ข่าวกีฬา

“มาดามแป้ง” แจงยิบ เหตุยกเลิกสัญญา “อิชิอิ” ฝ่ายเทคนิคประเมินแล้ว ชี้พลาดเป้าฟุตบอลโลก-อาเซียนคัพ ตั้ง “แอนโธนี ฮัตสัน” คุมทีมแทน

หลังปล่อยให้แฟนบอลรอนาน ล่าสุด “มาดามแป้ง” โพสต์ชี้แจงแล้ว หลังสมาคมฟุตบอลฯ สั่งปลด มาซาทาดะ อิชิอิ ยืนยันปลดเพราะผลงานไม่ตามเป้า

อย่างที่ทราบว่าเมื่อวานนี้ (21 ตุลาคม) สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ได้ประกาศแยกทางกับ มาซาทาดะ อิชิอิ เฮดโค้ชทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ทั้งที่กุนซือชาวญี่ปุ่นเพิ่งพาทัพช้างศึกชนะ ไต้หวัน ได้แบบไป-กลับ ในช่วงพักเบรคทีมชาติหนหลังสุด

แต่กลายเป็นว่าการตัดสินใจในครั้งนี้ของสมาคมฯ ทำเอาแฟนบอลส่วนใหญ่ไม่พอใจเป็นอย่างมาก รวมไปถึงตัวของ อิชิอิ เองที่ชี้ว่าทางสมาคม “ไม่มีความจริงใจต่อกัน”

ล่าสุดวันนี้ (22 ตุลาคม) “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ได้โพสต์ข้อความผ่านทางเพจเฟซบุ๊ก ถึงประเด็นดังกล่าวว่า “กราบเรียนแฟนฟุตบอลไทยที่เคารพรักทุกท่าน”

“วันนี้แป้งอยากจะออกมาพูดถึงเหตุการณ์การยกเลิกสัญญา (อย่างถูกต้องตามสิทธิ์ของผู้ว่าจ้าง และสามารถกระทำได้ตามกฎหมาย) กับโค้ช มาซาทาดะ อิชิอิ หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย ชุดใหญ่”

“การตัดสินใจของสมาคมฯ ในเรื่องนี้ ได้ผ่านการประเมินผลการทำงาน และข้อเสนอแนะตามหลักวิชาการโดยใช้สถิติ ของฝ่ายเทคนิคมาอย่างละเอียดรอบคอบ ในความจริงแล้ว เรื่องการเปลี่ยนหัวหน้าผู้ฝึกสอนนั้น เป็นเรื่องธรรมดาของวงการฟุตบอลทั่วโลก ผลงานในการแข่งขันและความสำเร็จของทีมชาติไทย เป็นส่วนสำคัญที่สุดส่วนหนึ่งของความสำเร็จของสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ โดยเฉพาะทีมชาติไทยชายชุดใหญ่ ซึ่งเป็นชุดที่ได้รับความสนใจ และเป็นความคาดหวังที่สูงสุดของแฟนบอลชาวไทย”

“ตลอดเส้นทางในวงการฟุตบอล 19 ปี แป้งเคยดำรงตำแหน่งที่เกี่ยวข้องกับฟุตบอลทีมชาติไทยมาหลายตำแหน่งอย่างยาวนาน แป้งเคยได้รับเกียรติให้เป็นผู้จัดการฟุตบอลทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ทั้งชายและหญิง รวมถึงทีมชาติไทยชายชุด U23”

“ก่อนแป้งเข้ามาดำรงตำแหน่งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ จนบัดนี้ แป้งมีแต่ความรัก ความตั้งใจจริง ความทุ่มเท และความศรัทธา ที่จะพัฒนาฟุตบอลไทยอย่างแท้จริง”

“ผลงานของฟุตบอลชายทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ที่แป้งเป็นผู้จัดการทีมที่น่าจะทำให้เป็นที่จดจำได้ ก็คือการได้แชมป์ฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน 2 สมัยซ้อน ในปี 2020 ที่ประเทศสิงคโปร์ และในปี 2022 ที่ประเทศไทย
ซึ่งขณะนั้น แป้งได้รับโอกาสจากอดีตนายกสมาคมฯ พลตำรวจเอก ดร.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ให้แป้งเลือกโค้ช ตามที่คิดว่าเหมาะสม ซึ่งแป้งก็ได้เลือก “มาโน่ โพลกิ้ง” เนื่องจากเป็นโค้ชที่ทำงานอยู่ในประเทศไทยมาอย่างยาวนาน รู้จักระบบและข้อดีข้อเสียของนักฟุตบอลไทยเป็นอย่างดี”

“ถ้าพูดถึงสิ่งที่เป็นวิทยาศาสตร์ ในโลกฟุตบอลมักจะใช้ข้อมูลสถิติ และ/หรือ Winning ratio เป็นตัวชี้วัดความสำเร็จของทีมฟุตบอล ซึ่งในยุคของ มาโน่ นั้น ตัวเลขอยู่ที่ คือ 56%”

“การที่ มาโน่ ต้องพ้นหน้าที่โดยถูกยกเลิกสัญญานั้น ก็เป็นเพราะเราตั้งความหวังในการที่จะพาฟุตบอลทีมชาติไทย ผ่านเข้ารอบฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก ให้ลึกมากที่สุด และต้องการจะพาทีมเข้าไปในรอบที่ 3 ซึ่งในการเข้ารอบ 3 นั้น เป็นสิ่งที่สำคัญมาก ที่ผ่านมามีโค้ชเพียง 2 คน ที่เคยพาฟุตบอลทีมชาติไทยเข้าไปสู่ฟุตบอลโลกรอบที่ 3 ได้ นั่นคือ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง หรือ โค้ชซิโก้ ซึ่งเป็นขวัญใจของคนไทยมาโดยตลอด Winning ratio ของโค้ชซิโก้ในขณะนั้น อยู่ที่ 50% แต่สามารถทำผลงานได้ยอดเยี่ยมมากมาย ส่วนอีกท่านที่นำทีมเข้าสู่รอบ 3 ได้ ก็คือ ปีเตอร์ วิธ ในปี 2002”

“ย้อนกลับไปวันที่ 16 พฤศจิกายน 2566 มาโน่ คุมทีมชาติไทย แพ้จีน 1-2 ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน จึงมีความกดดันที่ว่าจะต้องหาโค้ชที่ดีกว่ามาโน่ เพื่อนำพาทีมชาติไทยไปสู่รอบที่ 3 ให้ได้ จึงเป็นที่มาของการแต่งตั้ง อิชิอิ ซึ่งในขณะนั้น นั่งเป็น ผู้อำนวยการทีมชาติไทย”

“โดยทางฝ่ายเทคนิค สมาคมฯ ได้ตัดสินใจเปลี่ยนโค้ชมาโน่ ด้วยการให้ โค้ชอิชิอิ มาทำทีมชาติไทย พร้อมมีการพูดคุยอย่างชัดเจนอย่างตรงไปตรงมาของการทำทีม คือ เป้าหมายของการทำทีม คือการพาทีมชาติไทยผ่านเข้าสู่ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก รอบ 3 ให้ได้ ตามมาตรฐานที่ทีมชาติไทยเคยทำได้”

“ตั้งแต่วันแรกที่ โค้ชอิชิอิ เข้ามาคุมทีมชาติไทย แป้ง ในฐานะนายกสมาคมฯ และฝ่ายเทคนิค ได้สนับสนุนและให้อิสระในการทำงานอย่างเต็มที่ แต่สิ่งที่กระทบกระเทือนหัวใจ แป้ง และสมาคมฯ รวมถึงเชื่อว่าแฟนบอลชาวไทยมากที่สุด เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2567 ทีมชาติไทย เอาชนะ สิงคโปร์ ได้เพียง 3-1 ขาดไปเพียงลูกเดียว ที่แป้งพูดเสมอว่า “ลูกเดียววันนั้นหมายถึงอีก 4 ปี ที่ทีมชาติไทย ต้องรอคอยโอกาสในการลุ้นไปฟุตบอลโลก ครั้งต่อไป””

“นอกจากนั้น ทีมชาติไทย ยังพลาดการคว้าแชมป์ฟุตบอลอาเซียนในปี 2024 ทำให้น่าเสียใจอย่างยิ่งที่ไม่สามารถรักษาแชมป์ 2 สมัยเอาไว้ได้”

“อย่างไรก็ตาม ผลงานของอิชิอิผลงานหนึ่งที่ทำสำเร็จคือ การคว้าแชมป์คิงส์คัพที่ จ.สงขลา ซึ่งต่อมาในปีนี้ อิชิอิ ก็ไม่สามารถรักษาแชมป์ที่ จ.กาญจนบุรี ได้ตามเป้าหมาย”

“ขณะนี้ เราแทบจะไม่มีอะไรเหลือให้ลุ้นอีกต่อไป สำหรับทีมชาติไทยชายชุดใหญ่ เหลือเพียงทัวร์นาเมนท์เดียว คือ เอเชียนคัพ 2027 แน่นอนว่าเราต้องการเข้าไปเล่นรอบสุดท้าย ที่ซาอุดิอาระเบีย”

“ในวันนั้น ฝ่ายเทคนิคได้ขอเข้ามาประชุมกับแป้ง ว่าต้องการเปลี่ยนโค้ช ตั้งแต่หลังจบเกมแพ้ เติร์กมินิสถาน 3-1 แต่ขณะนั้นเหลือเวลากระชั้นชิดมากที่จะถึงเวลาการแข่งขัน และเรายังไม่สามารถตัดสินใจได้ว่าจะใช้โค้ชคนไหน อิชิอิ จึงยังคงทำหน้าที่โค้ชต่อไป”

“เมื่อวานนี้ วันที่ 21 ตุลาคม 2568 ฝ่ายเทคนิคสมาคมฯ โดย ดร.ชาญวิทย์ ผลชีวิน ผู้ที่เคยนำทีมชาติไทยชนะซีเกมส์ 4 สมัย และเป็นคนไทยคนเดียวที่ได้โค้ชยอดเยี่ยมแห่งเอเซีย และ นาวาอากาศเอก ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน นักเตะไทยคนแรกในประวัติศาสตร์ที่คว้าแชมป์เคลีก เกาหลีใต้ และเป็นดาวซัลโวเคลีก ในปี 1985 ซึ่งเป็นเกียรติประวัติของนักเตะไทยคนหนึ่งที่ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ”

“พร้อมด้วยผู้บริหารสมาคมฯ ได้เชิญ อิชิอิ เข้ามาพูดคุย และได้ชี้แจงถึงผลงาน และขอยกเลิกสัญญาให้พ้นจากตำแหน่ง โดยสมาคมฯ ได้ปฏิบัติต่อ อิชิอิ อย่างสุภาพ และเป็นไปตามสัญญาอันชอบธรรมที่โค้ชมีไว้กับสมาคมฯ โดยสมาคมฯ ต้องจ่ายเงินชดเชยให้ อิชิอิ เป็นมูลค่าครึ่งหนึ่งของเงินเดือนที่จะได้รับทั้งหมดจนสิ้นสุดสัญญา”

“หลังจากการแยกทาง สมาคมฯ โดยฝ่ายเทคนิคและแป้ง ได้รับฟังเสียงวิพากษ์วิจารณ์มาตลอดทั้งวัน ซึ่งแป้งมิได้เคยนิ่งดูดายกับทุกปัญหาที่เข้ามา ดังที่แป้งเคยพิสูจน์ให้ทราบมาแล้วโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นปัญหาวิกฤตทางการเงินที่เกิดขึ้นกับสมาคมฯ หรือ ปัญหาเกี่ยวกับลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด ซึ่งในที่สุดการเลือกที่จะเงียบในการทำงาน บางครั้งก็มักจะถูกวิพากษ์วิจารณ์เสมอ”

“ในขณะนี้ แป้ง และ ฝ่ายเทคนิค พิจารณาร่วมกันแล้วว่า ในช่วงเวลาสำคัญและกระชั้นชิดแบบนี้ จึงตัดสินใจแต่งตั้ง “แอนโธนี ฮัตสัน” ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาเทคนิคของสมาคมฯ เข้ามาทำหน้าที่แทนโดยทันที เพราะที่ผ่านมา แอนโธนี ฮัตสัน เปรียบเสมือนคนที่อยู่กับฟุตบอลไทยมาในทุกระดับ ทั้งประสบการณ์คุมทีมสโมสร และในฐานะผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาเทคนิค ที่สำคัญ ยังมีประสบการณ์ในระดับนานาชาติ ทั้งการเป็นอดีตหัวหน้าผู้ฝึกสอนของ 3 ประเทศ อย่าง ทีมชาติสหรัฐอเมริกา , ทีมชาตินิวซีแลนด์ และ ทีมชาติบาห์เรน โดยเชื่อว่าเป็นคนที่เหมาะสมมากที่สุดในเวลานี้”

“สมาคมฯ มีปัญหามากมายที่แป้งเข้ามาแก้ไข ดังที่ทุกท่านทราบกันดีอยู่แล้ว ในหลากหลายวิกฤตด้วยกัน แป้งไม่เคยดราม่า หรือ ตำหนิผู้ใด มีแต่พยายามแก้ไขต่อไปอย่างดีที่สุดท่ามกลางความยากลำบาก”

“ในวงการฟุตบอล การปลดโค้ชเป็นเรื่องธรรมดา และ “ฟุตบอลระดับทีมชาติ ไม่ใช่ห้องทดลอง เรามีเกมให้เล่นเพียงแค่ครั้งเดียวใน 90 นาทีเท่านั้น แพ้ ชนะ เสมอ มีผลต่อความรู้สึกของแฟนบอล และมีผลต่อความสำเร็จของสมาคมฯ ซึ่งมีนายกสมาคมฯ รับผิดชอบอยู่”

“ดังนั้น ไม่ว่าจะเทคนิคอะไรก็ตาม ทุกเกมมีความสำคัญ และเราใช้ตัวเลขที่เป็นวิทยาศาสตร์เป็นสิ่งชี้วัด ไม่มีอคติใดๆ แป้งเป็นคนเคารพในความเป็นมืออาชีพของโค้ชทุกคน เคยร่วมงานกับโค้ชมากมาย การปลดโค้ชเป็นสิ่งธรรมดาที่เกิดขึ้นในโลกฟุตบอล ถ้าผลงานไม่เป็นที่ประจักษ์หรือไม่สมกับความคาดหวัง อย่าลืมว่าทีมชาติไทยคือหน้าตาของประเทศไทย ที่ต้องแข่งขันเพื่อผลลัพธ์ในสนาม และความเชื่อมั่นของแฟนบอล เพราะสุดท้ายแล้ว ผลการแข่งขันของทีมชาติไทย คือสิ่งที่สะท้อนศักยภาพของฟุตบอลไทยในระดับนานาชาติ”

“มีกระแสมากมายที่เราปั้นดาวรุ่งแน่นอน เราทำคู่ขนาน รวมทั้งนักเตะที่ขึ้นมาเป็นระดับซุปเปอร์สตาร์ อย่างเช่น นักเตะยอดเยี่ยมของสมาคมฯ ปีที่แล้ว นิโคลัส มิเกลสัน ซึ่งได้รับการติดต่อจากแป้ง ตั้งแต่สมัยที่แป้งยังดำรงตำแหน่งเป็นผู้จัดการทีมชาติไทย และมีอีกหลากหลายท่าน ไม่ว่าจะเป็น เบนจามิน เดวิส , ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร หรือนักเตะดาวรุ่งอีกมากมาย”

“แป้งในฐานะนายกสมาคมฯ ออกมาแถลงการณ์นี้ เพื่อที่จะปกป้องศักดิ์ศรีของสมาคมฯ ฝ่ายเทคนิค และสภากรรมการ โดยสภากรรมการชุดนี้ตั้งใจเข้ามาทำงาน ซึ่งแป้งต้องขอขอบคุณที่เราเข้ามารวมน้ำใจกันด้วยการไม่รับเงินเดือนแม้แต่คนเดียว”

“อย่างไรก็ตาม แป้งขอกราบขอบพระคุณ และน้อมรับในทุกคอมเม้นท์ รวมถึงข้อเสนอแนะจากแฟนบอล แป้งเคารพผู้เล่นคนที่ 12 เสมอ”

“แป้งขอให้คำมั่นอีกว่า แป้งจะนำพาฟุตบอลไทยไปให้เจริญรุ่งเรืองให้ได้ ขอกราบแฟนบอลไทยให้โอกาสแป้ง และสภากรรมการชุดนี้ด้วย”

“ในฐานะนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ผู้หญิงคนแรกของประเทศไทย และคนแรกของเอเชีย แป้งรู้สึกเป็นเกียรติที่ทำหน้าที่นี้ เส้นทางนี้มีทั้งดอกไม้และก้อนหิน จิตใจของลูกผู้หญิงอย่างแป้งขอน้อมรับทุกคำติชม ด้วยความเคารพ”

“กราบจากใจ🙏 “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์

อ้างอิง : Facebook Madam Pang – มาดามแป้ง – นวลพรรณ ล่ำซำ

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ติดตาม The Thaiger บน Google News:

Bas

ผู้สื่อข่าวกีฬา จบการศึกษาคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย มีประสบการณ์เขียนข่าวกีฬากับ SMMSport กว่า 10 ปี เริ่มทำงานกับ Thaiger เมื่อ 2021 ชอบและติดตามกีฬามาตั้งแต่เด็ก โดยเฉพาะฟุตบอลทั้งบอลไทย และต่างประเทศ 5 ลีกดังของโลก พร้อมอัปเดตข่าวสารวงการฟุตบอล แบบเข้าใจง่าย ให้เพื่อนๆและแฟนบอลได้ติดตามกันทุกวัน ช่องทางติดต่อ saral@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button