เพื่อนแสตมป์ ดีกรีเจ้าของเพจดัง ออกโรงโพสต์ความจริง ชี้เคยเป็นพยานให้ ‘คุณนิว’ ผู้เป็นภรรยา แต่ไม่ถึงขึ้นศาล ยันฟ้องร้องคดีชู้สาวจริง คู่กรณีเคยคบหากับแสตมป์โดยมีตนเป็นสื่อกลาง หลายเรื่องยังเล่าไม่หมด
จากกรณีดราม่าที่ “แสตมป์” อภิวัชร์ เอื้อถาวรสุข ออกมาเผยกลางคอนเสิร์ต เล่าถึงสาเหตุหายจากวงการนานนับปี แท้จริงเป็นเพราะถูกบุคคลหนึ่งตามราวีชีวิตไม่เลิก อีกทั้งภรรยาก็ถูกตามด่ากว่า 10 ปี ซ้ำยังถูกกล่าวหาว่าเป็นบ้า จนนำไปสู่การฟ้องร้อง แม้จะชนะคดีแต่อีกฝ่ายไม่ยอมจบ ถูกคุณพ่อนายพลยศพลตรีของคู่กรณีขู่ยัดคดีทางการเมือง ก่อนที่ต่อมาแฟนหนุ่มของคู่กรณีจะออกมาเปิดความจริงในฝั่งตนเอง งัดภาพหลักฐานสำนวนคดี โต้ปมถูกตัดสินคดีคุกคาม แต่ขณะเดียวกันการเคลื่อนไหวครั้งนี้ก็ได้จุดประเด็นการคบชู้ระหว่างหนุ่มแสตมป์และสาวคู่กรณีให้ถูกพูดถึงไปทั่วโซเชียล
ล่าสุด (19 มกราคม 2568) “ป้อง” เจ้าของเพจเฟซบุ๊ก โตแล้วจะไปญี่ปุ่นกี่ครั้งก็ได้ ที่มีผู้ติดตามกว่าหกหมื่นคน ผู้เป็นเพื่อนของ ‘แสตมป์ อภิวัชร์’ ได้ออกมาโพสต์ร่ายยาว เปิดความจริงที่ตนได้รับรู้มา พร้อมยืนยันว่า รับรู้เรื่องราวเกือบทั้งหมด แต่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ กับฝั่งคู่กรณี เพียงแต่เคยเป็นคนกลางที่ช่วยติดต่อสาวคู่กรณีให้กับแสตมป์เท่านั้น ก่อนจะแนบภาพแชทหลักฐานบทสนทนากับหนุ่มแสตมป์เพื่อชี้ให้เห็นความจริงว่าตนไม่ได้สร้างข่าวปลอม
‘ป้อง’ เพื่อนของแสตมป์ เผยว่า เจ้าตัวเคยเป็นหนึ่งในพยานให้ฝั่งภรรยาแสตมป์ ซึ่งก็คือ ‘คุณนิว’ แต่ไม่ถึงกับไปให้ปากคำในชั้นศาล แม้จะเป็นเพื่อนแต่กลับรู้สึกไม่สบายใจที่ได้เห็นว่าหนุ่มแสตมป์ไม่ได้เปิดเผยความจริงทั้งหมด จนเรื่องราวกลายเป็นเช่นนี้ จึงตัดสินใจใช้พื้นที่เพจตนเองเปิดเผยเรื่องราวที่ได้รับรู้มา ยืนยันเป็นการฟ้องร้องคดีชู้สาวจริง เพื่อนของตนเคยโกหกตนจนทำให้เข้าใจนิวผิดไป ก่อนจะทิ้งท้ายว่าได้ติดต่อเช็กข้อมูลกับทางสองศิลปิน ‘โอม Cocktail’ และวง ‘Tillybird’ ทำให้ทราบว่ารับสารมาไม่ตรงกันหลายเรื่อง
โพสต์ฉบับเต็มระบุข้อความไว้ดังนี้ “สวัสดีครับ ผมชื่อ ป้อง เป็นเพื่อนกับแสตมป์ ผมคือหนึ่งในพยานให้นิว คดีชู้สาว (แต่ไม่ถึงปากที่ให้ไปขึ้นศาล) ผมไม่มีความเกี่ยวข้องใด ๆ กับคู่กรณีทั้งแจมและแก๊ปแต่ผมเป็นคนกลางติดต่อแจมให้แสตมป์ในช่วงเวลาที่เขาติดต่อกันเองไม่ได้ ผมรู้เรื่องราวเกือบทั้งหมดของปัญหานี้ แบบมีหลักฐานเป็นแชททุกช่องทางกับแสตมป์ (แต่ไม่รู้ว่าเป็นคำโกหกของเพื่อนผมหรือไม่)
แม้ผมจะเป็นเพื่อนแสตมป์ แต่ผมรู้สึกไม่โอเคกับการเล่าบนเวทีเพราะแสตมป์เล่าไม่หมด จึงเกิดความวุ่นวายในสังคม ศิลปินและบุคคลหลายคนได้รับผลกระทบทั้งๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับปัญหาของ 4 คนนี้เลย
ผมได้คุยไลน์กับแสตมป์ครั้งสุดท้ายหลัง 30 พฤษภาคม 2566 ไม่กี่วัน (ซึ่งตอนแรกผมต้องไปเป็นพยาน) โดยให้ผมเช็ค IG แจมว่าลบรูปบางอย่างไปหรือยัง ผมตอบไปแล้วหลังจากนั้นผมไม่ได้คุยกับเพื่อนผมอีกเลย จนเกิดเหตุพูดบนเวที ผมทักไลน์ไปว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมยังมีปัญหาอีก เห็นว่าจบ แยกย้ายต่างคนก็ใช้ชีวิตกันไปแล้ว กลายเป็นนิวตอบไลน์มาว่า “ไม่ต้องห่วง ไว้ว่ากันกำลังมีคนโพสด่าอยู่พอดี” แล้วไม่ตอบอะไรผมอีกเลย
ผมรอให้คู่กรณีคือแก๊ปได้โพสก่อน เพื่อจะได้อธิบายว่าเป็นคดีชู้สาว ไม่ใช่เป็นเรื่องการคุกคามแบบซาแซงที่แสตมป์เล่าบนเวที ถ้าบนเวทีแสตมป์เริ่มต้นว่า ทุกคนครับ ผมนอกใจเมียผมเป็นเวลา 2 ปีก่อนที่เมียผมจะจับได้ แล้วหลังจากนั้นจึงเกิดเรื่องราวต่าง ๆ ขึ้นครับ (อย่างที่พูดบนเวที) สารที่ประชาชนรับรู้ จะต่างไปจากตอนนี้ ไม่มากไม่น้อยอย่างแน่นอน อาจจะไม่เกิดเหตุการณ์ทัวร์ไปลงผิด ศิลปินหลายคนก็ไม่ต้องเกี่ยวข้องเลยแบบนี้
ความจริงผมก็ไม่เกี่ยวข้องเลย แต่ยอมที่จะแลกเพราะ ทำไมเรื่องความรักที่ไม่ปกติของ 4 คน ต้องมีผู้ไม่เกี่ยวข้องได้รับผลกระทบแบบนี้ สังคมวุ่นวายไปหมด แฟนเพลงของแต่ละคนต้องมาปะทะกันเอง อย่างที่ผมเคยทวีตไปว่า ไม่สงสัยเลยหรอว่าศิลปินเกือบทั้งวงการทราบเรื่อง แต่ทำไมไม่มีใครอยากยุ่ง เพราะ
1. ทุกคนอาจมีแผล หากเข้ามายุ่งเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง อาจถูกขุดแบบมั่ว ๆ ก็ได้ จึงเลือกที่จะเงียบเสียดีกว่า
2. ถ้าออกมาเทคแอคชั่นแล้ว แฟนเพลงฝ่ายนั้นไม่เชื่ออีก ก็กลายเป็นทำให้แฟนเพลงปะทะกันเองแบบที่เกิดขึ้นตอนนี้
3. ถ้าประชาชนรู้ว่าแสตมป์นอกใจเมีย คนที่พังคือตัวแสตมป์เอง
ในเมื่อไม่มีใครเล่าอะไรให้ชัดเจน (แบบไม่โกหก) ผมขอใช้พื้นที่เพจ โตแล้วจะไปญี่ปุ่นกี่ครั้งก็ได้ โพสแบบยาว ๆ เพื่อที่จะให้ทุกคนทราบ พฤติกรรมความไม่ปกติหลายๆ อย่างจากทั้งแสตมป์และนิว
ผมไม่กลัวว่าจะถูกฟ้องกลับจากฝ่ายใดเลย หากผมยึดหลักพูดความจริงจากหลักฐานแชททั้งหมด หากถูกฟ้องจะต้องมีการพิสูจน์ก่อนว่าผมพูดเท็จ แม้แชทจะเป็นเรื่องโกหกที่แสตมป์เล่ากับผมก็ตาม
ตัวอย่างแรก แสตมป์เคยบอกผมว่า เขาไม่ได้เงินใช้เลยเงินอยู่ที่นิวทั้งหมด เขาอยากสร้างบ้านใหม่ให้แม่ นิวก็ไม่ให้เงิน
เรื่องนี้แสตมป์บอกผมปี 64 เลยทำให้ผมไม่ชอบนิว แต่พอต้องขึ้นศาล ผมไปเล่าให้ทนายฟังแบบนี้ มีการบันทึกเทปไปให้นิวกับแสตมป์ฟังว่าผมพูดอะไรบ้าง วันต่อมา แสตมป์มาขอโทษผมว่าเรื่องทั้งหมด เขาโกหกผมมาตลอด หากแสตมป์โกหกผมแบบนี้ แสตมป์ก็สามารถโกหกให้นิว แจม และทุกคนเข้าใจผิดได้เช่นครับ
ขอจบเรื่องแรกเท่านี้ก่อนครับ ไว้จะมาอธิบายความประหลาดอื่น ๆ อีก หมายเหตุ : 1. ก่อนโพสนี้ผมได้คุยกับ โอม Cocktail และวง Tillybird แล้วด้วย เพื่อเช็ความข้อมูลฝ่ายเขา ตรงกับผมที่ได้รับจากแสตมป์ไหม ปรากฎว่า ไม่ตรงกันหลายเรื่อง (ตอนนี้ทั้งหมดบินไปอเมริกาเมื่อคืนนี้) 2. ขอบคุณคุณ Art Eakarat ที่ให้คำปรึกษาด้วยครับ
ปล. ถ้าหลายจากนี้มีชื่อ ผัก อยู่ ผักคือ aka ที่แสตมป์ใช้เรียก แจม ครับ”
ทั้งนี้ โพสต์ดังกล่าวได้รับความสนใจอย่างล้นหลามภายในเวลาหนึ่งชั่วโมง ยอดกดไลก์ทะลุไปกว่า 7.6 พันครั้ง จำนวนความคิดเห็นอีกกว่า 3.3 พันครั้ง ทั้งยังถูกแชร์ไปมากกว่า 8.5 พันครั้งแล้ว ซึ่งมุมมองความคิดเห็นของแต่ละบุคคลก็แตกต่างกันออกไป มีทั้งโจมตีฝั่งคู่กรณี โจมตีหนุ่มแสตมป์ หรือแม้แต่ติงเจ้าของโพสต์ที่ออกมาเผยเรื่องคดีคบชู้ แทนที่ให้ความเห็นใจถึงปมการถูกคุกคาม
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- แฟนคู่กรณีแสตมป์ งัดภาพสำนวนคดี โต้ความจริง ไม่เคยถูกตัดสินคดีคุกคาม
- แสตมป์-ภรรยา ถูกคุกคามนาน 10 ปี นายพลขู่ยัดคดี จนหายจากวงการ
- แสตมป์ อภิวัชร์ เปิดชื่อคนพ้นสภาพพนักงาน หลังภรรยาถูกปล่อยข่าวเท็จ