แรงงานกัมพูชาในเกาหลีใต้ โอดโดนเลือกปฏิบัติ นายจ้างแห่ไม่รับทำงาน พนมเปญอ้างล้างดงสแกมเมอร์

เบื้องหลัง ฉากหน้ากระทรวงมหาดไทยกัมพูชา สงครามน้ำลายปะทุ เขมรสวนกลับเกาหลี อย่าใช้อารมณ์-โยนบาป หลังถูกกดดันหนัก ปมนรกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ รัฐบาลโสมกางตัวเลขสูญหายโยงสแกมเมอร์ข้ามชาติ ศูนย์กลางไม่ไกลพนมเปญ ผลพวงปัญหาความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศ ร้าวหนัก ! แรงงานกัมพูชาถูกดูหมิ่น-เลือกปฏิบัติ โดยเฉพาะในเกาหลีใต้นายจ้างจำนวนมากปฏิเสธรับทำงาน
จากกรณีปัญหา “สแกมเมอร์ข้ามชาติ” ลักพาตัวพลเมืองเกาหลีใต้ จนยอดตัวเลขการสูญหายของประชากรในประเทศ เลวร้าย หายตัว 330 ชีวิต โดยสถิตินี้พุ่งเกือบเท่าตัวจาก 30 ราย และนี่เองเป็นที่มาของรัฐบาลโสมประกาศจุดยืนขอยืนตรงข้ามกับอาชญากรรมค้ามนุษย์ที่มีศูนย์กลางอยู่ที่กัมพูชา
หลักฐานยืนยันความผิดที่เชื่อมโยงแน่นอนแล้ว คือ การที่สหรัฐกับสหราชอาณาจักร จัดการคว่ำบาตร เฉิน จื้อ หรือ “ออกญาเฉิน” ประธานบริษัทพรินซ์ โฮลดิ้ง กรุ๊ป (Prince Holding Group) ถูกแจ้งข้อหาหนักว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการหลอกลวงทางออนไลน์และการใช้แรงงานบังคับในระดับนานาชาติ พร้อมกับยึดบิตคอยน์จำนวน 127,271 BTC ซึ่งมูลค่าปัจจุบันเกือบ 15,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 5 แสนล้านบาท) โดยระบุว่า นี่คือปฏิบัติการยึดทรัพย์ครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของกระทรวงยุติธรรมของสหรัฐ
ขณะเดียวกันล่าสุดรายงานของเอพี (AP) เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงมหาดไทยกัมพูชา ออกแถลงการณ์เมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่า ทางกระทรวงฯ “จะให้ความร่วมมือ” กับทางการเกาหลีใต้ ในการสืบสวนคดีการเสียชีวิตของนักศึกษาชาวเกาหลีใต้ ซึ่งถูกกล่าวหาว่าถูกแก๊งอาชญากรลักพาตัวและทรมานจนเสียชีวิตในประเทศกัมพูชา
คำมั่นสัญญาดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่รัฐบาลเกาหลีใต้ได้ยกระดับมาตรการทางการทูตอย่างเต็มรูปแบบ รวมถึงการประกาศ “ห้ามเดินทาง” ในบางพื้นที่ของกัมพูชา เพื่อตอบโต้ต่อวิกฤตการณ์ที่พลเมืองของตนตกเป็นเหยื่อของอาชญากรรมข้ามชาติที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างน่าตกใจ
สำหรับชนวนเหตุของวิกฤตครั้งนี้ คือการเสียชีวิตของ นายปาร์ค มิน-โฮ นักศึกษาวัย 22 ปี ร่างของเขาถูกค้นพบเมื่อเดือนสิงหาคมในรถกระบะใกล้กับภูเขาโบกอร์ โดยทางการระบุว่าเขาเสียชีวิตจากภาวะหัวใจหยุดเต้นหลังถูกทุบตีและทรมานอย่างหนัก หลังจากที่เขาถูกลักพาตัวไปเรียกค่าไถ่เป็นเงิน 35,000 ดอลลาร์ (ราว 1,092,000 บ.)
