‘กานต์ วิภากร’ ร้องไห้ขอความเป็นธรรม หลัง ‘บิ๊ก ทองภูมิ’ ประกาศยุติบทบาทศิลปินในค่าย แจ้งสาเหตุถูกรุกล้ำความเป็นส่วนตัว เลื่อยกุญแจบ้าน ล่าสุดเมียเสกเตรียมฟ้องหลายกระทง
กลายเป็นมหากาพย์ดราม่าใหญ่โต หลังจาก บิ๊ก ทองภูมิ สิริพิพัฒน์ ได้โพสต์ข้อความผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว @bigthongpoom ขอยุติบทบาทการทำงานร่วมกับค่าย Luster Entertainment ซึ่งมี กานต์ วิภากร เป็นผู้บริหาร โดยให้เหตุผลว่าสุขภาพกายและใจไม่พร้อม ทั้งยังระบุถึงเหตุบุคคลปริศนาเลื่อยกุญแจบ้าน ทำให้รู้ึกหวาดระแวงจนไม่กล้ากลับไปที่บ้านของตัวเองด้วย
“1.ข้าพเจ้าขอยุติบทบาทการทำงานร่วมกับ Luster Entertainment เนื่องจาก สาเหตุทางด้านจิตใจและร่างกายตอนนี้ ที่ยังไม่พร้อมในการทำงาน แต่ผมยังเคารพรักพี่เสก และทางค่ายอยู่เหมือนเดิม
2.ตั้งแต่ผมได้ร่วมงานกับ Luster Entertainment ในฐานะศิลปินนั้น ผมไม่ได้มีการเซ็นสัญญาใดๆ กับทางบริษัทตั้งแต่แรกจนถึงปัจจุบัน แต่เป็นการทำงานร่วมกันในแต่ละครั้ง ซึ่งทางบริษัท จะเป็นผู้ว่าจ้างมอบหมายงานมาให้แล้วจบเป็นรายครั้งไป…
3.เนื่องด้วยตอนนี้มีเหตุการณ์ต่างๆ ที่ทำให้ผมรู้สึกหวาดระแวง และรู้สึกไม่ปลอดภัย จากการที่มีบุคคลอื่นกระทำการเลื่อยกุญแจบ้านผม และกระทำการต่างๆ ที่เป็นการรุกล้ำพื้นที่ส่วนตัว จนเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมไม่สามารถพักอาศัยในบ้านตัวเองได้ ผมคำนึงถึงความปลอดภัยของตัวผมเองมากๆ ครับ
4.ผมขออนุญาตชี้แจงเพียงเท่านี้ และขออนุญาตไม่ตอบคำถามใดๆ เพิ่มเติมอีกแล้วครับ ผมหวังว่าทุกๆ คนจะเข้าใจผมนะครับ ผมขอขอบคุณสำหรับทุกๆ โอกาสในชีวิตของผมที่เข้ามา และยังยินดีเสมอที่จะรับงานในสิ่งที่ความสามารถผมทำให้ทุก ๆ คนได้”
ต่อมา กานต์ วิกากร ภรรยาของเสกโลโซที่ได้ชักชวนบิ๊กทองภูมิมาเป็นศิลปินในค่าย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊กส่วนตัว Wiphakorn Karn Sookpimay (Karn Wiphakorn) ระบุว่า “ในกรณีนี้นะคะ สืบเนื่องจากสาเหตุเมื่อวันที่ 31 มกราคมจนถึงปัจจุบัน ในสิ่งที่คน ๆ หนึ่งที่บอกว่า หวังดีรักและดูแลเรา ดูแลครอบครัวเสก โลโซด้วยความจริงใจจากใจ อยากให้ทุกคนเห็นว่า ครอบครัวเราไม่ใช่เป็นแบบในโซเชียล เป็นแค่ต้องการปกป้องตัวเอง และครอบครัวที่เรารักเท่านั้น ไม่มีอะไรซับซ้อนเลย”
“เหมือนที่เค้าพูดแถลงข่าวอะค่ะ เค้าบอกว่าเรา จริงๆเราก็แค่เด็กน้อยไร้เดียงสาบริสุทธิ์ไม่มีอะไรเลย เค้าพูดถึงกระทั่งเราควรหยุดทำงานไม่ควรอยู่ที่นี่แล้ว เพราะมันน่ากลัวเป็นที่ ๆ ไม่เหมาะสม Toxicควรพัก เพราะเค้าเป็นห่วง แล้วเราก็ยังร้องไห้กับเขาบ่อย ๆ (คือปัญหาภายในขอไม่อธิบายค่ะ)”
ต่อไปเราจะขอชี้แจงในความเป็นจริงว่า ต้นเรื่องของเหตุการณ์ร้ายแรงนั้น คืออะไร และเรื่องงาน ปัญหาทั้งหมดที่ทิ้งให้เราและเรื่องการป่วยโรคกำเริบของเรา และเรื่องสัญญาศิลปิน !! รบกวนช่วยแชร์ไปเยอะ ๆ ด้วยค่ะ ขอความยุติธรรมคืนให้เราบ้าง และขอความจริงเรื่องเค้าเทงานกองถ่าย ซึ่งมาจากตัวเราเองเล่าให้ฟัง และในข่าวว่าไม่ใช่แค่กองเดียวมีประมาณอีก3-4 กองที่ไม่ได้เป็นข่าว แต่ไม่แน่ใจนะคะเพราะมันไม่เป็นข่าว”
“ใครที่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของเค้า คือเราไม่เคยรู้เลยไม่รู้จักมาก่อน ไม่เคยสืบไม่เคยจริง ๆ รบกวนทักอินบ็อกซ์มาอธิบายหรือบอกให้เรารู้บ้าง ในข้อมูลเกี่ยวกับเขาเพราะไม่เคยรู้อะไรเลยจริงๆสาบาน แต่ขอยืนยันว่ายังเป็นห่วงเสมอ ไม่อยากทำร้ายเค้าจากใจอย่างที่พูดไป ความบริสุทธิ์ใจ ความปรารถนาดีจากใจจริง ความรักและสิ่งดี ๆ ที่มอบให้ ก็ยังคงเดิมไม่มีเปลี่ยนแปลง
เพราะเค้าก็ได้ให้สิ่งที่มีค่า และสำคัญที่สุดกับเรา คือรอยยิ้ม และเสียงหัวเราะในช่วงเวลา 3 เดือนที่อยู่ด้วยกันมา นั่นคือบุญคุณที่เขามีต่อเรา”
“ไม่อยากทำร้ายเค้า แต่เค้ากลับทำร้ายเราและครอบครัว เพราะฉะนั้นเราจำเป็นต้องตอบโต้ และปกป้องตัวเองและครอบครัว เหมือนเดิม ขอโทษนะคะ ขอให้ทุกคนเข้าใจด้วยว่าใครกันแน่เป็นคนถูกกระทำ ที่ไม่พูดแล้วถูกด่าตลอด แต่ไม่ชี้แจงให้ชัดเจนก็เพราะไม่อยากให้เค้าหมดอนาคต!”
“ทุกอย่างที่เกิดขึ้น เราไม่เคยเป็นคนก่อ ไม่เคยเป็นคนเริ่ม ถ้าใครอยากด่าก็ด่า ถ้าใครเข้าใจจะรู้ว่าสาหัสมาก และขอขอบคุณกับทุกกำลังใจ จากใจจริงของผู้หญิงบาปคนนี้ ที่มีเรื่องไม่รู้จักหยุดหย่อน เป็นแม่มดใจร้าย ไม่เหมาะกับการเป็นภรรยาของเสกโลโซ ปูชนียบุคคลของโลกคนหนึ่ง ขอโทษนะเสกถ้ากานต์ต้องไป #บิ๊กทองภูมิ #ถ้าฉันไม่อยู่แล้วเธอจะอยู่ได้ไหม #กานต์วิภากร #เสกโลโซ”
@wiphakorn15
จากนั้นกานต์เมียเสกจึงโพสต์คลิปวิดีโอนั่งร้องไห้ พร้อมพูดความในใจ ยืนยันว่าความสัมพันธ์ของตนและบิ๊กทองภูมิ ไม่ได้รักกันแบบชู้สาว ซึ่งเรื่องนี้เสกเองก็รู้ ทว่าอีกคนเข้ามาในชีวิตอ้างว่าจะช่วยเยียวยารักษาอาการทางจิตใจ แต่สุดท้ายก็ทิ้งกันไปไม่ได้เยียวยาอย่างที่พูดไว้ ซึ่งกานต์ได้ถามกลับว่าแค่เข้ามาสร้างภาพทำคอนเทนต์หรอ? ใครมาช่วยครอบครัวเสกโลโซก็ดูดีไปหมด เพราะทำให้ผู้หญิงคนหนึ่งกลับมายิ้มได้
แต่ตอนนี้เธอต้องติดอยู่กับปัญหาที่บิ๊กสร้างไว้ ทั้งเรื่องที่เกี่ยวกับงาน และความรู้สึกจนหัวในพังทลายทรุดโทรมไปหมด ซึ่งกานต์ได้บอกอีกว่าตนเองแค่อาการกำเริบจากโรคที่ป่วย ทำให้อาละวาดบ้านแตก ซึ่งก็เป็นมาตลอด แต่ทำไมครั้งนี้บิ๊กถึงทนไม่ได้ แทนที่จะเข้าใจว่ากานต์ป่วย ต้องดูแล แต่กลับหายไปเลย
ไม่เพียงเท่านั้น หลังจากโพสต์คลิปร้องไห้ไปได้ไม่นาน กานต์ วิภากร ก็ออกมาชี้แจงผ่านเฟซบุ๊กอีกครั้ง ระบุว่า “เรียกค่าเสียหายคนละ 50 ล้านบาททุกตัว ฟ้องพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ทุกตัวที่ร่วมทำร้าย นำข้อมูลเท็จขึ้นสู่ระบบคอมพิวเตอร์ 2 คดี คือ
1. คดีเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2567 2. และคดีเมื่อวันที่ 30 มกราคม 2568 (เพราะฉะนั้น2 คดีโทษก็จะทวีคูณจากจำคุก5 ปีเป็นจำคุก 10 ปี เงินก็เหมือนกัน ค่าเสียหายก็เหมือนกันไปคูณไปบวกกันเองแล้วกัน)”
“ขอแจ้งโทษสำหรับคดี พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ จำคุก 5 ปี ปรับ 200,000 บาท หรือทั้งจำและปรับ หนีไปบวชก็ไม่ได้คนที่ต้องคดีอาญา ไม่สามารถมีสิทธิ์บวช ถ้าบวชเจ้าอาวาสอาบัติ ความผิดร้ายแรงต่อสงฆ์”
“2. ฟ้องเรียกค่าเสียหายในนามของศิลปิน “บริษัทลัสเตอร์เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ” แบ่งเป็นหัวข้อดังนี้ 1. งานคอนเสิร์ตที่แจ้ง ศิลปินทั้งหมดที่มีอยู่ตอนนี้เกือบ 60 งานทาง ศิลปินรับทราบล่วงหน้าแล้ว และมีการลงบันทึกคิวของตัวเองลงเล่มเรียบร้อยหมด
แล้ว เป็นงานที่ ทำสัญญาไปหมดแล้ว และเจ้าภาพได้จ่ายเงินแล้ว ในกรณีที่คุณพูดว่าไม่ได้เซ็นสัญญาและเป็นการจ้างแบบเป็นรายครั้งไป”
“อันนี้ขออธิบายให้ทุกคนเป็นพยานและรับทราบโดยทั่วกันว่า ตอนนี้เราได้แจ้งงานล่วงหน้าให้กับศิลปิน บิ๊ก ทองภูมิ ทั้งหมดน่าจะประมาณเกือบ 60 งาน ศิลปินรับทราบและลงนามบันทึกคิวของตัวเองลง เล่มรับรู้แล้ว เป็นลายมือของตัวเค้าเองทั้งหมด เพราะฉะนั้นเค้าพูดเองว่า เป็นการทำงานร่วมบริษัทจ่ายงานให้เป็นรายครั้งและจบไป และตอนนี้เราก็จ่ายงานเป็นรายครั้งล่วงหน้าไป เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยประมาณเกือบ 60 งาน ศิลปินรับทราบโดยสมบูรณ์แล้ว”
“แต่ยังไม่จบเพราะฉะนั้นศิลปินต้องมา เคลียร์ปัญหาที่ทิ้งไว้ให้ทางค่าย ให้เรียบร้อยแต่โดยดี ตามที่เค้าพิมพ์แถลงการณ์ของเค้าเอง ณ ตอนนี้ศิลปินไม่ไปแสดงคอนเสิร์ตตามคิวที่แจ้งไปแล้วทั้งหมด 5 งาน ซึ่งเกิดความเสียหาย ใหญ่หลวงของบริษัท แต่ละงานสำคัญและงานใหญ่เช่น festival ต่าง ๆ โทษของการไม่ไปแสดงตาม ที่ทางบริษัทจ่ายงานให้ คือ ต้องจ่ายค่าเสียหายเป็นจำนวนเงิน 10 เท่าของค่าจ้างต่อ 1 งาน ต้องจ่ายค่าปรับตามที่เจ้าภาพกำหนด และค่าเสียหายของเจ้าภาพทั้งหมดเช่นการ promote และการเตรียมงานต่างๆชื่อเสียงของบริษัทและของเจ้าภาพความเสียหายต่าง ๆ อีกหลายอย่าง”
“เทงานของบริษัทเกือบ 60 งาน ซึ่ง งานส่วนใหญ่ทั้งหมด จะขายเป็นแพ็คกับวงที่อยู่ในสังกัดซึ่งราคาจ้างานต่อ 1 งาน จะเริ่มต้นที่ 355,000 บาทถึง 550,000 บาท ต่อโพสต์หน้า ! #กานต์วิภากร #lusterentertainment #บิ๊กทองภูมิ #ไปรักกันให้ไกลๆ #sekloso”
ล่าสุด เมื่อช่วงเช้าตรู่ของวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2568 กานต์ วิภากร ได้โพสต์ข้อความชี้แจงครั้งที่ 3 ระบุว่า “เรื่องความไม่ปลอดภัยมีคนไปตัดกุญแจ เลยทำให้ไม่กล้าอยู่บ้าน ในการไปตัดกุญแจในครั้งนั้น ก็ทราบกันทุกคนอยู่แล้วเพราะทางเธอได้ทำคลิปออกมาบอกทุกคนอยู่แล้วทางเพจอีจันก็ลง เนื่องจากความผิด เดิมๆของเธอเองก็คือสนุกคึกคะนองปาก”
“ไม่เห็นจะมีความกลัวตรงไหนที่เราไปตัด เห็นยิ้มดีใจ หัวเราะสนุกสนานสะอีก แบบนี้ เท่ากับเป็นการหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา เพราะจะทำให้ปชช ทั่วไปเกิดความรู้สึกเกลียดชังต่อเรา หาว่าเราทำร้ายเธอ และเราก็เป็นบุคคลสาธารณะที่ทุกคนรู้จักทั้งประเทศ value ของเราก็พอสมควรอยู่ ค่าเสียหายที่พึงเรียกได้ก็ย่อมสูงตาม value ของเรา โทษทั้งจำและปรับและจ่ายค่าเสียหาย ว่าจะเรียกค่าเสียหาย 10 ล้านเป็นคดีอาญาด้วย หรืออาจเข้าข่าย พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ วันนี้ปรึกษาทนายต่อไป วันนี้นัดทีมทนายทั้งหมดแล้วค่ะ”
“ศิลปินต้องปฎิบัติตามระเบียบ รักษาตนให้แข็งแรง อยู่ในสภาพที่พร้อมเล่นดนตรี และขับร้อง ถ้าขาดคุณสมบัติ บริษัทมีสิทธิ ยกเลิกสัญญาทันทีโดยไม่ต้องจ่ายค่าตอบแทน และสิทธิเรียกค่าเสียหายรวมถึงค่าปรับต่างๆ ที่ทำให้ เกิดผลเสียหายต่อบริษัท อื่น ๆ อันพึงมีจากศิลปินได้อีก จึงเรียนมาเพื่อทราบ! #เสียใจที่สุด #ผ่านมาก็ให้มันผ่านไปจบไปแล้ว”
“พ่อลิงคะ ทำไมเวลาพ่อลิงถ่ายรูป ทำไมตาของพ่อลิงดูใจดีจัง ลูกลิงชอบพ่อลิงใจดี พ่อลิงถ่ายรูปให้หน่อย อยากขึ้นชิงช้าสวรรค์ พ่อลิงร้ายมากเลย ปักหมุดรูปนี้อันแรกเฉยเลยมาเล่น TikTok ลูกลิงตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย แถมเปลี่ยนโปรไฟล์เป็นรูปคู่กันอีกต่างหาก”
“มันผ่านไปแล้วลูกลิงเอ้ย หัดโตได้แล้วเลิกเป็นลูกลิงน้อยได้แล้ว พ่อลิงเค้าไม่หนีบไปไหนด้วยแล้ว หัดยอมรับความจริงได้แล้ว เลิกรอคอยให้พ่อลิงมาปกป้องดูแล เข้มแข็งได้แล้วไอ้ลูกลิงบ้า พ่อลิงเค้าเหนื่อยมากแล้ว เลิกวุ่นวายกับเค้าสักที แล้วลูกลิงก็ก้มหน้าน้ำตาไหลเดินกลับเข้าป่าไปแต่เพียงลำพัง”
ทั้งนี้จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า ณ ตอนนี้บิ๊ก ทองภูมิได้ล็อกอินสตาแกรมเป็นแบบส่วนตัว และยังไม่มีการเคลื่อนไหวเพิมเติม ต้องติดตามกันต่อว่าหลังจากนี้ ทั้งฝั่งของกานต์และบิ๊ก จะมีใครออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงในมุมของตัวเองหรือไม่.
ภาพจาก : Facebook Wiphakorn Karn Sookpimay (Karn Wiphakorn)
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ภรรยาติ๊ก ชิโร่ ประกาศตัดขาด กานต์ เมีย เสก โลโซ ลั่น เสียแรงที่เคยรัก
- กานต์-เสก นัดสื่อแถลงข่าว 10 ม.ค.นี้ ปม ลิขสิทธิ์เพลง และสัมพันธ์ บิ๊ก ทองภูมิ
- สุดจะทน! กานต์ วิภากร บุกตึกแกรมมี่ หวิดวิวาทฝ่ายกฎหมาย ปม ลิขสิทธิ์เพลง เสก โลโซ
ข่าวล่าสุด
