เปิดลิสต์ท็อป 10 เครื่องใช้ไฟฟ้ากินไฟน้อย-มาก พร้อมเคล็ดลับประหยัดไฟ

เช็กด่วน ท็อป 10 เครื่องใช้ไฟฟ้ากินไฟจัดอันดับจากน้อยไปมาก ที่คุณอาจคาดไม่ถึง พร้อมเคล็ดลับประหยัดพลังงาน ลดค่าไฟ
ใครว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านกินไฟเท่ากันหมด? วันนี้เราจะพาคุณมาเปิดลิสต์ท็อป 10 เครื่องใช้ไฟฟ้า “กินไฟ” ตัวจริงเสียงจริง โดยวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2568 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) ได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลล่าสุด โดยเซฟไทยได้จัด 10 อันดับเครื่องใช้ไฟฟ้าที่หลายคน “หลงคิดว่ากินไฟสูง” โดยเรียงลำดับจากเครื่องใช้ไฟฟ้าที่กินไฟน้อยที่สุด ไปจนถึงมากที่สุด
บางทีคุณอาจกำลังเข้าใจผิดมาตลอดว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าบางชนิดกินไฟมหาศาล แต่ความจริงอาจตรงกันข้าม แล้วมาดูกันว่ามีเครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดไหนบ้างที่ติดอันดับ และข้อมูลที่แท้จริงเป็นอย่างไร โดยทางทีมงานได้ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมจากแหล่งต่าง ๆ เพื่อให้ผู้อ่านเห็นภาพและข้อมูลที่ชัดเจนยิ่งขึ้น

อันดับ 1 พัดลมไฟฟ้า (35 – 80 วัตต์)
เริ่มต้นด้วยเครื่องใช้ไฟฟ้าสุดเบสิกอย่าง “พัดลมไฟฟ้า” หลายคนอาจมองข้ามความสำคัญของพัดลมไป แต่รู้หรือไม่ว่าพัดลมนี่แหละคือ พระเอกขี่ม้าขาว ในเรื่องการประหยัดไฟ ด้วยกำลังไฟฟ้าเพียง 35 – 80 วัตต์ (ขึ้นอยู่กับประเภทและขนาด) พัดลมจึงกินไฟน้อยกว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่น ๆ ในบ้านมาก ไม่ว่าจะเป็นพัดลมตั้งโต๊ะ พัดลมเพดาน หรือพัดลมไอเย็น พัดลมยังคงเป็นตัวเลือกที่ประหยัดพลังงานและให้ความเย็นสบายได้ดี
เคล็ดลับประหยัดไฟจากพัดลม เลือกใช้พัดลมเบอร์ต่ำ, ตั้งเวลาปิดเมื่อไม่ใช้งาน, และหมั่นทำความสะอาดใบพัดและตะแกรง เพื่อให้พัดลมทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
อันดับ 2 ตู้เย็น (70 – 175 วัตต์)
“ตู้เย็น” เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ทำงานตลอด 24 ชั่วโมง หลายคนอาจกังวลว่าตู้เย็นจะเป็นตัวกินไฟหลักของบ้าน แต่จริงๆ แล้วตู้เย็นรุ่นใหม่ๆ ในปัจจุบันมีการพัฒนาเทคโนโลยีประหยัดพลังงานไปมาก โดยตู้เย็นทั่วไปมีกำลังไฟฟ้าอยู่ที่ 70 – 175 วัตต์เท่านั้น โดยปัจจัยที่ส่งผลต่อการกินไฟของตู้เย็น ได้แก่ ขนาดของตู้เย็น, ประเภทของตู้เย็น (1 ประตู, 2 ประตู, Side-by-Side), อุณหภูมิที่ตั้ง, และความถี่ในการเปิด-ปิดตู้เย็น
เคล็ดลับประหยัดไฟจากตู้เย็น ตั้งอุณหภูมิให้เหมาะสม (ช่องแช่เย็น 5-6 องศาเซลเซียส, ช่องแช่แข็ง -18 องศาเซลเซียส), ไม่เปิด-ปิดตู้เย็นบ่อย หรือเปิดแช่ไว้นาน, ไม่นำของร้อนเข้าแช่ในตู้เย็นทันทีและหมั่นละลายน้ำแข็งเมื่อเกาะหนาเกินไป
อันดับ 3 โทรทัศน์ (80 – 180 วัตต์)
“โทรทัศน์” เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ให้ความบันเทิงแก่ทุกคนในครอบครัว แต่หลายคนอาจกังวลว่าจอใหญ่ยิ่งกินไฟมาก ในความเป็นจริง โทรทัศน์ LED/LCD รุ่นใหม่ๆ มีเทคโนโลยีประหยัดพลังงาน ทำให้กินไฟน้อยกว่าที่คิด โดยมีกำลังไฟฟ้าอยู่ที่ 80 – 180 วัตต์ ปัจจัยที่ส่งผลต่อการกินไฟของโทรทัศน์: ขนาดหน้าจอ, ประเภทของจอภาพ (LED, LCD, OLED), ความสว่างของหน้าจอ, และระยะเวลาการใช้งาน
เคล็ดลับประหยัดไฟจากโทรทัศน์ ปรับความสว่างหน้าจอให้พอดี, ปิดโทรทัศน์เมื่อไม่ได้รับชมและถอดปลั๊กเมื่อไม่ได้ใช้งานนาน ๆ
อันดับ 4 หม้อหุงข้าว (450 – 1,000 วัตต์)
“หม้อหุงข้าว” เครื่องครัวคู่ใจทุกบ้าน แม้จะเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใช้งานไม่นาน แต่ในช่วง “หุง” หม้อหุงข้าวก็ใช้พลังงานไฟฟ้าค่อนข้างมาก โดยมีกำลังไฟฟ้าอยู่ที่ 450 – 1,000 วัตต์ แต่เมื่อข้าวสุกแล้ว หม้อหุงข้าวจะลดการใช้พลังงานลงเหลือเพียง “อุ่น” ซึ่งกินไฟน้อยลง ซึ่งปัจจัยที่ส่งผลต่อการกินไฟของหม้อหุงข้าว คือ ขนาดของหม้อหุงข้าว, ปริมาณข้าวที่หุง, และฟังก์ชันการทำงาน (เช่น หุงด่วน, อุ่น)
เคล็ดลับประหยัดไฟจากหม้อหุงข้าว หุงข้าวในปริมาณที่พอดีกับมื้ออาหาร, ถอดปลั๊กเมื่อข้าวสุกและไม่ต้องการอุ่นต่อ, เลือกหม้อหุงข้าวที่มีฉลากประหยัดไฟ
อันดับ 5 เครื่องดูดฝุ่น (750 – 1,200 วัตต์)
“เครื่องดูดฝุ่น” ตัวช่วยทำความสะอาดบ้านให้ปราศจากฝุ่นละออง ด้วยมอเตอร์พลังสูง เครื่องดูดฝุ่นจึงกินไฟพอสมควร โดยมีกำลังไฟฟ้าอยู่ที่ 750 – 1,200 วัตต์ ปัจจัยที่ส่งผลต่อการกินไฟของเครื่องดูดฝุ่น คือ กำลังมอเตอร์, ประเภทของเครื่องดูดฝุ่น (แบบมีถุง, ไร้ถุง, หุ่นยนต์ดูดฝุ่น), และระยะเวลาการใช้งาน
เคล็ดลับประหยัดไฟจากเครื่องดูดฝุ่น เลือกเครื่องดูดฝุ่นขนาดและกำลังไฟที่เหมาะสมกับขนาดบ้าน, ทำความสะอาดไส้กรองและท่อดูดฝุ่นสม่ำเสมอ และวางแผนการดูดฝุ่นให้เป็นระบบ เพื่อลดระยะเวลาการใช้งาน
อันดับ 6 ไดร์เป่าผม (1,000 – 2,200 วัตต์)
“ไดร์เป่าผม” เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ดูเหมือนจะไม่กินไฟมาก แต่ด้วยขดลวดความร้อนและมอเตอร์ที่ให้ลมแรง ไดร์เป่าผมกลับเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่กินไฟ “ไม่เบา” เลยทีเดียว โดยมีกำลังไฟฟ้าอยู่ที่ 1,000 – 2,200 วัตต์ ปัจจัยที่ส่งผลต่อการกินไฟของไดร์เป่าผม คือ กำลังวัตต์ของไดร์เป่าผม, ระดับความร้อนและแรงลมที่ใช้และระยะเวลาการใช้งาน
เคล็ดลับประหยัดไฟจากไดร์เป่าผม ใช้ผ้าขนหนูซับผมให้แห้งหมาดก่อนใช้ไดร์เป่าผม, เลือกใช้ลมเย็นแทนลมร้อน (ถ้าทำได้) และใช้ไดร์เป่าผมเฉพาะเมื่อจำเป็น
อันดับ 7 เตารีดไฟฟ้า (1,000 – 2,600 วัตต์)
“เตารีดไฟฟ้า” เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ต้องใช้ความร้อนสูงในการรีดผ้าให้เรียบ จึงไม่น่าแปลกใจที่เตารีดไฟฟ้าจะกินไฟค่อนข้างมาก โดยมีกำลังไฟฟ้าอยู่ที่ 1,000 – 2,600 วัตต์ ปัจจัยที่ส่งผลต่อการกินไฟของเตารีดไฟฟ้า คือ ประเภทของเตารีด (เตารีดแห้ง, เตารีดไอน้ำ), อุณหภูมิที่ใช้รีด และระยะเวลาการรีด
เคล็ดลับประหยัดไฟจากเตารีดไฟฟ้า รีดผ้าครั้งละมาก ๆ, รีดผ้าที่ความร้อนปานกลางสำหรับผ้าที่ไม่ยับง่าย, ถอดปลั๊กเตารีดก่อนรีดเสร็จเล็กน้อย (ความร้อนที่เหลือยังรีดต่อได้) และหมั่นทำความสะอาดเตารีด
อันดับ 8 เครื่องอบผ้า (3,000 วัตต์)
“เครื่องอบผ้า” เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ตอบโจทย์ชีวิตคนเมืองเร่งรีบ แต่ความสะดวกสบายนี้ก็มาพร้อมกับค่าไฟฟ้าที่สูงขึ้น เครื่องอบผ้าเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่กินไฟ “หนักหน่วง” โดยมีกำลังไฟฟ้าสูงถึง 3,000 วัตต์ ปัจจัยที่ส่งผลต่อการกินไฟของเครื่องอบผ้า คือ ประเภทของเครื่องอบผ้า (แบบระบายลมร้อน, แบบควบแน่น), โปรแกรมอบผ้าที่เลือก, และปริมาณผ้าที่อบ
เคล็ดลับประหยัดไฟจากเครื่องอบผ้า ตากผ้าให้แห้งหมาดก่อนนำเข้าเครื่องอบผ้า, เลือกโปรแกรมอบผ้าที่เหมาะสมกับชนิดของผ้า และอบผ้าครั้งละมาก ๆ ให้เต็มความจุเครื่อง
อันดับ 9 เครื่องปรับอากาศ (1,200 – 3,300 วัตต์)
“เครื่องปรับอากาศ” ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดนี้คือ “แชมป์เก่า” ในเรื่องการกินไฟ ด้วยกำลังไฟฟ้าที่สูงถึง 1,200 – 3,300 วัตต์ เครื่องปรับอากาศจึงเป็นตัวการหลักที่ทำให้ค่าไฟบ้านพุ่งสูงขึ้นในช่วงหน้าร้อน ปัจจัยที่ส่งผลต่อการกินไฟของเครื่องปรับอากาศ คือ ขนาด BTU ของแอร์, ประเภทของแอร์ (Inverter vs. Non-Inverter), อุณหภูมิที่ตั้ง, ขนาดห้อง, ทิศทางของห้อง, และระยะเวลาการใช้งาน
เคล็ดลับประหยัดไฟจากเครื่องปรับอากาศ ล้างแอร์อย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง, ตั้งอุณหภูมิ 25-27 องศาเซลเซียส, ปิดประตูหน้าต่างให้มิดชิด, ใช้ผ้าม่านกันความร้อน และเลือกใช้แอร์ Inverter ที่ประหยัดไฟกว่า
อันดับ 10 เครื่องทำน้ำอุ่นไฟฟ้า (3,500 – 12,000 วัตต์)
และแล้วก็มาถึงอันดับ 1 เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ “กินไฟมากที่สุด” ในบ้าน นั่นก็คือ “เครื่องทำน้ำอุ่นไฟฟ้า” นั่นเอง! ด้วยกำลังไฟฟ้าที่สูงถึง 3,500 – 12,000 วัตต์ เครื่องทำน้ำอุ่นไฟฟ้าจึงเป็น “จอมเขมือบไฟ” ตัวจริง โดยเฉพาะเครื่องทำน้ำอุ่นแบบ “Stove-type” หรือแบบขดลวดทำความร้อนโดยตรง ที่ทำน้ำร้อนได้รวดเร็วทันใจ แต่ก็แลกมาด้วยอัตราการกินไฟที่สูงลิ่ว ปัจจัยที่ส่งผลต่อการกินไฟของเครื่องทำน้ำอุ่นไฟฟ้า คือกำลังวัตต์ของเครื่องทำน้ำอุ่น, อุณหภูมิของน้ำที่ตั้ง, ระยะเวลาการใช้งาน และปริมาณการใช้น้ำร้อน
เคล็ดลับประหยัดไฟจากเครื่องทำน้ำอุ่นไฟฟ้า ทำความร้อนเฉพาะเท่าที่จำเป็น (ไม่จำเป็นต้องปรับอุณหภูมิสูงเกินไป), อาบน้ำอุ่นด้วยฝักบัวแทนการแช่อ่าง (ใช้น้ำน้อยกว่า), ลดระยะเวลาการอาบน้ำ และเลือกเครื่องทำน้ำอุ่นที่มีระบบตัดไฟเมื่อน้ำร้อนถึงอุณหภูมิที่กำหนด
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับ 10 อันดับเครื่องใช้ไฟฟ้ากินไฟ ที่อาจทำให้หลายคนต้อง “ร้องอ๋อ” ไปตาม ๆ กัน หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์ ช่วยให้คุณเข้าใจพฤติกรรมการกินไฟของเครื่องใช้ไฟฟ้าแต่ละชนิดมากขึ้น และนำไปปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้งานในชีวิตประจำวัน เพื่อลดค่าไฟฟ้าในบ้าน และช่วยกันประหยัดพลังงานเพื่อโลกของเรานะคะ ครั้งหน้า หากมีการเปิดเผยข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับการใช้ไฟฟ้าอีก เราจะนำมาอัปเดตให้ทราบกันอย่างแน่นอนค่ะ
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง
- การไฟฟ้า เผย 5 เคล็ดลับ หน้าร้อนนี้ เปิดแอร์ยังไง ? ให้ประหยัดที่สุด
- เคล็ดไม่ลับ ‘เปิดแอร์’ อย่างไร ให้ค่าไฟถูกจนทึ่ง เย็นฉ่ำ ไม่ต้องระแวงค่าไฟ
- ไม่อยู่บ้านหลายวัน ควรสับเบรกเกอร์ลงหรือไม่ ป้องกันไฟฟ้าลัดวงจร
อ้างอิง: การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค PEA