พ่อแม่ลมแทบจับ ครูปล่อยคลิปนักเรียนขณะสอบ ลั่นถามหาจรรยาบรรณ

กระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโลกโซเชียลเวียดนามกำลังคุกรุ่น จากกรณีภาพครูโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งในจังหวัดด่งนาย ทำการไลฟ์สดบรรยากาศขณะนักเรียนกำลังทำข้อสอบวิชาวรรณกรรม มีผู้ชมกว่า 6,000 คน สร้างความโกรธเคืองหัวอกคนเป็นพ่อแม่ว่า “ความเงียบสงบและความศักดิ์สิทธิ์ของห้องสอบหายไปไหน?”
ในยุคดิจิทัล ผู้ปกครองต่างเข้าใจดีว่าคุณครูรุ่นใหม่ ต้องการพื้นที่ในการแบ่งปันเรื่องราวดีๆ หรือเชื่อมต่อกับโลกภายนอก แต่เส้นแบ่งระหว่างการแบ่งปันความทรงจำกับการหิวยอดไลก์ นั้นบางเบาจนน่ากลัว
เมื่อครูหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาไลฟ์สดกลางห้องสอบ อาจจะมองว่าเป็นเรื่องสนุกขำขันที่ได้อวดความน่ารักของลูกศิษย์ แต่หารู้ไม่ว่านั่นคือการละเลยหน้าที่สำคัญที่สุด การคุมสอบต้องการความยุติธรรมและการสอดส่องดูแล หากสายตาครูจับจ้องแต่หน้าจอโทรศัพท์ คอยเช็กยอดคนดูว่าแตะหลักพันหรือยัง หรือมัวแต่อ่านคอมเมนต์ แล้วครูจะเอาสมาธิที่ไหนไปดูแลเด็กๆ ที่กำลังก้มหน้าทำข้อสอบอยู่ตรงหน้า?
นักเรียนคือ ‘มนุษย์’ ไม่ใช่ ‘คอนเทนต์’ สิ่งที่น่าเจ็บปวดที่สุดไม่ใช่เรื่องระเบียบวินัย แต่คือความรู้สึกของเด็กๆ ในวัย 16-17 ปี ซึ่งเป็นวัยหัวเลี้ยวหัวต่อที่เปราะบางและห่วงภาพลักษณ์ของตัวเองอย่างที่สุด
เด็กๆ ที่กำลังหัวฟู เหงื่อไหลไคลย้อย เคร่งเครียดกับการทำข้อสอบ จู่ๆ ก็ถูกกล้องจ่อถ่ายทอดสดให้คนแปลกหน้ากว่า 6,000 คนเข้ามาดู พวกเขาถูกเปลี่ยนสถานะจากนักเรียนให้กลายเป็นนักแสดงจำเป็นโดยไม่รู้ตัวและไม่เต็มใจ
ในจำนวนคนดูเหล่านั้น ใครจะรับประกันได้ว่าจะไม่มีคอมเมนต์คุกคามทางเพศ การบูลลี่รูปร่างหน้าตา หรือคำพูดล้อเลียนที่สนุกปาก? คำพูดเหล่านั้นอาจผ่านไปไวในฟีดข่าว แต่มันอาจกลายเป็นแผลใจที่ฝังลึกในตัวเด็กตลอดไป โรงเรียนควรเป็นพื้นที่แสวงหาความรู้และปลอดภัย ไม่ใช่สตูดิโอถ่ายทำคอนเทนต์เพื่อเรียกยอดไลก์ให้ใคร แม้คนนั้นจะเป็นครูก็ตาม
แม้บางคนอาจแย้งว่า “ก็แค่สอบเก็บคะแนน ไม่ใช่สอบระดับชาติ จะกลัวข้อสอบรั่วทำไม” แต่ทัศนคตินี้กำลังกัดกร่อนความศักดิ์สิทธิ์ของการศึกษา การเดินไปมาเพื่อหามุมกล้อง หรือเสียงตอบโต้กับคนดูของครู รบกวนสมาธิของเด็กที่กำลังใช้ความคิดอย่างหนัก
หากห้อง 1 สอบแล้วถูกไลฟ์สด ห้อง 2 หรือ 3 ที่สอบทีหลังย่อมเห็นข้อสอบล่วงหน้า คะแนนที่ได้จึงไม่ได้วัดความสามารถที่แท้จริง และทำลายความเชื่อมั่นที่เด็กมีต่อความยุติธรรมของครู
เสียงวอนจากผู้ปกครอง ขอคืนห้องเรียนที่แท้จริง
ผู้ปกครองส่งบุตรหลานมาโรงเรียนด้วยความไว้วางใจ หวังให้ครูเป็นแบบอย่างของความเคารพ วินัย ไม่ใช่แค่ผู้สอนหนังสือ ในยุคที่ยอดไลก์เย้ายวนใจ การหักห้ามใจเป็นเรื่องยาก แต่ครูคือวิชาชีพสร้างคน คุณค่าของครูไม่ได้อยู่ที่ยอด Follower ใน TikTok หรือยอดวิวในไลฟ์สด แต่อยู่ที่การเคารพสิทธิความเป็นส่วนตัวของศิษย์ และความทุ่มเทในการสอน
เหตุการณ์ที่ด่งนายคือบทเรียนราคาแพงสำหรับทุกคน ถึงเวลาแล้วที่ครูต้องวางโทรศัพท์ลง พักโลกเสมือนไว้ข้างหลัง และคืน “ความสงบ ความปลอดภัย และความศักดิ์สิทธิ์” กลับสู่ห้องเรียน เพราะแววตาแห่งความไว้วางใจและความสำเร็จของลูกศิษย์ คือ “ยอดไลก์” ที่มีคุณค่าและยั่งยืนที่สุดที่คนเป็นครูควรภาคภูมิใจ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ครูเดวิด เตือนคนไทย วิกฤตเงินเฟ้อ-สงครามใหญ่ คนเห็นด้วย ไลก์พุ่ง 6 หมื่น
- ดราม่า ครูยึดเสื้อกันหนาวนักเรียน อ้างสีเสื้อผิดกฎโรงเรียน ผู้ปกครองตั้งคำถามถูกเลือกปฏิบัติเพราะจน?
- ครูอังกฤษถูกไล่ออก เหตุเตือนเด็กมุสลิมล้างเท้าในอ่างล้างหน้า “ที่นี่คือเมืองคริสต์”
ติดตาม The Thaiger บน Google News:



