อย่าชะล่าใจ หนุ่มใหญ่ปวดหลัง-ฉี่บ่อย พบไตวายเฉียบพลัน เพราะ 4 เมนูนี้

ช็อก หนุ่มใหญ่ปวดหลังเรื้อรัง และฉี่บ่อย หลังตรวจ CT สแกน พบไตวายเฉียบพลัน เหตุกินอาหาร 4 ชนิดนี้ เสี่ยงอันตราย พร้อมแนะ 8 วิธี ดูแลไต
เคสแปลก ชายคนหนึ่งวัย 56 ปี จากเมืองหนิงโป มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน มีสุขภาพแข็งแรงและไปตรวจร่างกายเป็นประจำ ซึ่งก็ไม่ได้มีสิ่งใดผิดปกติ แต่เมื่อไม่นานมานี้ เขามีอาการปวดหลังส่วนล่างรุนแรง ร่วมกับปัสสาวะบ่อย ปัสสาวะขัด ปัสสาวะเป็นสีเหลือง และปริมาณปัสสาวะลดลง
ในตอนแรกเขานึกว่าอาการที่เกิดขึ้นมีเหตุมาจากการนั่งทำงานหลายชั่วโมงติดต่อกัน จึงทายาแก้ปวดและพยายามเดินยืดเส้นยืดสาย แต่ผ่านไปไม่กี่วันอาการปวดกลับแย่ลง เขาถ่ายอุจจาระไม่ได้มา 2 วัน อีกทั้งปวดขาซ้ายจนเดินไม่ไหว เมื่อเพื่อนร่วม งานเห็นดังนั้นจึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลทันที
แพทย์ได้ตรวจ CT สแกน พบว่า ค่าครีเอตินิน (Creatinine) ในเลือดสูงกว่าค่าปกติหลายเท่า โดยหมอวินิจฉัยว่าเขาเป็นมีภาวะไตวายเฉียบพลันร่วมกับไตอักเสบเฉพาะจุด พบผลึกรูปแท่งในท่อไตบางส่วน
เมื่อสอบถามประวัติการรับประทานอาหาร พบว่า ชายคนดังกล่าวชอบกินอาหารรสจัด หรือรสเผ็ด ทั้ง 3 มื้อในปริมาณมากทุกวัน ทำให้มีกรดออกซาลิกสะสมในไตจำนวนมาก อาจส่งผลต่อเนื้อเยื่อไตเสียหาย และเพิ่มความสี่ยงของการเป็นไตวายเฉียบพลัน

ด้าน ‘ดร. เฉา หยานปิ’ รองหัวหน้าแผนกศัลยกรรมทั่วไป ได้ออกมาเตือนว่า อาการเริ่มแรกของโรคไตมักจะไม่ได้มีอาการใดมาก ทำให้คนส่วนใหญคาดไม่ถึง เมื่ออายุมากขึ้นการทำงานของไตจะค่อย ๆ ลดลง ซึ่งพฤติกรรมการกินที่ไม่ถูกตามสุขลักษณะ อาจเป็นปัจจัยสำคัญที่ก่อให้เกิดโรคไต นอกจากพริกแล้วแพทย์ยังเตือน 4 อาหารอันตราย หากกินมากเกินไปอาจส่งผลต่อไตได้
เช็ก 4 เมนู ทานมากไป ส่งผลต่อไต อันตรายกว่าที่คิด
1. ชาที่มีคาเฟอีน
หากดื่มชาที่มีคาเฟอีนในปริมาณที่มากเกินไป อาจทำให้เลือดไหลเร็ว ความดันโลหิตสูง เพิ่มภาระให้ไต ซึ่งกรดแทนนิกในชาเมื่อรวมตัวกับธาตุเหล็กในร่างกายแล้วจะกลายเป็นสารที่ไม่ละลาย และก่อให้เกิดนิ่วในไตได้
2. อาหารที่มีกรดออกซาเลตสูง
อาหารในกลุ่มที่มีกรดออกซาเลตสูง เช่น พริก และพืชผักบางชนิด ซึ่งมีออกซาเลตสูง หากกินมากเกินไปสารดังกล่าวจะจับกับแคลเซียมจนเกิดนิ่วในไต
3. ซุปยาจีน หรือ ซุปยาจีนต้องเคี่ยวเป็นเวลานาน
เมนูดังกล่าวมีปริมาณพิวรีนสูง การรับประทานในปริมาณมากอาจทำให้เกิดภาวะกรดยูริกในเลือดสูง นอกจากจะกระตุ้นให้เกิดโรคเกาต์เฉียบพลันแล้ว ซุปยังอาจทำให้ไตและหลอดเลือดเสียหายได้อีกด้วย
4. เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
สำหรับการดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป อาจกระตุ้นให้เกิดการสร้างออกซิเจนที่มีปฏิกิริยา ส่งผลให้เกิดอนุมูลอิสระมากเกินไป เนื้อเยื่อเสียหาย และเสี่ยงต่อการอักเสบเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ แอลกอฮอล์มากเกินไปยังส่งผลต่อตับ หัวใจ ลำไส้ และกล้ามเนื้อ
แพทย์ได้ออกมาแนะนำ 8 วิธี ปกป้องโรคไตในชีวิตประจำวัน ดังนี้
1. หลีกเลี่ยงการกินอาหารรสชาติเค็มมากเกินไป
2. กินผักและผลไม้ให้มากขึ้น
3. หลีกเลี่ยงการนั่งนานเป็นเวลานาน หรืออดนอน
4. ดื่มน้ำให้เพียงพอต่อร่างกาย เพื่อช่วยลดความเข้มข้นของสารอันตรายในไต และช่วยขับของเสีย
5. ลดการดื่มเครื่องดื่มที่มีรสหวาน มีสีและสารปรุงแต่ง เพราะอาจทำลายไตโดยตรง
6. ห้ามปัสสาวะเป็นเวลานาน
7. ไม่ควรอย่ากินยาพร่ำเพรื่อ เพราะไตเป็นอวัยวะหลักในการขับยา ฉะนั้นควรกินยาตามคำแนะนำของแพทย์
8. ควรตรวจสุขภาพเป็นประจำ โดยเฉพาะการตรวจปัสสาวะ เพื่อตรวจหาโรคไตตั้งแต่เนิ่น ๆ รวมทั้งตรวจความดันโลหิต และน้ำตาลในเลือดเป็นประจำ รวมทั้งกินยาตามแพทย์สั่ง และรักษาความดันและน้ำตาลในเลือดให้คงที่
ข้อมูลจาก : topick.hket และ weibo
อ่านข่าวเกี่ยวข้อง
- 3 เมนูอาหาร ใกล้ตัว ปนเปื้อน “ไมโครพลาสติก” สูงมาก มีคู่ครัวไทย
- หมอเจด เตือน 5 อาหาร รสชาติไม่เค็ม ทำไตเสื่อมไม่รู้ตัว
- เตือนแล้วนะ 3 อาหารค้างคืนห้ามกิน เสี่ยงก่อมะเร็ง