
เปิดใจ ‘เต๊ะ ศตวรรษ’ ความจำเสื่อมในวัย 43 ปี พูดติดขัด-กระทบชีวิตประจำวัน หมอชี้จุดเริ่มต้นโรคสมองเสื่อม เผยสาเหตุเครียดสะสม-นอนน้อย ต้องปรับชีวิตใหม่หมด
แฟน ๆ แห่ส่งกำลังใจ หลัง เต๊ะ ศตวรรษ เศรษฐกร นักร้องหนุ่มตี๋อินเตอร์ อดีตไอดอลยุค 90 ดีกรีบอยแบนด์ Teen 8 grade A ออกมาโพสต์ข้อความส่วนตัวเกี่ยวกับอาการที่น่าเป็นห่วง เขาเผยว่าอยู่ดี ๆ ก็จำหน้าคนไม่ได้ อยู่ดี ๆ ก็ไม่รู้ว่าเมื่อเช้าทำอะไรมาบ้าง หรือนึกไม่ออกว่าจะพูดอะไร ล่าสุด เจ้าตัวควงภรรยาคนสวย แจ็คกี้ และลูกสาวตัวน้อย ออกมาเปิดใจถึงอาการป่วยที่อาจนำไปสู่ความเสื่อมของสมอง
ปัจจุบัน เต๊ะ ศตวรรษ อายุ 43 ปี เผยว่าอาการเริ่มชัดเจนขึ้นในช่วงอายุ 40 ปี เขาใช้คำว่าความจำลดลงจากเดิมมาก หากเทียบกับก่อนหน้าที่จะป่วยเป็นโรคซึมเศร้า ตอนนั้นความจำเขาดีมากแต่หลังจากที่เคยป่วยเป็นซึมเศร้าประมาณ 5 ปี ความจำก็ถอยลงมาเหลือประมาณ 85-90% แต่พอมาถึงช่วง 40 ปี ความจำที่ตกลงมานั้นเริ่มชัดเจนมากขึ้น
อาการที่ภรรยาและตัวเขาเองเริ่มสังเกตได้คือ การพูดติดขัด โดยจะเอาคำสองคำมาผสมกัน เช่น คำว่า ช้อน กับ ส้อม กลายเป็น ‘ช่อม’ หรือ ‘ฟ่อม’ นอกจากนี้เขายังเริ่มจำชื่อคนและผลงานของคนไม่ได้ ซึ่งเป็นเรื่องน่าแปลกสำหรับคนทำงานเบื้องหน้าเบื้องหลังอย่างเขาที่ชอบดูว่านักแสดงแต่ละคนเล่นเรื่องอะไรมาบ้าง
แต่จุดพีคที่ทำให้ต้องรีบไปหาหมอ คือเหตุการณ์ขณะที่เขากำลังทำบ้าน มีช่างแอร์ประจำเข้ามาที่บ้านตามนัด แต่เมื่อเต๊ะมองหน้าช่าง เขากลับคิดในใจว่าคือใคร โดยเขาไม่ได้คิดว่าตัวเองลืม แต่คิดว่าช่างไปจ้างคนอื่นมาทำงานแทน อีกฝ่ายจึงต้องทักว่าเขาคือช่างที่มาทำแอร์ให้ ซึ่งนั่นเป็นจุดที่ทำให้เขารู้สึกว่าถึงเวลาที่ต้องตรวจสุขภาพแล้ว

การตรวจเริ่มต้นด้วยการทำเทส แม้สกอร์จะไม่แย่ แต่ก็มีอาการที่น่าตกใจหลายอย่าง เช่น การให้เขียนตัวเลขในนาฬิกา เขากลับเขียนเพียงเลข 1 ถึง 11 โดยไม่มีเลข 12 การทดสอบอีกอย่างคือการหักลบเลข 7 จาก 100 เมื่อคุณหมอแกล้งเปลี่ยนไปคุยเรื่องอื่นแล้วกลับมา เขากลับจำไม่ได้ว่าต้องลบด้วยเลข 7
ที่น่าเป็นห่วงคือ อาการความจำระยะสั้น หากมีการพูดคุยเรื่องหนึ่งแล้วเปลี่ยนไปเรื่องอื่น เมื่อกลับมาเต๊ะจะจำไม่ได้เลยว่าเคยคุยเรื่องอะไร ความจำเรื่องสั้น ๆ เช่น เมื่อวานทำอะไรไปบ้างหรืออาทิตย์นี้ทำอะไรไปก็จำไม่ได้ แม้จะมีความกังวลถึงขั้นมีการเข้าเครื่อง MRI แต่ผลก็ยังไม่บ่งชี้ถึงเนื้อสมองตาย
คุณหมอชี้ว่า อาการที่เกิดขึ้นเป็นสัญญาณที่ทำให้ต้องระวัง เพราะเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินไปสู่โรคสมองเสื่อมได้ หากไม่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม อดีตไอดอลเชื่อมโยงอาการปัจจุบันเข้ากับประวัติสุขภาพในอดีตอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เขาเผยว่าเคยมีภาวะโรคซึมเศร้าในอดีต มีจุดเริ่มต้นจากความเครียดจากปัญหาครอบครัวตั้งแต่เด็ก ทำให้การทำงานของสมองไม่สมบูรณ์ และส่งผลต่อสารเคมีต่าง ๆ การรักษาด้วยยาซึมเศร้าเป็นเวลา 5 ปี ทำให้ระบบความจำสูญเสียไปบางส่วน
นอกจากนี้ สาเหตุที่ทำให้อาการมาพีคในช่วงนี้ คือ ปัญหาการนอนหลับที่แย่มาก ๆ เนื่องจากปัญหาการทำบ้าน การทำงาน และปัญหาบางอย่างที่รุมเร้าชีวิตอยู่ช่วงหนึ่ง

เมื่อต้องเข้าสู่กระบวนการรักษา คุณหมอได้ให้ทานยา วิตามิน และที่สำคัญคือต้องปรับการนอนและปรับชีวิตใหม่หมด เต๊ะเล่าว่า ตอนนี้เขาต้องถอยจากการเขียนบทภาพยนตร์ และส่งต่อให้ทีมงานคนอื่นไปเขียน ที่น่าประหลาดใจคือ ภาพยนตร์ที่เขากำลังทำอยู่ดันเป็นหนังที่เกี่ยวข้องกับเรื่องความจำ เขาเล่าว่าสิ่งที่เป็นจุดสังเกตอย่างหนึ่งคือ เขาจำชื่อตัวละครในบทภาพยนตร์ที่ตนเองเขียนขึ้นมาไม่ได้
เพื่อรับมือกับอาการนี้ ชีวิตของเต๊ะจึงต้องอยู่กับตารางเวลาอย่างเคร่งครัด (on time) ต้องมีตารางและต้องเตือนตัวเองอยู่เสมอ เช่น หากทีมงานนัดโทร 14:00 น. แต่ไม่โทรมา เขาต้องเป็นฝ่ายโทรหาเอง มิเช่นนั้นจะลืมคนนั้นไปจากชีวิตเลย
ส่วนของภรรยาอย่างแจ็คกี้ ทำอาชีพเป็นแอร์โฮสเตสและมีตารางการบิน ทำให้ช่วงเวลาที่เต๊ะอาการหนักที่สุด แจ็คกี้ต้องบินไปออสเตรเลียเป็นเวลา 2 วันครึ่ง ในช่วงนั้นเต๊ะต้องดูแลลูกสาวตามลำพัง ยอมรับว่ามันหนักมากจนถึงขั้นร้องไห้ เขากลัวพลาดมาก เมื่อลูกขึ้นเตียงนอนแล้วก็ต้องมาเช็กซ้ำว่าลูกอยู่บนเตียงแล้ว
อย่างไรก็ตาม วิกฤตนี้ก็ทำให้เกิดสิ่งดี ๆ ขึ้น นั่นคือการที่เขาได้ใช้เวลาได้นอนและเล่นกับลูกสาวอย่างเต็มที่ ซึ่งปกติแล้วเขาจะทำงานหนัก
เมื่อถามถึงโอกาสหายขาด คุณหมอแจ้งว่าสามารถหายได้ เนื่องจากเนื้อสมองยังไม่ตาย แต่ต้องมีการปรับแผนการดำเนินชีวิตอย่างเคร่งครัด ต้องทานอาหารที่ดีและอาหารเสริมต่าง ๆ สามารถดำเนินชีวิตได้อย่างปกติ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ส่งกำลังใจ เต๊ะ ศตวรรษ สูญเสียความจำ ถึงขั้นลืมหน้าคนรู้จัก หมอสั่ง MRI สมองด่วน
- ร่วมยินดี ‘เต๊ะ ศตวรรษ’ เป็นคุณพ่อเต็มตัว ภรรยาคลอดลูกสาว ‘น้องยาดาห์’ วันนี้
ติดตาม The Thaiger บน Google News:





