ฉีดฟิลเลอร์ขมับ ปรับรูปหน้าละมุน เป็นธรรมชาติ
ฉีดฟิลเลอร์ขมับ เป็นวิธีที่ช่วยคืนความอิ่มฟูให้บริเวณขมับ ให้ใบหน้าดูสมส่วนและละมุนขึ้น โดยเฉพาะในคนที่มีขมับตอบหรือยุบ ทำให้ใบหน้าดูแข็งหรือโหนกแก้มเด่นเกินไป นอกจากนี้หลายคนยังนิยมฉีดฟิลเลอร์ขมับเพื่อเสริมโหงวเฮ้ง ตามความเชื่อว่าขมับที่ดูเต็มอิ่มคือสัญลักษณ์ของความมั่นคง มีวาสนา ดึงดูดพลังบวก ทั้งในด้านความรักและการเงิน
ในบทความนี้ จะพาไปรู้ทุกเรื่องของฟิลเลอร์ขมับ ตั้งแต่สาเหตุขมับตอบ ข้อดี-ข้อควรระวัง รุ่นฟิลเลอร์ที่เหมาะสม ไปจนถึงวิธีเลือกคลินิกที่ปลอดภัย
รู้สาเหตุขมับตอบ ทำให้รูปหน้าไม่สมดุล
ขมับตอบ ขมับยุบ เกิดได้จากหลายสาเหตุครับ เช่น
- โครงสร้างใบหน้าแต่กำเนิด : บางคนมีกระดูกและกล้ามเนื้อบริเวณขมับบางกว่าปกติ ชั้นไขมันน้อย พอเวลาผ่านไปจะเห็นเป็นรอยเว้าหรือแอ่งบริเวณขมับชัดเจน
- อายุมากขึ้น วอลลุ่มบนหน้าเริ่มหาย : เมื่ออายุมากขึ้น กระดูก เนื้อเยื่อ และไขมันบนใบหน้าจะค่อย ๆ ยุบตัว ทำให้ผิวขมับแบนลงหรือบุ๋มเข้าไป ส่งผลให้ใบหน้าดูแข็งและขาดความสมดุล
- ผลจากการจัดฟันหรือใช้กล้ามเนื้อขมับน้อยลง : หลังจัดฟัน บางคนใช้แรงเคี้ยวน้อยลง ทำให้กล้ามเนื้อขมับ (Temporalis Muscle) ที่อยู่ข้างศีรษะเล็กลง จึงเห็นขมับยุบลงตามไปด้วยครับ
ฉีดฟิลเลอร์ขมับ คืออะไร ? เหมาะกับใคร ?
ฉีดฟิลเลอร์ขมับ คือการฉีดไฮยาลูโรนิก แอซิด (Hyaluronic Acid: HA) เข้าไปเติมเต็มบริเวณขมับที่เว้า ยุบ หรือบุ๋มลง เพื่อคืนความอิ่มฟูให้ผิว ช่วยให้ใบหน้าได้สัดส่วน ดูสมดุลขึ้น ลดความเด่นของโหนกแก้ม และทำให้ใบหน้าโดยรวมดูอ่อนเยาว์ และละมุนขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ นอกจากนี้ยังช่วยให้ช่วงหางตาดูเรียบตึงขึ้นได้ด้วยครับ
ใครที่เหมาะกับฉีดฟิลเลอร์ขมับ ?
- คนที่น้ำหนักลดมากจนหน้าโทรม : เนื้อขมับยุบ ใบหน้าดูอิดโรย สามารถฉีดฟิลเลอร์ขมับเพื่อคืนวอลลุ่มเฉพาะจุด ให้ใบหน้ากลับมาดูสดใสโดยไม่ต้องเพิ่มน้ำหนักทั้งตัว
- คนที่โหนกแก้มเด่นเพราะขมับตอบ : การฉีดฟิลเลอร์ขมับช่วยปรับสัดส่วนหน้าให้สมดุล ใบหน้าดูเรียวและละมุนขึ้น
- คนที่ต้องการเสริมโหงวเฮ้งหรือปรับรูปหน้าโดยรวม : มักทำร่วมกับฟิลเลอร์หน้าผากหรือฟิลเลอร์แก้มตอบ เพื่อให้ใบหน้าส่วนบนดูเต็มสมส่วนและสมดุลมากขึ้นครับ
ฉีดฟิลเลอร์ขมับ ช่วยอะไรได้บ้าง ?
ขมับเป็นจุดสำคัญที่มีผลต่อความสมดุลของใบหน้าอย่างมากครับ หากขมับยุบลง จะยิ่งทำให้โหนกแก้มดูเด่น หน้าดูแข็งหรือดูโทรม การฉีดฟิลเลอร์ขมับ จึงเป็นทางออกยอดนิยมที่ช่วยเติมเต็มให้รูปหน้าดูละมุนและอ่อนเยาว์ขึ้น
ฟิลเลอร์ขมับช่วยอะไรได้บ้าง
- แก้ขมับตอบ ขมับลึก : ช่วยเติมเต็มบริเวณที่ยุบ ทำให้ใบหน้าดูมีมิติ ไม่แบนหรือแข็งเกินไป
- ลดความเด่นของโหนกแก้ม : เมื่อขมับเต็มขึ้น โหนกแก้มจะดูน้อยลง ทำให้หน้าดูละมุนและสมส่วน
- ช่วยให้ใบหน้าอ่อนเยาว์ขึ้น : ผิวขมับที่เคยยุบจะดูเต่งตึงขึ้น หน้าดูสดใสและดูเด็กลงอย่างเห็นได้ชัด
- เสริมโหงวเฮ้งใบหน้า : ตามความเชื่อ ขมับเต็มถือเป็นลักษณะโหงวเฮ้งที่ดี เสริมเรื่องการเงิน ความรัก และผู้ใหญ่อุปถัมภ์
- ช่วยลดริ้วรอยหางตาเล็ก ๆ : ฟิลเลอร์ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว ทำให้ริ้วรอยรอบขมับดูเรียบเนียนขึ้น
เปิดตำราโหงวเฮ้งขมับ เสริมราศีรับทรัพย์
ตามศาสตร์โหงวเฮ้ง ขมับเป็นจุดที่สื่อถึงวาสนา การเงิน และความรัก หากขมับเต็มและได้รูป จะบ่งบอกถึงชีวิตที่มั่นคง มีคนช่วยเหลือ เกื้อหนุน และมีเสน่ห์ดึงดูด
ในทางกลับกัน หากขมับตอบหรือเว้าลึก มักเชื่อกันว่าเป็นลักษณะของคนที่ต้องเหนื่อยเอง ทำอะไรก็ลำบาก หรือมีอุปสรรคด้านความสัมพันธ์ครับ
ดังนั้น การฉีดฟิลเลอร์ขมับ จึงเป็นทั้งการปรับรูปหน้าให้สมดุลและช่วยเสริมโหงวเฮ้งไปในตัว ขมับที่อิ่มเอิบไม่เพียงทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์และละมุนขึ้น แต่ยังช่วยเสริมความมั่นใจ พร้อมดึงดูดพลังบวกให้ชีวิตดูมีวาสนาและน่ามองมากขึ้นครับ
ฉีดฟิลเลอร์ขมับ VS เติมไขมัน VS ผ่าตัดเสริมขมับ ต่างกันอย่างไร ?
หลายคนที่มีปัญหาขมับตอบ มักลังเลว่าจะเลือกฉีดฟิลเลอร์ขมับ เติมไขมันขมับ หรือผ่าตัดเสริมขมับดี ? เพราะทั้งสามวิธีช่วยเติมเต็มขมับให้ดูอิ่มขึ้นได้เหมือนกัน แต่ละแบบมีความแตกต่างกันในเรื่องของวิธีทำ ระยะเวลาพักฟื้น และผลลัพธ์ที่ได้ มาดูกันแบบเข้าใจง่าย ๆ ครับ
- ฉีดฟิลเลอร์ขมับ : ใช้สารเติมเต็มประเภทไฮยาลูโรนิก แอซิด (Hyaluronic Acid : HA) ซึ่งเป็นสารที่ปลอดภัยและสลายได้เองตามธรรมชาติ แพทย์จะฉีดฟิลเลอร์บริเวณชิดกระดูกเพื่อเติมเต็มส่วนที่เว้าให้เรียบเนียน ช่วยให้ใบหน้าดูสมดุลขึ้น ข้อดีคือเห็นการเปลี่ยนแปลงทันทีหลังฉีด ใช้เวลาทำไม่นาน ไม่ต้องพักฟื้น และสามารถกลับไปทำงานได้เลย
- การเติมไขมันขมับ : เป็นการนำไขมันของตัวเองจากส่วนอื่น เช่น หน้าท้อง หรือต้นขา มาฉีดเข้าไปบริเวณขมับ วิธีนี้มีข้อดีคือใช้ไขมันตัวเองจึงไม่เสี่ยงแพ้ แต่กระบวนการจะซับซ้อนกว่า ต้องดูดไขมัน ปั่นแยกก่อนนำมาฉีด แต่มีโอกาสที่ไขมันบางส่วนจะไม่ติด บางคนต้องทำซ้ำหลายครั้งถึงจะเห็นผลชัด
- การผ่าตัดเสริมขมับ : เป็นการใส่แผ่นซิลิโคนเสริมเข้าไปในบริเวณขมับ ซึ่งซิลิโคนมีหลายแบบ ทั้งสั่งทำพิเศษและแบบสำเร็จรูป ทั้งนี้หลังทำจะมีแผลผ่าตัดขนาดเล็กประมาณ 2–3 ซม. บริเวณไรผม ต้องใช้เวลาพักฟื้นประมาณ 1-2 สัปดาห์ เหมาะกับคนที่ต้องการปรับขมับให้เต็มแบบถาวร แต่ถ้าผลลัพธ์ไม่ถูกใจหรืออยากเอาซิลิโคนออก ก็ต้องผ่าตัดใหม่อีกครั้งครับ
ฉีดฟิลเลอร์ขมับ อันตรายไหม ?
หลายคนกังวลว่า ฉีดฟิลเลอร์ขมับอันตรายไหม จริง ๆ แล้วการฉีดบริเวณนี้ทำได้อย่างปลอดภัย หากอยู่ในมือแพทย์ที่มีประสบการณ์ เพราะบริเวณขมับมีเส้นเลือดสำคัญเชื่อมกับดวงตา (Ophthalmic artery) หากฉีดผิดตำแหน่งอาจเสี่ยงต่อเส้นเลือดอุดตันได้ แต่ถ้าฉีดโดยแพทย์ที่เข้าใจโครงสร้างผิวและใช้เทคนิคที่ถูกต้อง ก็สามารถลดโอกาสการเกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ได้ครับ
ดังนั้นสิ่งสำคัญคือ ควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน ใช้ฟิลเลอร์แท้ ดูแลโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ เพราะหากเกิดเหตุไม่คาดคิด เช่น ฟิลเลอร์อุดตันเส้นเลือด ปัจจุบันสามารถแก้ไขได้ทันทีด้วยยาสลายฟิลเลอร์ ไม่ทำให้เกิดเนื้อตายหรือตาบอดครับ
รุ่นฟิลเลอร์ที่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์ขมับ
การฉีดฟิลเลอร์ขมับ ไม่ได้เลือกฟิลเลอร์แบบใดก็ได้ครับ หากเลือกฟิลเลอร์ไม่เหมาะสม อาจทำให้ผิวไม่เรียบหรือเกิดความไม่สมดุลได้
โดยฟิลเลอร์ที่ใช้ฉีดขมับควรมีความคงตัวดี ฟูพอดี ไม่ไหลย้อย และยืดหยุ่นสูง ที่สำคัญต้องเหมาะกับการฉีดในชั้นลึกของขมับ ซึ่งแพทย์จะเป็นผู้ประเมินและเลือกให้ตรงกับปัญหาและสภาพผิวของแต่ละคนครับ
ปัจจุบันมีฟิลเลอร์หลายรุ่นที่ได้รับความนิยมและเหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์ขมับ ดังนี้
- Juvederm Ultra Plus : ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม ฟู เหมาะกับขมับลึกที่ต้องการความอิ่มฟูชัดเจน เห็นผลทันที อยู่ได้ประมาณ 8 เดือน
- Juvederm Voluma : ฟิลเลอร์เนื้อแน่นและยืดหยุ่นดี เหมาะกับขมับที่ต้องการความละมุน ดูเป็นธรรมชาติ อยู่ได้ราว 18 เดือน
- Juvederm Volux : ฟิลเลอร์เนื้อแน่น คงตัวสูง เหมาะกับขมับตอบมาก ช่วยเติมเต็มให้โครงหน้าดูสมดุล อยู่ได้ 18-24 เดือน
- Restylane Volyme : ฟิลเลอร์เนื้อนิ่มปานกลาง เหมาะกับผู้ที่มีผิวบางหรือขมับตอบเล็กน้อย เติมเต็มให้ผิวฟูเรียบเนียน อยู่ได้ประมาณ 18 เดือน
- Teoxane RHA 2 : ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด ยืดหยุ่นสูง เหมาะสำหรับขมับชั้นตื้น ให้ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ ไม่เป็นก้อน
- Teoxane RHA 3 : ฟิลเลอร์เนื้อแน่นปานกลาง เหมาะกับขมับหรือร่องลึกระดับปานกลาง อยู่ได้ราว 18 เดือน
- Teoxane RHA 4 : ฟิลเลอร์เนื้อแน่น ยืดหยุ่นสูง ปั้นทรงง่าย ใช้เติมเต็มรองลึก ปรับโครงสร้างใบหน้า ให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ อยู่ได้นาน 15-18 เดือน
- Teoxane Ultra Deep : ฟิลเลอร์เนื้อแน่น คงรูปได้ดี เหมาะสำหรับขมับลึก คาง หรือกรอบหน้า อยู่ได้ประมาณ 18 เดือน
ฉีดฟิลเลอร์ขมับ ใช้กี่ CC ? และราคาเท่าไหร่ ?
จำนวน CC ในการฉีดฟิลเลอร์ขมับ ขึ้นอยู่กับระดับความลึกของขมับที่ตอบหรือยุบลง โดยทั่วไปแพทย์มักใช้ประมาณ ข้างละ 1–2 CC เพื่อให้ขมับดูเต็มสวยเข้ารูปอย่างเป็นธรรมชาติ ซึ่งแพทย์จะประเมินหน้างานอย่างละเอียดก่อนฉีด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เหมาะสมที่สุดครับ
ส่วนเรื่องราคา ฟิลเลอร์ขมับเริ่มต้นที่ประมาณ 7,xxx บาทต่อ 1 CC ขึ้นอยู่กับยี่ห้อและรุ่นของฟิลเลอร์ที่เลือกใช้ รวมถึงปริมาณที่ต้องเติมในแต่ละเคส ซึ่งแพทย์จะแนะนำให้ตามงบประมาณและความต้องการของคนไข้ เพื่อให้ได้ทั้งความสวยและความคุ้มค่าครับ
การเตรียมตัวก่อน-หลังฉีดฟิลเลอร์ขมับ
เพื่อให้การฉีดฟิลเลอร์ขมับได้ผลลัพธ์สวยและปลอดภัย ควรมีการเตรียมตัวทั้งก่อนและหลังฉีดอย่างถูกวิธี ดังนี้
การเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์ขมับ
- ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ขมับให้เข้าใจ
- เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน ใช้ฟิลเลอร์แท้ผ่านการรับรองจาก อย.
- ตรวจสอบรีวิวจากผู้ใช้จริง และดูผลงานของแพทย์ก่อนตัดสินใจ
- งดยาแอสไพริน, ยาในกลุ่ม NSAIDs, วิตามินบางชนิด (เช่น วิตามินอี, น้ำมันปลา) อย่างน้อย 3–5 วันก่อนฉีด
- งดใช้ครีมผลัดเซลล์ผิว หรือทำการแว็กซ์บริเวณใบหน้า
- งดดื่มแอลกอฮอล์และหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีดแรง 24 ชั่วโมงก่อนฉีด
การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ขมับ
- หลังฉีดอาจมีอาการบวม แดง หรือรู้สึกตึงได้ เป็นอาการปกติ จะหายไปใน 7-14 วัน
- คลินิกจะให้ยาแก้ปวดและยาลดบวมกลับไปใช้ตามคำแนะนำของแพทย์
- ควรอยู่ในที่อากาศเย็น หลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิดอย่างน้อย 48 ชั่วโมง (เช่น ซาวน่า อบไอน้ำ)
- งดทำเลเซอร์ร้อนที่ลงลึกใต้ผิว ประมาณ 1 เดือนหลังฉีด
- ห้ามนวด กด หรือเท้าขมับในบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์
- ดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อช่วยให้ฟิลเลอร์ฟูตัวดีและอยู่ได้นานขึ้น
- ควรนอนหงายในช่วง 1–2 สัปดาห์แรก เพื่อป้องกันการกดทับฟิลเลอร์
เลือกคลินิกฉีดฟิลเลอร์ขมับอย่างไร ให้ผลลัพธ์ออกมาสวย ปลอดภัย ?
ก่อนตัดสินใจ ฉีดฟิลเลอร์ขมับ ควรตรวจสอบให้มั่นใจว่าคลินิกได้มาตรฐานและปลอดภัย เพราะบริเวณขมับเป็นจุดที่ต้องใช้เทคนิคสูงและมีเส้นเลือดสำคัญ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยเป็นธรรมชาติและลดความเสี่ยงจากภาวะแทรกซ้อน ควรเช็กให้ครบ 5 ข้อนี้ก่อนเลือกคลินิกครับ
- คลินิกถูกต้องตามกฎหมาย : ต้องมีป้ายชื่อสถานพยาบาล เลขที่ใบอนุญาต 11 หลัก และแสดงใบอนุญาตให้ประกอบกิจการในที่เห็นได้ชัด
- แพทย์มีประสบการณ์สูง : ควรเลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์สูงด้านฉีดฟิลเลอร์ ผ่านการอบรมและมีประสบการณ์ฉีดบริเวณขมับ
- มีรีวิวจากผู้ใช้จริง : ตรวจสอบจากแหล่งที่เชื่อถือได้ เช่น Facebook Reviews, Pantip หรือรีวิวจากคนไข้ในคลินิกจริง
- ใช้ฟิลเลอร์แท้ 100% : ก่อนฉีดควรให้แพทย์แกะกล่องใหม่ต่อหน้า และสามารถนำกล่องกลับไปตรวจสอบได้
- มีการติดตามผลหลังทำ : คลินิกที่ดีควรนัดติดตามผลทุกเคส และมีช่องทางให้ปรึกษาแพทย์โดยตรงหากมีอาการผิดปกติครับ
FAQ คำถามพบบ่อยเรื่องฉีดฟิลเลอร์ขมับ
Q : ฉีดฟิลเลอร์ขมับ เจ็บไหม ?
A : เจ็บนิดเดียวครับ ก่อนฉีดจะมีการแปะยาชา และในเนื้อฟิลเลอร์หลายรุ่นในปัจจุบันก็มีส่วนผสมของยาชาอยู่แล้ว อาจรู้สึกตึงหรือจิ๊ดเล็กน้อยตอนฉีด แต่ไม่ถึงขั้นเจ็บมากครับ
Q : ฉีดฟิลเลอร์ขมับ บวมกี่วัน ?
A : หลังฉีดอาจบวม แดง หรือตึง ๆ เล็กน้อย เป็นเรื่องปกติครับ โดยทั่วไปจะค่อย ๆ ยุบลงภายใน 2–3 วัน และเข้าที่ใน 1–2 สัปดาห์
Q : ฉีดฟิลเลอร์ขมับ เห็นผลเมื่อไหร่ ?
A : เห็นผลการเปลี่ยนแปลงทันทีว่าขมับเต็มขึ้น หน้าดูละมุนขึ้นครับ แต่จะสวยเข้าที่และเนียนสุดหลังฉีดประมาณ 2 สัปดาห์
Q : ฉีดฟิลเลอร์ขมับแล้วปวดหัวไหม ?
A : บางคนอาจปวดหัวเล็กน้อยหลังฉีด เพราะบริเวณขมับมีเส้นประสาทเยอะครับ อาการนี้หายเองได้ใน 1–2 วัน สามารถทานยาแก้ปวดได้
Q : หลังฉีดฟิลเลอร์ขมับ นอนตะแคงได้ไหม ?
A : ช่วงแรกแนะนำให้นอนหงายก่อนครับ ประมาณ 1–2 สัปดาห์ เพื่อป้องกันการกดทับตำแหน่งที่ฉีด จากนั้นสามารถนอนได้ตามปกติเลยครับ
สรุปฉีดฟิลเลอร์ขมับ ให้คุ้มค่าและปลอดภัย
ฉีดฟิลเลอร์ขมับ ช่วยเติมเต็มบริเวณขมับที่ยุบให้ดูเต็มขึ้น ทำให้ใบหน้าดูสมดุล และอ่อนเยาว์กว่าเดิม เหมาะกับคนที่มีปัญหาขมับตอบ ใบหน้าดูแข็ง หรือโหนกแก้มเด่นเกินไป
ก่อนตัดสินใจฉีด แนะนำให้ปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินปัญหาเฉพาะบุคคล วางแผนปริมาณและรุ่นฟิลเลอร์ให้เหมาะกับโครงหน้า เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ อยู่ได้นาน และคุ้มค่าที่สุดครับ
ติดตาม The Thaiger บน Google News:
ข่าวล่าสุด
