เปิดผลสอบ “ไฟไหม้ใหญ่ฮ่องกง” พิรุธตาข่าย 7 จุด ทำดับ 151 ศพ ลือหนักรีบปิดข่าว
เปิดผลสอบเหตุโศกนาฏกรรม ตึกหวังฟู่คอร์ท พบตาข่ายกันฝุ่น 7 จุด ต่ำกว่ามาตรฐาน ชี้ผู้รับเหมาลดสเปกหวังกำไรทำคนตาย 151 ศพ ด้านทางการฮ่องกงใช้กฎหมายความมั่นคงไล่จับชาวเน็ตและอาสาสมัครที่ตั้งคำถามเรื่องความรับผิดชอบ
ทางการฮ่องกงเปิดเผยผลการสอบสวนเหตุเพลิงไหม้ครั้งรุนแรงที่คร่าชีวิตผู้คนไปอย่างน้อย 151 ศพ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (1 ธ.ค.2025) สำนักข่าวต่างประเทศอ้างรายงานข้อมูลระบุชัดเจนว่า “ตาข่ายกันฝุ่น” ที่ใช้คลุมนั่งร้านระหว่างการปรับปรุงอาคารไม่ได้มาตรฐานความปลอดภัยตามกฎหมาย ขณะที่กระแสความโศกเศร้าของสาธารณชนกำลังแปรเปลี่ยนเป็นความโกรธแค้น รัฐบาลกลับเลือกใช้วิธีปิดกั้นการวิจารณ์และดำเนินคดีกับผู้เห็นต่าง
เหตุเพลิงไหม้เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (26 พ.ย.) เจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลาจนถึงวันศุกร์จึงจะควบคุมเพลิงได้สนิท ต้นเพลิงเริ่มจากตาข่ายชั้นล่างที่คลุมนั่งร้านไม้ไผ่รอบอาคารหนึ่งในกลุ่มอาคาร “หวังฟู่คอร์ท” (Wang Fuk Court) ก่อนจะลุกลามเข้าสู่ตัวอาคารอย่างรวดเร็วผ่านแผ่นโฟมที่ปิดหน้าต่างและแรงระเบิดจากกระจกที่แตกออก กระแสลมได้พัดพาเปลวไฟลามไปสู่อาคารข้างเคียงซึ่งมีนั่งร้านและตาข่ายคลุมอยู่เช่นกัน ส่งผลให้อาคาร 7 จาก 8 หลังจมอยู่ในกองเพลิง
อีริค ชาน (Eric Chan) หัวหน้าคณะผู้บริหารฮ่องกง แถลงต่อสื่อมวลชนว่า แม้การตรวจสอบเบื้องต้นจะระบุว่าตาข่ายผ่านมาตรฐาน แต่เมื่อทีมสอบสวนเก็บตัวอย่าง 20 จุดจากทุกพื้นที่ รวมถึงชั้นบนของอาคาร พบว่ามีถึง 7 ตัวอย่างที่ไม่ผ่านเกณฑ์ความปลอดภัย สิ่งนี้บ่งชี้ว่าผู้รับเหมาจงใจลดคุณภาพวัสดุเพื่อเพิ่มกำไรส่วนต่าง
“พวกเขาแค่ต้องการโกยเงิน โดยแลกกับชีวิตของผู้คน” ชาน กล่าว
ความสูญเสียและการเยียวยา ยอดเงินบริจาคเพื่อช่วยเหลือผู้รอดชีวิตพุ่งสูงถึง 900 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง ประชาชนจำนวนมากต่างพากันนำดอกไม้และการ์ดไว้อาลัยมาวางไว้ ณ จุดอนุสรณ์ชั่วคราวใกล้ซากอาคาร
ลอเรตตา โลห์ หนึ่งในผู้มาไว้อาลัยกล่าวด้วยความเศร้าสลดว่า “เมื่อเกิดเหตุร้าย เราต่างออกมาช่วยเหลือกัน ฉันรู้สึกหนักอึ้งในใจเหลือเกิน”
กลุ่มอาคารหวังฟู่คอร์ทในเขตไท่โป (Tai Po) เป็นที่อยู่อาศัยของประชากรราว 4,600 คน หน่วยพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลภัยพิบัติของตำรวจฮ่องกงได้ค้นหาในอาคารที่ถูกไฟไหม้ไปแล้ว 5 หลัง แต่ยังคืบหน้าเพียงบางส่วนในอีก 2 หลังที่เหลือ ทีมงานกำลังเร่งประเมินความปลอดภัยของโครงสร้าง โดยเฉพาะอาคารต้นเพลิงที่เสียหายหนักที่สุด

ล่าสุดเมื่องานนี้ (1 ธ.ค.) เจ้าหน้าที่กู้ร่างผู้เสียชีวิตเพิ่มได้อีก 8 ราย รวม 3 ราย ที่นักดับเพลิงพบก่อนหน้านี้แต่ไม่สามารถนำออกมาได้ ยังมีผู้สูญหายอีกหลายสิบราย ซึ่งคาดว่ารวมอยู่ในร่างผู้เสียชีวิต 39 รายที่ยังไม่สามารถระบุตัวตนได้
ซาง ซุก-ยิน หัวหน้าหน่วยสอบสวนผู้เสียชีวิตระบุว่า “เราต้องรอจนกว่าจะเข้าตรวจสอบครบทั้ง 7 ตึก จึงจะสรุปรายงานฉบับสมบูรณ์ได้”
รัฐบาลจัดสรรงบประมาณตั้งต้น 300 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง ร่วมกับเงินบริจาคภาคเอกชน เพื่อช่วยฟื้นฟูบ้านเรือนและให้การสนับสนุนระยะยาวแก่เหยื่อ รวมถึงมอบเงินสดเยียวยาค่าใช้จ่ายและค่าทำศพ โดยล่าสุดมีผู้อพยพ 683 รายเข้าพักในโรงแรม และอีก 1,144 รายย้ายเข้าที่พักชั่วคราว
สัญญาณเตือนที่ถูกเพิกเฉยและการเชือดไก่ให้ลิงดู กรมแรงงานฮ่องกงยอมรับว่า ชาวบ้านได้ร้องเรียนเรื่องตาข่ายก่อสร้างมาเกือบปีแล้ว เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบโครงการนี้ 16 ครั้งตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2024 และแจ้งเตือนผู้รับเหมาเป็นลายลักษณ์อักษรหลายครั้งให้ปฏิบัติตามกฎความปลอดภัย โดยการตรวจสอบครั้งล่าสุดเกิดขึ้นเพียงหนึ่งสัปดาห์ก่อนเกิดเหตุไฟไหม้


คริส ถัง รัฐมนตรีความมั่นคงแถลงว่า ตำรวจและหน่วยงานปราบปรามการทุจริตได้จับกุมผู้เกี่ยวข้องแล้ว 14 คน รวมถึงกรรมการบริษัทและที่ปรึกษาวิศวกรรมของบริษัทก่อสร้าง
อย่างไรก็ตาม ประชาชนเริ่มตั้งคำถามว่า เจ้าหน้าที่รัฐควรต้องรับผิดชอบด้วยหรือไม่ แต่พื้นที่สำหรับการแสดงความเห็นต่างในฮ่องกงกลับมีจำกัด นับตั้งแต่จีนเข้ามามีบทบาทควบคุมและใช้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ
นายถัง กล่าวว่า มีข่าวลือแพร่สะพัดโดยกลุ่มคนไม่หวังดี ให้ข่าวปลอมว่านักดับเพลิงใช้ยุทธวิธีผิดพลาด หรือเหยื่อถูกเรียกเก็บค่าโรงแรมคืนละ 8,000 ดอลลาร์ ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องเท็จ เราจะจับกุมพวกปล่อยข่าวลือเหล่านี้
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา สำนักงานพิทักษ์ความมั่นคงแห่งชาติ ประณามสิ่งที่เรียกว่า “แผนการชั่วร้าย” ที่มีเจตนาแอบแฝงใช้ภัยพิบัติสร้างความปั่นป่วน แต่ไม่ได้ระบุรายละเอียดที่แน่ชัด
ในวันเดียวกันสื่อท้องถิ่นรายงานว่า ชายผู้เป็นแกนนำรวบรวมรายชื่อออนไลน์เพื่อเรียกร้องความรับผิดชอบจากรัฐบาล ถูกจับกุมในข้อหาปลุกปั่นยุยง ต่อมาในวันอาทิตย์ (30 พ.ย.) มีการจับกุมเพิ่มอีก 2 ราย หนึ่งในนั้นคืออาสาสมัครที่เข้าไปช่วยเหลือในพื้นที่เกิดเหตุ
ฌอง-ปิแอร์ คาเบสตัน (Jean-Pierre Cabestan) นักรัฐศาสตร์และนักวิจัยอาวุโสจากศูนย์เอเชียในปารีส วิเคราะห์ว่า เจ้าหน้าที่ฮ่องกงกำลังดำเนินงานในรูปแบบเดียวกับทางการจีนแผ่นดินใหญ่ คือการตัดไฟแต่ต้นลมเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการประท้วง
ทั้งนี้ คริส ถัง ปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดเกี่ยวกับ 3 ผู้ต้องหาล่าสุด แต่ยืนยันว่าตำรวจ “ต้องดำเนินการ” กับผู้ที่พยายามเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ โดยอ้างว่ามีกลุ่มคนฉวยโอกาสจากช่วงเวลาแห่งความโศกเศร้า เพื่อปลุกปั่นให้เกิดความเกลียดชังรัฐบาล
สถานการณ์เสรีภาพในการแสดงออกของฮ่องกงถูกจำกัดอย่างหนัก นับตั้งแต่การประท้วงใหญ่ปี 2019 ปัจจุบันทางการแทบจะไม่อนุญาตให้มีการชุมนุมประท้วง และกีดกันนักการเมืองฝ่ายตรงข้ามไม่ให้ลงสมัครเลือกตั้ง.










อ่านข่าวต่างประเทศ 2 ธันวาคม 2025
- หัวใจสลาย นักดับเพลิงฮ่องกงถูกไฟคลอกดับ ก่อนแต่งงานเดือนหน้า ปิดฉากรัก 10 ปี
- ไฟไหม้ตึกสูงฮ่องกง ยอดตายพุ่งเกือบ 100 ศพ เร่งค้นหาผู้สูญหาย
- ดับพุ่ง 44 ศพ ไฟไหม้ตึกสูงฮ่องกง สูญหายเกือบ 300 ตร.จับ 3 ผู้รับเหมา ใช้วัสดุไวไฟ
ติดตาม The Thaiger บน Google News:



