จุลพันธ์ เตือน อนุทิน ท่าทีการทูตคลาดเคลื่อน ทำไทยเสียเปรียบกัมพูชา

จุลพันธ์ เตือน อนุทิน ท่าทีการทูตคลาดเคลื่อน ทำไทยเสียเปรียบกัมพูชา ถูกกดดันจากรอบด้าน ย้ำไม่ใช้อารมรื เพราะจะกระทบต่อประเทศ
พรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความเฟซบุ๊กระบุว่า ““จุลพันธ์” เตือนอนุทิน ปมท่าทีการทูตคลาดเคลื่อน ทำไทยสูญเสียความได้เปรียบ–ถูกกดดันรอบด้าน
เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2568 นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ถึงนายกฯ อนุทิน โดยระบุว่าการบริหารประเทศต้องใช้ข้อมูล ไม่ใช้อารมณ์ เพราะจะเกิดผลกระทบต่อประเทศและเศรษฐกิจอย่างประเมินค่าไม่ได้ โดยมีข้อความดังนี้
“การบริหารประเทศต้องตั้งอยู่บนหลักคิดและการประเมินสถานการณ์อย่างรอบด้าน ไม่ใช่การตอบสนองด้วยอารมณ์หรือคำพูดที่ขาดการชั่งน้ำหนัก เพราะถ้อยคำของผู้นำ ไม่ได้สะท้อนแค่ความคิดเห็นส่วนตัว แต่สะท้อนท่าทีของประเทศไทยทั้งประเทศต่อประชาคมโลก
เหตุการณ์ล่าสุดทำให้เห็นว่า การสื่อสารที่ขาดความรอบคอบ หรือการใช้ถ้อยคำที่อาจตีความได้หลากหลาย สามารถส่งผลกระทบในระดับการทูตและเศรษฐกิจได้ทันที ทั้งที่ในข้อเท็จจริง ประเทศไทยควรจะอยู่ในจุดที่มีหลักฐานรองรับ และสามารถยืนยันต่อเวทีนานาชาติว่าเหตุการณ์การละเมิดเริ่มต้นจากฝ่ายกัมพูชา แต่การส่งสัญญาณที่คลาดเคลื่อนกลับทำให้ประเทศต้องเผชิญความกดดันจากหลายทิศทาง แม้เรามีพื้นฐานที่น่าจะใช้สร้างความได้เปรียบได้ดีกว่านี้
ประเทศไทยมีมูลค่าการค้ากับสหรัฐฯ ประมาณ 3 ล้านล้านบาทต่อปี ตัวเลขเหล่านี้ไม่ใช่เพียงสถิติในเอกสารราชการ แต่สะท้อนถึงรายได้และความเป็นอยู่ของประชาชนหลายสิบล้านคน การสื่อสารทางการเมืองที่เชื่อมโยงประเด็นเศรษฐกิจกับความมั่นคงโดยไม่ประเมินผลกระทบให้รอบด้าน จึงอาจทำให้ความร่วมมือสำคัญหลายด้านชะงักงัน รวมถึงมาตรการปราบปรามเครือข่ายคอลเซนเตอร์ ซึ่งกระทบกับประชาชนโดยตรง
ในอดีต ประเทศไทยเคยใช้ทั้งความร่วมมือทวิภาคี พหุภาคี และการทูตเชิงรุก เพื่อสร้างความเข้าใจร่วมกับนานาประเทศบนพื้นฐานของข้อมูลและหลักฐาน ทำให้เราสามารถรักษาความได้เปรียบทางยุทธศาสตร์ไว้ได้อย่างต่อเนื่อง แต่ในสถานการณ์ครั้งนี้ ประเทศของเรากลับไม่ได้ใช้กลไกเหล่านั้นอย่างเต็มประสิทธิภาพ ข้อมูลของไทยถูกสื่อสารออกไปไม่ทันกับการตีความของนานาชาติ และทำให้เราตกอยู่ในสถานะที่ประนีประนอมได้ยากกว่าเดิม
วันนี้ ไทยจึงอยู่ในจุดที่ ถูกกดดันทั้งสองด้าน ทั้งจากประเทศคู่กรณีและจากประเทศที่เป็นคู่ความร่วมมือสำคัญ ทั้งที่เราสามารถบริหารจัดการให้ดีกว่านี้ได้ หากการประสานงาน การสื่อสาร และการดำเนินกลยุทธ์ทางการทูตถูกวางอย่างเป็นระบบและมีความแม่นยำมากกว่านี้
ผมจึงอยากชวนให้สังคมไทยร่วมกันพิจารณาอย่างใจเย็นว่า เมื่อผลลัพธ์ของการบริหารครั้งนี้นำพาให้เราสูญเสียความได้เปรียบและต้องเผชิญสถานการณ์ที่ยากลำบาก ประเทศไทยควรเดินอย่างไรต่อไป เพื่อรักษาผลประโยชน์ของชาติและประชาชนให้ได้มากที่สุด”
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- “เทพไท” อัด “อนุทิน” ตีไพ่โง่ ทำไทยเสียเปรียบเขมร บนเวทีโลก
- “จุลพันธ์” ยันมีอำนาจคุม “เพื่อไทย” มั่นใจ เลือกตั้งครั้งหน้า กวาด 200 สส.ได้แน่
- อนุทิน เผยข่าวดี ทรัมป์ การันตีไม่นำปมขัดแย้งเพื่อนบ้าน กระทบเจรจาการค้าไทย-สหรัฐฯ
ติดตาม The Thaiger บน Google News:



