบนเจ้าหน้าที่ระดับสูงในคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อแลกกับการช่วยเหลือทางคดี
จุดเริ่มต้น: ปฏิบัติการค้น 11 จุดและข้อหา “ติดสินบน” เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา คณะทำงานสืบสวนสอบสวนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ได้ระดมกำลังเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายรวม 11 จุด ทั้งในกรุงเทพมหานครและจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปฏิบัติการครั้งนี้สืบเนื่องมาจากการขยายผลสอบสวนคดีที่มีการกล่าวหา พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ และพวก ว่ากระทำความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ (มาตรา 157) และให้สินบนเจ้าพนักงาน
ข้อกล่าวหานี้คือ การนำ ทองคำแท่งน้ำหนักรวม 246 บาท มูลค่าปัจจุบันประมาณ 15 ล้านบาท ไปมอบให้กับ นายเอกวิทย์ ซึ่งเป็นหนึ่งในกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อเป็นการวิ่งเต้น ให้ช่วยเหลือทางคดีที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ถูกตรวจสอบอยู่ เกี่ยวโยงกับคดีเว็บพนันมินนี่ ในช่วงปี 2567
จุดพลิกผันที่ทำให้คดีนี้มีน้ำหนักอย่างมาก มาจากการกลับคำให้การของ พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิศมัย อดีตนายตำรวจคนสนิทของบิ๊กโจ๊ก ซึ่งเคยตกเป็นข่าวในคดีเว็บพนันมินนี่
รายงานข่าวระบุว่า พ.ต.อ.ภาคภูมิ ทนแรงกดดันไม่ไหวจากการถูก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ พยายามโยนความผิดให้ตนและ พ.ต.อ.อาริศ คูประสิทธิ์รัตน์ (ลูกน้องคนสนิทอีกคน) เพื่อให้เจ้านายพ้นผิด พ.ต.อ.ภาคภูมิ จึงตัดสินใจเข้าให้ข้อมูลกับ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว (รอง ผบช.ก.) และมอบหลักฐานชิ้นสำคัญที่สุด นั่นคือ คลิปวิดีโอขณะส่งมอบทองคำ
ความย้อนแย้งของหลักฐานชิ้นนี้คือ แหล่งข่าวระบุว่า ผู้ที่สั่งให้ถ่ายคลิปวิดีโอการมอบทองคำไว้ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ สั่งการด้วยตนเอง โดยมีเจตนาเพื่อใช้เป็นหลักฐาน ผูกมัดกรรมการ ป.ป.ช. รายดังกล่าว ว่าหากรับของไปแล้วต้องดำเนินการช่วยเหลือตามที่ตกลงกันไว้ หากไม่ช่วย คลิปนี้จะถูกนำมาใช้ข่มขู่
แต่สุดท้าย เมื่อความสัมพันธ์แตกหัก คลิปที่ตั้งใจเอาไว้ขู่ ป.ป.ช. กลับกลายเป็นหลักฐานมัดตัวผู้สั่งการเสียเอง
ข้อมูลจากการสอบสวนระบุว่า หลังจากมีการมอบทองคำ นายเอกวิทย์ (กรรมการ ป.ป.ช.) ได้พยายามเร่งรัดการไต่สวนเพื่อให้สรุปผลว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ไม่มีความผิด และพยายามนำเรื่องเข้าที่ประชุมชุดใหญ่ แต่ไม่สำเร็จ เนื่องจากกรรมการ ป.ป.ช. ท่านอื่นไม่เห็นด้วยและรู้ทันเกม ทำให้องค์ประชุมไม่ครบและไม่สามารถลงมติช่วยได้
เมื่อการวิ่งเต้นไม่สัมฤทธิ์ผล ฝั่ง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ จึงเกิดความไม่พอใจ กดดันขอทองคำคืน โดยคนสนิทของนายเอกวิทย์พยายามติดต่อจะคืนทองคำน้ำหนัก 246 บาทให้ แต่จนถึงปัจจุบันยังไม่มีการส่งคืน จนนำไปสู่ความขัดแย้งและการเปิดโปงในที่สุด
จากการตรวจค้นล่าสุด เจ้าหน้าที่สามารถยึดทองคำแท่งเพิ่มเติมได้อีก น้ำหนัก 120 บาท จากบ้านของ นายสรพงษ์ วงษ์สุวรรณ (หนึ่งในผู้ถูกกล่าวหา) ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าเป็นทองคำที่ซื้อมาจากร้านเดียวกับทองคำล็อตที่ใช้ติดสินบน
ขณะนี้ มีผู้ตกเป็นผู้ต้องหาในขบวนการนี้รวม 6 ราย ได้แก่
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล (เข้ารับทราบข้อหาแล้วเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา)
นายสมบัติ (เข้ารับทราบข้อหาแล้ว)
นายสามารถ (เอ็ดเวิร์ด) กรแก้ว (อยู่ระหว่างประสานเข้าพบ)
นายสรพงษ์ วงษ์สุวรรณ (อยู่ระหว่างประสานเข้าพบ)
นายสุรสิทธิ์ แพเกิด (อยู่ระหว่างประสานเข้าพบ)
นายเอกวิทย์ วัชชวัลคุ (กรรมการ ป.ป.ช. ผู้ถูกกล่าวหาว่ารับสินบน – อยู่ระหว่างประสานเข้าพบ)
ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติเตรียมจะแถลงข่าวสรุปผลการดำเนินคดีนี้อย่างเป็นทางการในเร็วๆ นี้ ซึ่งถือเป็นคดีประวัติศาสตร์ที่สะท้อนความเน่าเฟะของการทุจริตที่เชื่อมโยงระหว่างบิ๊กตำรวจและองค์กรอิสระ
ที่มา: รายการเรื่องเล่าเช้านี้
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- “บิ๊กโจ๊ก” ยืนยันไม่หนี ไม่กังวลคดี มองเป็นการแจ้งความเพื่อปิดปาก
- “อนุทิน” เมิน “บิ๊กโจ๊ก” เปิดแชตไลน์ ตอบทำงานช่วยเหลือประชาชน ไม่มีดราม่า
- “พิมพ์วิไล” รับสิ้น โอนส่วยเว็บพนันให้ “บิ๊กตำรวจ” จริงตามลิสต์ “บิ๊กโจ๊ก”
ติดตาม The Thaiger บน Google News:



