การเงินสปอนเซอร์เศรษฐกิจ

เครดิตไม่สวย มีประวัติบูโร ยื่นกู้สินเชื่อบ้านได้ไหม มีขั้นตอนอะไรบ้าง

การมีบ้านเป็นของตัวเองคือความฝันของใครหลายคน แต่เมื่อมีประวัติบูโร หรือมีข้อมูลเครดิตที่ไม่สู้ดีนัก ความฝันนั้นอาจดูห่างไกลออกไป อย่างไรก็ตาม ประวัติเครดิตบูโรมิได้หมายถึงจุดสิ้นสุดของโอกาสในการมีบ้านเสมอไป หากมีความเข้าใจที่ถูกต้องและมีการเตรียมตัวที่ดี การขอสินเชื่อบ้านก็ยังคงเป็นไปได้ บทความนี้จะพาทุกคนไปทำความเข้าใจเรื่องเครดิตบูโร พร้อมเปิดแนวทางการเตรียมความพร้อมเพื่อสร้างโอกาสในการเป็นเจ้าของบ้านอีกครั้ง

ทำความเข้าใจ เครดิตบูโรคืออะไร ทำไมสำคัญต่อการกู้บ้าน

เครดิตบูโร หรือ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด (National Credit Bureau) คือองค์กรที่ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการรวบรวมและจัดเก็บข้อมูลเครดิตของบุคคลธรรมดาและนิติบุคคลจากสถาบันการเงินที่เป็นสมาชิก โดยข้อมูลเหล่านี้จะสะท้อนถึงประวัติการชำระหนี้สินเชื่อและบัตรเครดิตทั้งหมด เช่น ประวัติการชำระเงินตรงเวลาหรือไม่ มีการผิดนัดชำระหนี้หรือไม่ หนี้สินคงค้างมีจำนวนเท่าใด

ข้อมูลเครดิตบูโรจึงเปรียบเสมือน “สมุดพกทางการเงิน” ที่ธนาคารและสถาบันการเงินใช้เป็นหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญเพื่อพิจารณาอนุมัติสินเชื่อ เนื่องจากข้อมูลนี้ช่วยให้ธนาคารสามารถประเมินความสามารถในการชำระหนี้และความเสี่ยงในการผิดนัดชำระของผู้ขอสินเชื่อได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากมีประวัติที่ดี การอนุมัติสินเชื่อก็จะเป็นไปได้ง่ายขึ้น ในทางกลับกัน หากมีประวัติผิดนัดชำระ ก็อาจส่งผลต่อการพิจารณาอนุมัติได้

เคยมีประวัติบูโร กู้บ้านได้จริงหรือ?

เป็นคำถามที่หลายคนสงสัยและกังวลใจ คำตอบคือ เป็นไปได้ แต่ต้องมีการเตรียมตัวที่ดีและเป็นไปตามเงื่อนไขของธนาคาร การมีชื่อในเครดิตบูโรพร้อมสถานะ “ผิดนัดชำระ” หรือ “ค้างชำระ” จะส่งผลกระทบโดยตรงต่อการพิจารณาสินเชื่อใหม่ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะถูกปฏิเสธสินเชื่อไปตลอดชีวิต โดยทั่วไปแล้ว เมื่อจัดการชำระหนี้ที่ค้างอยู่จนหมดสิ้น สถานะในเครดิตบูโรจะยังคงแสดงประวัติการผิดนัดชำระนั้นต่อไปอีกเป็นระยะเวลาไม่เกิน 3 ปี นับจากวันที่ชำระหนี้เสร็จสิ้น

ในช่วงเวลานี้ แม้ประวัติจะยังคงอยู่ แต่หากผู้ขอสินเชื่อสามารถพิสูจน์ให้ธนาคารเห็นถึงวินัยทางการเงินที่ดีขึ้นและความสามารถในการชำระหนี้ที่มั่นคงได้ โอกาสในการได้รับอนุมัติสินเชื่อบ้านก็ยังมีอยู่ ซึ่งธนาคารจะพิจารณาปัจจัยอื่น ๆ ประกอบกันอย่างละเอียด

ปัจจัยสำคัญที่ธนาคารใช้พิจารณาสำหรับผู้ที่เคยมีประวัติบูโร

ธนาคารจะไม่ได้มองเพียงแค่ประวัติในเครดิตบูโรเท่านั้น แต่จะประเมินภาพรวมทางการเงินของผู้ขอสินเชื่ออย่างรอบด้าน โดยมีปัจจัยสำคัญที่นำมาพิจารณาเป็นพิเศษ ดังนี้

  • ระยะเวลาหลังจากปิดหนี้ ธนาคารมักจะพิจารณาผู้ขอสินเชื่อที่ทำการปิดบัญชีหนี้ที่มีปัญหามาแล้วเป็นระยะเวลาหนึ่ง (เช่น 12-24 เดือนขึ้นไป) เพื่อให้แน่ใจว่าผู้กู้ได้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมทางการเงินและมีเสถียรภาพแล้ว
  • ความมั่นคงของรายได้และอาชีพ ผู้ขอสินเชื่อต้องมีแหล่งรายได้ที่ชัดเจน สม่ำเสมอ และสามารถตรวจสอบได้ มีอายุงานที่มั่นคง ซึ่งบ่งบอกถึงความสามารถในการผ่อนชำระหนี้ได้ในระยะยาว
  • ภาระหนี้สินในปัจจุบัน ธนาคารจะประเมินอัตราส่วนภาระหนี้ต่อรายได้ (Debt Service Ratio: DSR) เพื่อดูว่าผู้กู้มีภาระหนี้อื่น ๆ อยู่มากน้อยเพียงใด หากมีภาระหนี้สูง โอกาสในการอนุมัติก็จะลดลง
  • วินัยทางการเงินหลังการปิดหนี้ หลังจากที่เคลียร์หนี้เก่าหมดแล้ว เช่น การชำระสินเชื่ออื่น ๆ หรือบัตรเครดิตตรงเวลา การมีเงินออมอย่างสม่ำเสมอ การมีประวัติชำระหนี้ตรงเวลา ก็จะเพิ่มความน่าเชื่อถือได้มากขึ้น
  • เงินดาวน์ การมีเงินดาวน์จำนวนมาก (เช่น 20% ขึ้นไปของราคาบ้าน) จะช่วยลดภาระของธนาคารและเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับผู้ขอสินเชื่อได้อย่างมาก

4 ขั้นตอนเคลียร์ตัวเองให้พร้อมยื่นขอสินเชื่อบ้าน

4 ขั้นตอนเคลียร์ตัวเองให้พร้อมยื่นขอสินเชื่อบ้าน

สำหรับผู้ที่เคยมีประวัติและต้องการเริ่มต้นใหม่เพื่อยื่นขอสินเชื่อบ้าน การเตรียมความพร้อมอย่างคือหัวใจสำคัญที่จะนำไปสู่ความสำเร็จ ลองทำตาม 5 ขั้นตอนนี้เพื่อสร้างโอกาสให้ตัวเอง

1. จัดการเคลียร์หนี้สินคงค้างให้หมด

เมื่อทราบรายการหนี้ทั้งหมดแล้ว ให้ติดต่อสถาบันการเงินเจ้าหนี้เพื่อเจรจาและดำเนินการปิดบัญชีหนี้สินที่ค้างชำระอยู่ให้เรียบร้อย โดยเฉพาะหนี้ที่เคยมีประวัติผิดนัดชำระ ควรเก็บหลักฐานการชำระหนี้จนครบถ้วนไว้เป็นอย่างดี เช่น ใบเสร็จ หรือเอกสารยืนยันการปิดบัญชี เพื่อใช้เป็นหลักฐานประกอบการยื่นขอสินเชื่อในอนาคต

2. สร้างประวัติทางการเงินใหม่ให้ดี

หลังจากเคลียร์หนี้เก่าหมดแล้ว ต้องเริ่มต้นสร้างประวัติทางการเงินที่ดีขึ้นมาใหม่ หากมีบัตรเครดิตหรือสินเชื่ออื่น ๆ ที่ยังใช้งานอยู่ ควรชำระให้ตรงเวลาและเต็มจำนวนอย่างสม่ำเสมอเป็นระยะเวลาต่อเนื่องอย่างน้อย 12 เดือน นอกจากนี้ การเปิดบัญชีเงินฝากประจำหรือการออมเงินอย่างมีวินัย ก็เป็นอีกวิธีที่ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือทางการเงินได้

3. เก็บออมเงินดาวน์ให้ได้มากที่สุด

เงินดาวน์คือปัจจัยสำคัญที่จะช่วยเพิ่มโอกาสในการอนุมัติสินเชื่อบ้านได้อย่างมาก พยายามเก็บออมเงินเพื่อวางดาวน์ให้ได้สูงที่สุดเท่าที่จะทำได้ อย่างน้อย 20-30% ของราคาประเมินบ้าน การมีเงินดาวน์สูงไม่เพียงแต่แสดงให้ธนาคารเห็นถึงความตั้งใจและวินัยทางการเงิน แต่ยังช่วยลดวงเงินกู้ที่ต้องขอ ทำให้ภาระการผ่อนชำระต่อเดือนลดลง และลดความเสี่ยงของธนาคารอีกด้วย

4. เดินเข้าไปปรึกษาธนาคารโดยตรง

เมื่อเตรียมความพร้อมในทุกด้านแล้ว ขั้นตอนสุดท้ายคือการเดินเข้าไปปรึกษากับเจ้าหน้าที่ธนาคารโดยตรง ควรเตรียมเอกสารทางการเงินทั้งหมดไปให้พร้อม เช่น สลิปเงินเดือน, Statement ย้อนหลัง, และเอกสารยืนยันการปิดหนี้ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ช่วยประเมินสถานการณ์เบื้องต้นและให้คำแนะนำที่เหมาะสม การพูดคุยอย่างตรงไปตรงมาจะช่วยให้เข้าใจเงื่อนไขและมีแนวทางในการเตรียมตัวที่ชัดเจนยิ่งขึ้น

ปัจจัยสำคัญที่ธนาคารใช้พิจารณาสำหรับผู้ที่เคยมีประวัติบูโร

สรุปบทความ

การมีประวัติเครดิตบูโรไม่ใช่กำแพงที่ข้ามผ่านไปไม่ได้ แต่เป็นบทเรียนทางการเงินที่ต้องใช้ความตั้งใจและวินัยในการแก้ไข การเตรียมความพร้อมอย่างเป็นขั้นตอน ตั้งแต่การตรวจสอบข้อมูล การเคลียร์หนี้สิน การสร้างประวัติใหม่ และการเก็บออมเงินดาวน์ ล้วนเป็นบันไดสำคัญที่นำไปสู่โอกาสในการเป็นเจ้าของบ้านในฝันได้อีกครั้ง

และสำหรับผู้ที่วางแผนขอสินเชื่อ ทีทีบีมีผลิตภัณฑ์สินเชื่อบ้านที่ออกแบบมาเพื่อรองรับทุกความต้องการ ไม่ว่าจะเป็น

  • สินเชื่อบ้านใหม่ สำหรับผู้ที่ต้องการซื้อบ้านหลังแรกหรือขยายพื้นที่อยู่อาศัย
  • สินเชื่อบ้านมือสอง ที่ช่วยให้คุณเป็นเจ้าของบ้านในทำเลที่ต้องการได้ง่ายขึ้น
  • สินเชื่อบ้านรีไฟแนนซ์ ที่ช่วยให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ย ภาระผ่อนชำระรายเดือนเป็นเจ้าของบ้านได้ไวขึ้น
  • สินเชื่อบ้านแลกเงิน สำหรับผู้ที่ต้องการนำบ้านมาใช้เป็นเงินทุนในการจัดการภาระหนี้หรือเสริมสภาพคล่อง

สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม เข้าไปศึกษาได้ที่ เว็บไซต์ทีทีบี หรือ สมัครได้ที่ ทีทีบี ทุกสาขา และ แอปทีทีบี ทัช

กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว : สินเชื่อบ้านใหม่-บ้านมือสอง อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงตลอดอายุสัญญา 4% – 7% ต่อปี • สมมติฐานการคำนวณมาจากอัตราดอกเบี้ย MRR-1.430% ถึง MRR-0.530% ต่อปี • สินเชื่อบ้านรีไฟแนนซ์ อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงตลอดอายุสัญญา 3% – 6% ต่อปี • สมมติฐานการคำนวณมาจากอัตราดอกเบี้ย MRR-4.115% ถึง MRR-1.430% ต่อปี • สินเชื่อบ้านแลกเงิน อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงตลอดอายุสัญญา 5% – 11% ต่อปี • สมมติฐานการคำนวณมาจากอัตราดอกเบี้ย MRR-1.855% ถึง MRR+3.020% ต่อปี • โดยอัตราดอกเบี้ย MRR ณ วันที่ 15 ส.ค. 68 = 7.305% ต่อปี • อัตราดอกเบี้ยลอยตัวสามารถเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้ • เงื่อนไขการสมัครและอนุมัติสินเชื่อเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ธนาคารกําหนด • รายละเอียดการคำนวณเพิ่มเติมดูได้ที่เว็บไซต์ www.ttbbank.com

ติดตาม The Thaiger บน Google News:

Thaiger

The Thaiger นำเสนอข่าวสารล่าสุดและอัปเดตจากทั่วประเทศไทย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button