เบื้องหลังเหตุสลด “หาดบอนได” ชาวบ้านซ่อนผู้หนีภัย-ไลฟ์การ์ดช่วยนทท.จมน้ำ อัปเดตอาการฮีโร่แย่งปืนล่าสุด
ยืนยันแล้ว ผู้ก่อเหตุเป็นพ่อลูก! สังหาร 15 ศพ ในงานเทศกาลชาวยิว เฉลิมฉลองเทศกาลฮานุกกะห์ (Hannukah) ชายหาดบอนไดของออสเตรเลีย พลเมืองดีเข้าต่อสู้แย่งปืนท่ามกลางความโกลาหล เบื้องหลังเหตุสลด พาเปิดเรื่องราวความกล้าหาญและความเสียสละของพลเมืองดีและเจ้าหน้าที่กู้ภัย
เหตุการณ์สะเทือนขวัญที่หาดบอนไดในนครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย วานนี้ (14 ธ.ค.) เมื่อกลุ่มมือปืนเปิดฉากกราดยิงใส่ฝูงชนในงานเทศกาลเฉลิมฉลองวัน Hanukkah ของชาวยิว ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 16 คน รวมถึงเด็กหญิงอายุ 10 ปี และมีผู้บาดเจ็บอีกกว่า 40 คน ซึ่ง 5 คนกำลังอยู่ในอาการสาหัส
ท่ามกลางความวุ่นวายและโกลาหลของเสียงปืน สื่อต่างประเทศได้ทำการเปิดเผยเรื่องราวความกล้าหาญและความเสียสละของพลเมืองดีและเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่ปรากฏขึ้น
ไลฟ์การ์ดเสี่ยงตายช่วยชีวิตกลางกระสุน
ขณะที่เสียงปืนดังอย่างต่อเนื่องและผู้คนกำลังหาที่กำบัง มีเจ้าหน้าที่ไลฟ์การ์ดคนหนึ่งแสดงความกล้าหาญขั้นสูงสุดด้วยการกระโดดลงไปในทะเล เพื่อช่วยเหลือ “เลวี” นักท่องเที่ยวชาวจีนที่กำลังหมดแรงและใกล้จมน้ำ
ผู้ที่เห็นเหตุการณ์เล่าผ่าน X (ทวิตเตอร์) ว่า ได้เห็นไลฟ์การ์ดคนดังกล่าวคว้ากระดานโต้คลื่นแล้วพุ่งลงน้ำทันที ทั้งที่ทุกคนกำลังหมอบซ่อนตัวอยู่หลังรถบักกี้เพื่อหนีวิถีกระสุน รายงานระบุว่า นักท่องเที่ยวผู้นี้ได้ตะโกนเตือนเพื่อน ๆ ในน้ำทันทีที่ได้ยินเสียงปืน ก่อนจะหมดแรงลงไป
@deanogladstone Bondi Lifeguards are first responders to anything happening at Bondi So many heroic actions coming to light today.
ขอบคุณคลิปจาก : TikTok @deanogladstone
ชาวบ้านเปิดบ้านให้ที่หลบภัย
ในบริเวณใกล้เคียงหาดบอนได มีชาวบ้านใจกล้ากลุ่มหนึ่งเปิดบ้านของตัวเองให้ผู้หนีภัยที่วิ่งหนีตายมาตามถนนได้เข้าไปหลบซ่อนตัว หลายสิบคนเข้าไปแออัดกันอยู่ในสวนหลังบ้านด้วยความตกใจ-หวาดกลัว และรีบโทรศัพท์แจ้งข่าวให้คนที่รักทราบถึงสถานการณ์
วิดีโอที่เผยแพร่บน TikTok แสดงให้เห็นฝูงชนที่ยังอยู่ในอาการช็อก บางคนยกมือปิดปาก บางคนกุมศีรษะ ด้วยข้อความที่ระบุว่า “ขอชื่นชมคนกลุ่มนี้ที่อนุญาตให้พวกเราและอีกกว่า 20 คนที่วิ่งหนีเข้ามาจากถนนได้ซ่อนตัวอยู่ในบ้าน ขณะที่มือปืนกำลังปฏิบัติการอยู่ที่บอนได”


อัปเดตอาการล่าสุดของพลเมืองดีที่เข้าต่อสู้แย่งปืน
เหตุการณ์ที่ได้รับความสนใจมากที่สุดคือความกล้าหาญของ นายอาห์เหม็ด อัล อาเหม็ด ชายวัย 43 ปี พ่อลูกสองเจ้าของร้านขายผลไม้ ที่เข้าต่อสู้และแย่งปืนไรเฟิลจากมือปืนคนหนึ่งได้สำเร็จ
จากภาพวิดีโอที่น่าตกใจ นายอัล อาเหม็ด ได้เข้าประชิดตัวและต่อสู้กับมือปืนอย่างรวดเร็ว ก่อนจะแย่งอาวุธมาไว้ในมือได้สำเร็จ ขณะที่มือปืนล้มลงบนพื้น เขามิได้ลั่นไก แต่กลับวางปืนไว้ข้างต้นไม้ จากนั้นมือปืนได้สะดุดล้มและหลบหนีไป
ต่อมา นายอัล อาเหม็ด ถูกยิง 2 ครั้ง เข้าที่มือและไหล่จากมือปืนอีกคนบนสะพานใกล้เคียง ขณะนี้เขาอยู่ระหว่างการผ่าตัด (ดูคลิป)


ด้าน โดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดี ได้ยกย่องการกระทำของเขา โดยเรียกเขาว่าเป็น “บุคคลที่กล้าหาญมากที่เข้าโจมตีมือปืนคนหนึ่งโดยตรง และช่วยชีวิตผู้คนไว้ได้มากมาย”
ในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (14 ธ.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดเผยตัวตนของมือปืนทั้ง 2 คนว่า “เป็นพ่อลูกกัน” โดยผู้เป็นพ่ออายุ 50 ปี ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจวิสามัญฆาตกรรมระหว่างเหตุการณ์ ส่วนลูกชายอายุ 24 ปี อาการสาหัส
ตำรวจยืนยันว่า ผู้เป็นพ่อมีใบอนุญาตครอบครองอาวุธปืนถูกต้องตามกฎหมาย และมีอาวุธปืนที่จดทะเบียนไว้ 6 กระบอก ซึ่งปืน 6 กระบอกถูกเก็บกู้ได้จากที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ยังพบระเบิด “แบบหยาบ ๆ” (rudimentary bombs) จำนวน 2 ลูกในที่เกิดเหตุและนำไปกู้ระเบิดเรียบร้อยแล้ว
เจ้าหน้าที่กำลังสอบสวนแรงจูงใจเบื้องหลังการโจมตีครั้งนี้ แต่ได้ตัดประเด็นการตามล่าหาผู้ต้องสงสัยคนที่สามออกไปแล้ว ขณะที่ นายมัล แลนยอน ผู้บัญชาการตำรวจรัฐนิวเซาท์เวลส์กล่าวว่า ทั้งคู่เป็นบุคคลที่ไม่เคยอยู่ในข่ายการเฝ้าระวัง.
ที่มา : เดอะซัน (The Sun)
อ่านข่าวต่างประเทศที่น่าสนใจ
- เผยมือปืน เป็นพ่อลูกกัน หลังกราดยิงหาดบอนได ยอดตายขยับเป็น 15 ศพ
- เศร้า! อินฟลูฯ สาววัย 33 เจ้าแม่ศัลยกรรม พลัดตกคอนโดหรูที่ภูเก็ต
- คลิปช็อก! กลุ่มโปรปาเลสไตน์ใช้ ค้อนปอนด์ ทุบตร.หญิงสาหัส
ติดตาม The Thaiger บน Google News:





