ข่าว

ตอบแทน “จ่าเริง” วีรบุรุษชาติ กองทัพ ให้พี่สาว รับราชการทหารเป็นกรณีพิเศษ

ท่ามกลางเสียงปืนที่สงบลง ณ ชายแดนไทย-กัมพูชา สิ่งที่ยังคงดังกึกก้องคือเรื่องราวความกล้าหาญของเหล่าทหารกล้า วีรกรรม ณ “เนิน 350” ที่ต้องแลกมาด้วยชีวิตของ จ่าสิบเอก สำเริง คลังประโคน หรือ “จ่าเริง” วัย 38 ปี และ พลทหาร ภานุพัฒน์ เสาร์สา หรือ “พลทหารวุ้น” สองทหารเสือแห่งกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 23 (ร.23 พัน.3)

ย้อนรอยสมรภูมิเดือด นาทีชีวิต ณ เนิน 350

เหตุการณ์ปะทะเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2568 ถือเป็นหนึ่งในวันที่หนักหน่วงที่สุดในพื้นที่ใกล้ปราสาทตาควาย ต.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ พื้นที่ยุทธศาสตร์ “เนิน 350” ถูกฝ่ายตรงข้ามยึดครองและสร้างฐานที่มั่นดัดแปลงแข็งแรง ทำให้ทหารไทยตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบจากการถูกระดมยิงกดดันอย่างหนักจากที่สูง

ในสถานการณ์วิกฤตที่ชุดปฏิบัติการจำเป็นต้องถอนตัวเพื่อปรับกลยุทธ์ จ่าเริง และ พลทหารวุ้น ตัดสินใจรับหน้าที่เป็น “ชุดยิงคุ้มกัน” ซึ่งถือเป็นหน้าที่ที่อันตรายที่สุดในสนามรบ ทั้งคู่ปักหลักสู้ ยิงตอบโต้เพื่อตรึงกำลังข้าศึกไม่ให้รุกคืบเข้ามาประชิด และเพื่อให้เพื่อนทหารชุดอื่นสามารถถอนตัวออกมาได้อย่างปลอดภัย

เสียงปืนกลและเครื่องยิงลูกระเบิดจากฝั่งไทยคำรามก้อง ทั้งสองนายยืนหยัดต่อสู้จนวินาทีสุดท้าย ก่อนจะถูกอาวุธหนักของฝ่ายตรงข้ามพรากชีวิตไปในหน้าที่ แต่การเสียสละของพวกเขาไม่สูญเปล่า เพราะนำมาซึ่งการเปิดทางให้ทหารไทยสามารถเข้ายึดคืนพื้นที่เนิน 350 ได้ในที่สุด

จ่าเริง จ่าสิบเอก สำเริง คลังประโคน

ภารกิจของจ่าเริงกับพลทหารวุ้น ต้องอาศัยความชำนาญในการใช้อาวุธยุทโธปกรณ์ที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง เพื่อหยุดยั้งข้าศึกที่มีจำนวนมาก เช่น

  1. ปืนกลเบา FN MAG 7.62 มม. อาวุธหลักในการยิงกดดัน ด้วยกระสุนขนาดใหญ่และความแม่นยำสูง สามารถยิงต่อเนื่องเพื่อหยุดการเคลื่อนที่ของข้าศึกได้อย่างชะงัด

  2. เครื่องยิงลูกระเบิด 60 มม. (ค.60) อาวุธยิงสนับสนุนวิถีโค้งที่จ่าเริงมีความเชี่ยวชาญ สามารถยิงข้ามสิ่งกีดขวางไปทำลายเป้าหมายหลังเนินหรือในบังเกอร์ได้ไกลกว่า 3.5 กิโลเมตร

  3. ปืนเล็กยาว Colt M4 Carbine ปืนคู่กายทหารราบที่มีความคล่องตัวสูง เหมาะสำหรับการรบระยะประชิดและการยิงประกอบการเคลื่อนที่

  4. Ultimax 100 ปืนกลเบาที่มีระบบ “Constant Recoil” ช่วยลดแรงสะท้อนถอยหลัง ทำให้ทหารสามารถควบคุมปืนได้นิ่งและแม่นยำแม้ในขณะยิงอัตโนมัติ

จ่าสิบเอก สำเริง คลังประโคน

คำสัญญาจากรัฐมนตรี สานต่อลมหายใจพี่สู่น้อง

ความสูญเสีย สร้างความโศกเศร้าให้แก่ครอบครัว “คลังประโคน” อย่างสุดซึ้ง นางอุ่น คลังประโคน แม่วัย 79 ปี ต้องสูญเสียลูกชายเสาหลัก แต่ในความมืดมิดยังมีแสงสว่างแห่งน้ำใจ

เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม ที่ผ่านมา พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม (รมว.กห.) ได้เดินทางไปร่วมงานสวดพระอภิธรรมศพคืนสุดท้ายที่ จ.บุรีรัมย์ ด้รับทราบความประสงค์ของครอบครัวที่อยากให้ นางสาวชงโค คลังประโคน พี่สาวของจ่าเริง วัย 48 ปี เข้ารับราชการทหารเพื่อสานต่อปณิธานของน้องชายและดูแลแม่

“ถึงแม้อายุจะเกินเกณฑ์ แต่สิ่งที่จ่าเริงเสียสละเพื่อชาตินั้นยิ่งใหญ่เกินกว่าเงื่อนไขปกติ” บิ๊กเล็ก รมว.กลาโหม สั่งการทันทีให้กองทัพบกดำเนินการบรรจุพี่สาวเข้ารับราชการเป็นกรณีพิเศษ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจและตอบแทนความดีงามของวีรบุรุษผู้ล่วงลับ สร้างความปลาบปลื้มใจให้แก่พี่สาวที่พร้อมจะทำหน้าที่รั้วของชาติ” ต่อน้องชาย และดูแลแม่ให้ดีที่สุด

จารึกชื่อไว้คู่แผ่นดิน

ในวันที่ 24 ธันวาคม 2568 เวลา 16.00 น. พิธีพระราชทานเพลิงศพของจ่าสิบเอก สำเริง คลังประโคน ถูกจัดขึ้นอย่างสมเกียรติ โดยมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เดินทางมาเป็นประธาน เพื่อส่งดวงวิญญาณทหารกล้าสู่สัมปรายภพ

แม้ร่างจะมอดไหม้ไปตามกาลเวลา แต่ชื่อของ “จ่าเริง” และ “พลทหารวุ้น” รวมถึงทหารกล้าอีก 22 นายที่สละชีพในสมรภูมินี้ จะยังคงเป็นตำนานเล่าขานถึงความเสียสละที่ยิ่งใหญ่… เพราะพวกเขาไม่ได้ล้มลงเพราะความพ่ายแพ้ แต่ล้มลงเพราะยืนอยู่แถวหน้าสุดเพื่อปกป้องพวกเราทุกคน

“ขอสดุดีแด่ดวงวิญญาณผู้กล้า… วีรบุรุษเนิน 350 ตลอดกาล”

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ติดตาม The Thaiger บน Google News:

Aindravudh

นักเขียนประจำ Thaiger มีประสบการณ์เขียนข่าวมากกว่า 5 ปี จบการศึกษาด้านภาษาและประวัติศาสตร์ จากคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีความสนใจ ประเด็นความเคลื่อนไหวทางสังคมและการเมือง เจาะประเด็นข่าวทางสังคม ด้วยกลวิธีการเล่าเรื่องแบบย่อยง่าย อย่างงานเขียนสร้างสรรค์ สั้น กระชับ จับทุกประเด็น หัวข้อที่เชียวชาญคือเรื่องไลฟ์สไตล์ เลขเด็ด หวยรัฐบาลไทย หวยลาว ช่องทางติดต่อ vajara@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button