ปัจจุบัน ตำรวจแห่งชาติกัมพูชาตั้งข้อหาฆาตกรรมและฉ้อโกงออนไลน์กับชายชาวจีน 3 คน และกำลังตามล่าผู้ต้องสงสัยชาวจีนอีก 2 คนในคดีฆาตกรรมครั้งนี้
อย่างไรก็ดีในมุมของเว็บไซต์โคเรีย เฮรัลด์ (Koreaherald) สื่อของเกาหลีใต้ เปิดเผยว่า แรงงานกัมพูชาถูกดูหมิ่นและโดนเลือกปฏิบัติ โดยเฉพาะในเกาหลีใต้ นายจ้างจำนวนมากปฏิเสธรับแรงงานกัมพูชา เราหวังว่ารัฐบาลจะคลี่คลายปัญหานี้ เพื่อปกป้องไม่ให้ผู้คนในเกาหลี โกรธแค้นเราไปมากกว่านี้อีก”

สงครามน้ำลายปะทุ เขมรสวนกลับเกาหลี อย่าใช้อารมณ์-โยนบาป หลังถูกกดดันหนัก ปมนรกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ !
ความกังวลกำลังก่อตัวขึ้นในประเทศกัมพูชาว่า ท่าทีที่แข็งกร้าวของรัฐบาลเกาหลีใต้ต่อปัญหาอาชญากรรมที่พุ่งเป้ามายังพลเมืองของตน อาจกำลังสร้างรอยร้าวที่ลึกซึ้งต่อความสัมพันธ์ทางการทูตของทั้งสองชาติ
“แรงกดดันทางการทูตของผู้นำเกาหลีไม่ได้ช่วยอะไรเลย” นายคิน เพีย ผู้อำนวยการสถาบันความสัมพันธ์ระหว่างประเทศแห่งราชบัณฑิตยสภากัมพูชา กล่าว “ในทางกลับกัน มันกลับทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศอยู่ในภาวะที่ไม่ดีต่อสุขภาพ มีเพียงความร่วมมือในระดับภูมิภาคและระดับนานาชาติเท่านั้นที่จะป้องกันปัญหานี้ได้ มันไม่ได้เกิดขึ้นแค่ในกัมพูชา”
เสียงจากพนมเปญ “เราก็คือเหยื่อ”
ท่าทีดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่ อี แจ-มยอง ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ มีคำสั่งให้ ใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ทั้งหมดเพื่อช่วยเหลือพลเมืองที่ถูกลักพาตัวและได้ส่งทีมตอบโต้ระดับสูงมายังกรุงพนมเปญ ขณะที่ ส.ส. บางคนถึงกับเรียกร้องให้ใช้มาตรการทางทหาร
รัฐบาลกัมพูชาได้ตอบโต้อย่างระมัดระวัง โดยพยายามวางตำแหน่งของตนเองในฐานะ “ผู้เคราะห์ร้าย” เช่นกัน “หากอาชญากรรมเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของเรา นั่นก็เท่ากับเป็นการเปิดโอกาสให้อาชญากรรมข้ามชาติเติบโต”
นายทัช สุขะ (Touch Sokhak) โฆษกกระทรวงมหาดไทยกัมพูชา กล่าวว่า สิ่งที่เราต้องการคือความเข้าใจจากเกาหลีใต้ว่า กัมพูชาก็ตกเป็นเหยื่อของอาชญากรรมนี้เช่นกัน “ประเทศต่างๆ ควรร่วมมือกัน แทนที่จะตัดสินใจด้วยอารมณ์หรือแสวงหาประโยชน์จากความทุกข์ของพลเมืองตนเอง การโยนความผิดมาให้ประเทศใดประเทศหนึ่ง เป็นเพียงการช่วยให้อาชญากรดำเนินกิจกรรมของพวกเขาต่อไปได้เท่านั้น”

อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกคนในกัมพูชาที่จะเห็นด้วยกับท่าทีของรัฐบาล ความไม่พอใจต่อสิ่งที่ถูกมองว่าเป็นการ “นิ่งเฉย” ของทางการต่อองค์กรอาชญากรรมก็กำลังคุกรุ่นอยู่เช่นกัน
“ดูเหมือนกระทรวงมหาดไทยจะไม่เคยพยายามจะพุ่งเป้าไปที่อาชญากรไซเบอร์เหล่านี้เลย” ความเห็นหนึ่งระบุเป็นภาษาเขมรบนหน้าเพจ Facebook ของกระทรวงฯ “พอมีคนเกาหลีตายขึ้นมา กระทรวงถึงเพิ่งจะออกแถลงการณ์”
ขณะเดียวกัน กระทรวงมหาดไทยกัมพูชาพยายามอย่างหนักที่จะกอบกู้ภาพลักษณ์ ด้วยการโพสต์วิดีโอสัมภาษณ์ชาวเกาหลีที่อาศัยอยู่ในประเทศอย่างมีความสุข
“ชีวิตที่ฉันเห็นและใช้ทุกวันที่นี่ แตกต่างอย่างมากจากสิ่งที่ปรากฏในข่าว” นายฮวาง ฮู-อิน เจ้าของคาเฟ่ชาวเกาหลีที่อาศัยในกัมพูชามา 13 ปี กล่าวในวิดีโอ
ถึงตรงนี้ทีมสืบสวนระดับสูงของเกาหลีใต้กำลังปฏิบัติภารกิจอยู่ในพนมเปญและรัฐบาลกัมพูชาก็กำลังพยายามอย่างยิ่งที่จะควบคุมสถานการณ์ แต่คำถามสำคัญที่ยังคงไร้คำตอบและแขวนอยู่ท่ามกลางความตึงเครียดครั้งนี้ คือ ท่าทีของรัฐบาลพนมเปญที่ออกมาปกป้องชื่อเสียงของประเทศนั้น เป็นความพยายามที่จะรักษาสัมพันธไมตรี หรือเป็นความพยายามที่จะปกปิด “บางสิ่งบางอย่าง” ที่พวกเขาไม่ต้องการให้โลกภายนอกได้เห็นกันแน่

ปฏิบัติการปัดกวาดของพนมเปญล่าสุด !
ทัช สุขะ โฆษกกระทรวงมหาดไทยกัมพูชา ยืนยันวันนี้ (15 ต.ค.) เจ้าหน้าที่จะทำงานร่วมกับรัฐบาลเกาหลีใต้ในการป้องกันอาชญากรรม รวมถึงแก๊งคอลเซ็นเตอร์และการพนันออนไลน์ โดยเขายังเผยความคืบหน้าจากปฏิบัติการปราบปรามอาชญากรรมไซเบอร์เมื่อเร็วๆ นี้ ทางการเขมรสามารถช่วยเหลือชาวเกาหลีใต้ได้อย่างน้อย 80 คน และนำพวกเขามาอยู่ภายใต้การคุ้มครองของตำรวจแล้ว
นอกจากนี้ ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา “กัมพูชา” เนรเทศชาวต่างชาติที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมออนไลน์ไปแล้วอย่างน้อย 15,000 รายด้วยกัน.
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- เกาหลีใต้ เอาจริง สั่งห้ามไป ปอยเปต ใครละเมิด โดนกฎหมายลงโทษ
- วิกฤตศรัทธา กระทรวงต่างประเทศเกาหลีใต้ ปมนรกสแกมเมอร์กัมพูชา สถิติลักพาตัวพุ่ง 330 ชีวิต
- เกาหลีใต้ แฉกลลวงใหม่ แก๊งคอลเซ็นเตอร์กัมพูชา ส่ง SMS ล่าเหยื่อทันทีที่เหยียบสนามบิน
ติดตาม The Thaiger บน Google News: