เคล็ดไม่ลับ ‘เปิดแอร์’ อย่างไร ให้ค่าไฟถูกจนทึ่ง เย็นฉ่ำ ไม่ต้องระแวงค่าไฟ

Danita S.เผยแพร่: 08 พ.ค. 2567 16:39 น.| อัปเดต: 08 พ.ค. 2567 16:39 น.

94 Less than a minute

เคล็ดไม่ลับ 'เปิดแอร์' อย่างไร ให้ค่าไฟถูกจนน่าทึ่ง เย็นฉ่ำ ไม่ต้องระแวงค่าไฟ

เปิดเคล็ด (ไม่) ลับ ประหยัด ‘ค่าไฟ’ ช่วงหน้าร้อน ช่างแอร์คอนเฟิร์มแล้ว เปิดเพียง 26 องศา แล้วปล่อยให้เย็นฉ่ำตลอด 24 ชั่วโมง ทำแบบนี้ไม่มีเปลือง

เมื่อเข้าหน้าร้อนอย่างเต็มตัว อากาศประเทศไทยก็ร้อนจนแทบร้องขอชีวิต จนหลาย ๆ คนอดใจไม่ไหวต้องพึ่งความเย็นจากแอร์ แต่ยิ่งเปิดนานเท่าไหร่ ค่าไฟก็มีแต่ก็พุ่งขึ้น ๆ วันนี้ทางไทยเกอร์จึงมีบทความดี ๆ จากเว็บไซต์ setn มาฝากผู้อ่านทุก ๆ ท่าน ที่รับรองว่าใครที่กำลังกังวลเรื่องค่าไฟ หมดห่วงได้เลย

มัตสึโนะ ทากาชิ (Matsuno Takashi) หนุ่มญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่ในไต้หวันได้ออกมาเล่าประสบการณ์ฝึกงานหนึ่งวัน ในโรงงานผลิตแอร์ เจ้าตัวเผยว่าได้ข้อมูลดี ๆ จากช่างแอร์ที่มีประสบการณ์ถึง 26 ปี เกี่ยวกับ ‘วิธีการเปิดแอร์ฉบับประหยัดไฟ’

ประการแรกคือ หลีกเลี่ยงการเปิด ๆ ปิด ๆ แอร์ และตั้งอุณหภูมิไว้ที่ 26 องศา เพราะการเปิดแอร์ใหม่แต่ละครั้งจำเป็นต้องใช้กระแสไฟฟ้าสูงมาก ซึ่งจะทำให้ค่าไฟพุ่งสูงยิ่งกว่าการเปิดแอร์ต่อเนื่อง ตัวอย่างแอร์ระบบอินเวอร์เตอร์ (Inverter) ระดับประหยัดไฟเบอร์ 5 โดยแอร์ที่มีระบบอินเวอร์เตอร์นั้นจะมีฟังก์ชันปรับอุณหภูมิอัตโนมัติอยู่แล้ว ดังนั้นถ้าเราตั้งอุณหภูมิไว้ที่ 26 องศา ก็ไม่จำเป็นต้องปิดเครื่องอีกเลย แอร์จะคอยรักษาอุณหภูมิให้คงที่ และด้วยระบบประหยัดไฟ ทำให้แม้จะเปิดแอร์ทั้งวันก็ไม่ต้องกลัวกระเป๋าตังค์ฉีก

ไม่เพียงเท่านั้น ยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมด้วยว่า แอร์สมัยนี้ฟังก์ชันเยอะมาก ทั้งลดความชื้น กำจัดกลิ่น หรือล้างเครื่องอัตโนมัติ แต่ฟังก์ชั่นเยอะก็ไม่ได้แปลว่าดีเสมอไป เพราะถ้าใช้งานผิดวิธีอาจให้ผลตรงกันข้าม

แอร์อินเวอร์เตอร์

ประการที่สองคือ เลือกใช้แอร์ประเภทอินเวอร์เตอร์ ซึ่งเป็นแอร์ที่ผู้เชี่ยวชาญต่างแนะนำ และเป็นทีนิยมมากที่สุดในท้องตลาดขณะนี้ เหตุที่ต้องเลือกแอร์อินเวอร์เตอร์ก็เพราะคอมเพรสเซอร์จะทำงานปรับตามอุณหภูมิห้อง ไม่ทำให้ร้อนเกินไปหรือเย็นเกินไป ที่สำคัญต้องเป็นระบบอินเวอร์เตอร์ระดับเบอร์ 5 ถึงจะช่วยประหยัดไฟได้มากสุด กลับกันแอร์รุ่นเก่า ๆ ที่ไม่มีฉลากประหยัดไฟจะกินไฟกว่ามาก

อย่างไรก็ดี อย่าลืมว่าการเลือกซื้อแอร์ที่ดีที่สุด นอกจากเลือกประหยัดไฟเบอร์ 5 แล้ว ยังต้องดูฉลากอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อมร่วมด้วย

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง