ข่าว

ณวัฒน์ ปะทะเดือด กัน จอมพลัง ขอเงินบริจาคมูลนิธิคืน ชี้ปิดบังข้อมูล-ไม่โปร่งใส

บอส ณวัฒน์ บุกถามกลางวงแถลง กัน จอมพลัง ปมเงินบริจาคมูลนิธิ ชี้ปิดบังข้อมูลบางส่วน-ไม่โปร่งใส เจ้าตัว ลั่น ‘จะเอาเงินส่วนตัวคืนให้’ ณวัฒน์ สวน ต้องคืนจากมูลนิธิเท่านั้น

ออกมาชี้แจงอย่างเป็นทางการแล้ว สำหรับ กัน จอมพลัง หรือ นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หลังจากที่ถูกสังคมตั้งข้อสงสัยเรื่องเงินบริจาค ‘มูลนิธิ กัน จอมพลัง ช่วยสู้’ ล่าสุดออกมาตั้งโต๊ะแถลงข่าวแจงข้อมูลประเด็นเงินบริจาคเพื่อความโปร่งใส ณ โรงแรมอัศวิน แกรนด์ คอนเวนชั่น พร้อม น.ส.กาญจนา สถาวร ประธานมูลนิธิ และ ผู้ตรวจสอบบัญชี

ในช่วงเริ่มต้น น.ส.กาญจนา สถาวร ขอชี้แจงเรื่องจำนวนเงินของมูลนิธิที่หลายคนสงสัย ระบุว่า มูลนิธิก่อตั้งมาจากการลงขันของเพื่อน กัน จอมพลัง โดยมีเงินตั้งต้นจำนวน 5 แสนบาท จากข้อมูลล่าสุดมีเงินในบัญชีทั้งสิ้น 207,350,262.041 บาท ปัจจุบันใช้เงินไปแล้วทั้งหมด 117,673,106.02 บาท มีเงินคงเหลือในบัญชี 90,177,156.02 บาท ซึ่งการจะเบิกจ่ายได้นั้นต้องใช้กรรมการ 2 ใน 3 ลงนาม และตนเองไม่เคยไปเบิกร่วมกับใคร

กัน จอมพลัง ย้ำว่า ไม่พบการถอนเงินสดออกจากบัญชีมูลนิธิเลย เพราะเชื่อว่าเงินสดคือช่องทางที่นำไปสู่การทุจริตได้ง่าย “ใครที่บอกว่ากดออกก็ให้แสดงหลักฐาน”

ส่วนประเด็นเรื่องทำไมต้องโอนทรัพย์สินให้มูลนิธิธรรมนัส ฝ่ายบัญชีชี้แจงว่าเป็นไปตามข้อกำหนดของกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 134 ที่บังคับว่า หากมูลนิธิยุบเลิกจะต้องโอนทรัพย์สินที่เหลือไปยังมูลนิธิหรือนิติบุคคลอื่นที่ระบุไว้เพื่อป้องกันไม่ให้เงินบริจาคหายไป ฝั่ง น.ส.กาญจนา ประธานมูลนิธิ ยืนยันว่าการโอนทรัพย์สินจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อยุบเลิกมูลนิธิเท่านั้น ปัจจุบันยังไม่มีการยุบเลิก และยังไม่เคยโอนเงินให้มูลนิธิธรรมนัส

น.ส.กาญจนา ชี้แจงถึงสาเหตุที่เลือกมูลนิธิธรรมนัส กล่าวว่า เพราะตอนจดจัดตั้งมีความเร่งรีบ และ กัน จอมพลัง เคยร่วมงานกับมูลนิธิธรรมนัสในช่วงน้ำท่วมมาก่อนจึงมีความคุ้นเคยและสามารถพูดคุยได้ง่ายกว่ามูลนิธิอื่น ด้าน กัน จอมพลัง กล่าวเสริมว่า ตอนนั้นอาจคิดน้อย แต่เมื่อหลายคนไม่สบายใจ ตอนนี้ได้ประสานงานเพื่อเตรียมเปลี่ยนชื่อผู้รับโอนเป็นมูลนิธิอื่นที่มีความมั่นคงแล้ว

ในช่วงหนึ่งประธานมูลนิธิเปิดโอกาสให้ผู้สื่อข่าวสอบถามคำถามที่ยังสงสัยได้ มีคำถามหนึ่งถามถึงกรณีที่ บอส ณวัฒน์ อิสรไกรศีล หัวเรือใหญ่ MGI ได้โพสต์ข้อความเฟซบุ๊กว่า “ผมโอนช่วยกัน 50,000 เพราะ คิดว่าเป็นของกันสรุปมูลนิธิเป็นของคนอื่น ควรบอกก่อนให้คนโอน” และ “ผมขอเงินที่บริจาคไปคืนเพราะเนื่องจากไม่บอกเบื้องหลังให้ครบ ทำให้เชื่อว่าเป็นของคุณกัน” พร้อมทั้งฝากนักข่าวสอบถามว่าสามารถรับเงินคืนได้อย่างไรบ้าง

ฝั่ง กัน จอมพลัง ตอบกลับว่า “ในส่วนของพี่ณวัฒน์ เขาบริจาคมานานแล้วเนอะ ผมเชื่อว่าตอนนี้เงินในส่วนของพี่ณวัตน์คงไปทำเป็นถนนแล้วแหละ ผมเชื่อว่าถ้าพูดออกไปเดี๋ยวก็มีบางคนพูดว่าคนนี้ได้ คนนั้นไม่ได้ ถ้าพี่รู้สึกไม่โอเค เดี๋ยวผมจะเอาเงินส่วนตัวผมจ่ายให้พี่เอง ถือเป็นการรับผิดชอบ แต่ผมต้องบอกอย่างนี้ หลายท่านก็คงคิดว่าเอ้าทำไมฉันไม่ได้ ผมก็ไม่ได้มีเงินเยอะแยะมากมายนะครับ ผมมาช่วยทุกวันนี้ไม่เคยได้เงินจากมูลนิธิเลย เงินเดือนผมก็ไม่มี ประธานมูลนิธิหรือกรรมการทุกคนก็ไม่มี ถ้าพี่มีความสบายใจแบบนั้นผมก็ยินดี

บอส ณวัฒน์
ภาพจาก Instagram : nawat.tv

ต่อมา บอส ณวัฒน์ สอบถามว่า หากประชาชนต้องการเงินบริจาคคืนเนื่องจากเข้าใจผิดเพราะมูลนิธิไม่แสดงออกชัดเจน รวมทั้งเงื่อนไขการด่อตั้งมูลนิธิข้อ 39 ที่ระบุว่าหากล้มเลิกทรัพย์จะถูกไปอยู่ที่ มูลนิธิธรรมนัส พรหมเผ่า สามารถโอนเงินคืนได้เลยใช่หรือไม่ ฝั่ง น.ส.กาญจนา ตอบกลับว่า “คืนเงินได้หรือไม่ได้ เธอไม่สามารถให้คำตอบคนเดียวได้ด้าน หัวเรือใหญ่ MGI สวนกลับว่า “เป็นสิ่งที่ต้องชัดเจนนะครับ ไม่เอาเงินส่วนตัวของใคร เวลาโอนไปที่ไหนที่นั่นต้องโอนเงินกลับมา เพราะบริษัทผมเป็นบริษัทมหาชน ต้องชัดเจนเรื่องกฎหมาย เพราะข้อมูลที่ให้มาไม่ครบด้าน เพราะบริษัทเราไม่อยากข้องเกี่ยวกับเรื่องที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ฉะนั้นเราขอถอนตัวอย่างถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น

ประธานมูลนิธิ อธิบายเพิ่มเติมว่า ไม่สามารถตอบตอนนี้ได้ว่าสามารถเงินบริจาคคืนได้หรือไม่ เพราะเงินบริจาคได้บรรลุวัตถุประสงค์ของผู้บริจาคและดำเนินการใช้ไปแล้ว ตนเองเข้าใจในสิ่งที่หลายคนไม่สบายใจ ส่วนเรื่องการคืนเงินขอปรึกษาทางทนาย โดยมูลนิธิจะแจ้งภายในวันจันทร์ที่ 27 ตุลาคม 2568

จากนั้น บอส ณวัตน์ ได้ปรากฏตัวที่งานแถลงข่าวพร้อมทั้งถามว่า ทำไม น.ส.กาญจนา สถาวร ที่นั่งเก้าอี้ประธานมูลนิธิไม่เคยเปิดตัวตั้งแต่แรก แต่เพิ่งมาเปิดตัวตอนนี้ ก่อนหน้านี้ไม่มีการนำเสนอข้อมูลที่ชัดเจนว่าใครคือผู้มีอำนาจหรือประธานมูลนิธิ เธอตอบกลับประเด็นนี้ว่า “ตนเองไม่เคยปิดบังว่าเป็นประธานมูลนิธิ คนที่รู้จักและได้เห็นกันก็เปิดตัวตลอดว่าเป็นประธานมูลนิธิ รวมถึงการลงพื้นที่และประสานงานต่าง ๆ เป็นหน้าที่ของเธอด้วย เธอไม่ใช่คนในสื่อแต่ยืนยันว่าไม่เคยปิดบังว่าเป็นประธาน”

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ติดตาม The Thaiger บน Google News:

sukanlaya s.

นักเขียนบทความ SEO ประจำเว็บไซต์ The Thaiger จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เชี่ยวชาญงานเขียนประเภท ข่าวกระแสสังคม และบทความไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะเป็น รีวิวที่เที่ยว เทรนด์แฟชั่นและความงาม พร้อมแนะนำกระแสมาแรง ทันเหตุการณ์ ช่องทางติดต่อ ying@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button